เทคนิคการเลี้ยงเต่าญี่ปุ่น
ใครมีแพลนว่าจะหาสัตว์เลี้ยงมาเลี้ยงไว้เป็นเพื่อนแก้เหงากันบ้าง หากกำลังมองหาเต่าสักตัวไว้เลี้ยงเป็นเพื่อนเล่นยามเหงาล่ะก็ เราอยากแนะนำเต่าญี่ปุ่นไว้ให้เพื่อนๆได้พิจารณากันดู เพราะหากเลี้ยงและดูแลอย่างถูกวิธี เต่าญี่ปุ่นมีอายุยาวนานถึง 30 ปีเลย งั้นเราไปดูกันดีกว่าว่าการเลี้ยงเต่าญี่ปุ่นจะมีวิธีไหนบ้าง 1.การเลือกซื้อเต่าญี่ปุ่น ก่อนเลือกซื้อเต่าเราควรสังเกตความสะอาดภายในร้านกันก่อนนะคะ เพราะความสะอาดจะบ่งบอกว่าเจ้าของร้านใส่ใจในการดูแลเต่าหรือเปล่า ซึ่งมันสามารถบ่งบอกถึงสุขภาพของเต่าด้วยนั่นเองค่ะ 2.อาหารของเต่าญี่ปุ่น เต่าญี่ปุ่นสามารถกินได้ทั้งพืชและสัตว์ ซึ่งผักควรเป็นผักใบเขียวที่มีกากใยอาหารสูง ส่วนสัตว์อาจเป็นปลาเหยื่อหรือกุ้งสดได้ค่ะ แต่อาหารต้องสด ใหม่ และสะอาดด้วยนะคะ เพื่อให้เต่าของเรามีสุขภาพที่ดีพร้อมทั้งได้รับสารอาหารครบถ้วนด้วยค่ะ 3.การเปลี่ยนน้ำ เต่าเป็นสัตว์ที่กินและขับถ่ายในน้ำ ผู้เลี้ยงจึงควรเปลี่ยนน้ำสะอาดให้ทุกวันหรือเมื่อน้ำไม่สะอาด เพราะหากปล่อยให้น้ำสกปรกอาจทำให้เต่าไม่สบายได้ โดยผู้เลี้ยงต้องวิดน้ำออกให้หมดแล้วเติมน้ำสะอาดลงไปใหม่ ถือเป็นการออกกำลังกายของผู้เลี้ยงไปในตัวด้วยนะคะ 4.สถานที่เลี้ยงเต่าญี่ปุ่น สถานที่เลี้ยงเต่าญี่ปุ่นควรมีขนาดพอดีพอเหมาะกับเต่า โดยมีสระว่ายน้ำสำหรับให้เต่าได้เล่นน้ำเพื่อช่วยลดความเครียด และมีบกให้เต่าสามารถขึ้นมาพักเหนื่อยได้ หรือหากมีบริเวณที่ให้เต่าอาบแดดในยามเช้าด้วยจะดีมากๆเลยค่ะ 5.การตากแดดในยามเช้า หากสถานที่เลี้ยงเต่าไม่มีแสงแดดส่องถึง ผู้เลี้ยงควรพาเต่าออกไปรับแสงแดดยามเช้าหน้าบ้านประมาณ 1 ชั่วโมง เพื่อให้เต่ามีสุขภาพที่ดี และต้องระวังไม่ให้แดดแรงจนเกินไปนะคะ ให้อยู่ในช่วง 07.30 – 08.30. เวลานี้กำลังดีเลยค่ะ หลายคนอาจจะมองว่าเต่าญี่ปุ่นเลี้ยงง่ายเหมือนเต่าทั่วไป แต่หากเราไม่รู้วิธียการเลี้ยงและการดูแลที่ถูกวิธีก็อาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะคะ หากใครที่อยากเลี้ยงจริงๆก็ควรศึกษาวิธีการเลี้ยงและเตรียมความพร้อมในการเลี้ยงให้ดีก่อนอย่างที่เราได้แนะนำไปข้างต้น หวังว่าการเลี้ยงเต่าญี่ปุ่นจะช่วยให้ผู้เลี้ยงมีความสุขนะคะ ยิ่งถ้าเราเลี้ยงถูกวิธีเต่าญี่ปุ่นสามารถอยู่กับเราไปยาวๆเลยค่ะ #เต่าญี่ปุ่น #เต่า #สัตว์โลกน่ารัก
เทคนิคการดูแลกระรอก
สำหรับการเลี้ยงกระรอกนั้นค่อนข้างได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน เพราะเป็นสัตว์ที่น่ารักไม่ต่างไปจากสัตว์เลี้ยงอื่นๆ แต่สำหรับการเลี้ยงกระรอกต้องได้รับการดูแลมากกว่าสัตว์เลี้ยงอื่นๆ เพราะเป็นสัตว์ที่เคยอาศัยอยู่ในป่า จึงต้องดูแลใส่ใจมากกว่าสัตว์ทั่วไปเพื่อให้คุ้นชินกับคนมากที่สุด ส่วนการดูแลกระรอกจะมีอะไรบ้างนั้น ตามไปดูกันเลย 1.การดูแลที่อยู่ของกระรอก หากนำกระรอกมาเลี้ยงตั้งแต่เล็กๆควรให้ความอบอุ่นมากกว่ากระรอกโต และควรทำกรงให้ลูกกระรอกอยู่ โดยนำผ้ามาวางไว้ให้กระรอกซุกเพื่อเพิ่มความอบอุ่น และให้กระรอกรู้สึกปลอดภัย 2.การดูแลความสะอาดของกระรอก กระรอกเป็นสัตว์ที่ไม่จำเป็นต้องอาบน้ำให้บ่อยๆ เพราะการอาบน้ำจะทำให้น้ำเข้าจมูก จนกระรอกเป็นหวัดหรือปอดชื้นได้ ผู้เลี้ยงจึงควรใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดตามตัว แต่หากอาบน้ำแล้วก็ควรใช้ไดร์เป่าเพื่อให้ตัวของกระรอกแห้งนะคะ 3.การดูแลสุขภาพของกระรอก กระรอกมักถูกนำมาเลี้ยงตั้งแต่ยังไม่หย่านม จึงทำให้ขาดภูมิคุ้มกัน เพราะไม่ได้กินนมแม่ ผู้เลี้ยงจึงควรให้นมแพะหรือนมผงสำหรับเด็กแรกเกิด และอาจเป็นนมถั่วเหลืองแทนได้ แต่ไม่ควรปรับเปลี่ยนนมทันที ค่อยๆปรับเปลี่ยนทีละชนิดและคอยสังเกตอาการของกระรอกด้วย ส่วนนมที่ไม่ควรให้กระรอกกินเลยก็คือนมวัว 4.การอาบน้ำกระรอก การอาบน้ำให้กระรอกควรใช้น้ำเปล่าอาบ และแชมพูที่ใช้ควรเป็นแชมพูของสุนัขที่อ่อนที่สุด ซึ่งก่อนใช้แชมพูอาบให้กระรอกควรนำไปละลายน้ำเพื่อให้เจือจางอีก 3-4 เท่าก่อนนำมาอาบนะคะ 5.การเจ็บป่วยของกระรอก การเลี้ยงกระรอกต้องดูแลเป็นพิเศษ เนื่องจากกระรอกมีปัญหาสุขภาพหรือเจ็บป่วยบ่อยพอสมควร โดยเฉพาะอาการปอดบวม สาเหตุของอาการปวดบวมมักเกิดมาจากการอาบน้ำ การเปลี่ยนอาหาร หรืออากาศที่เย็นเกินไป และอาจส่งผลให้กระรอกเสียชีวิตได้ สำหรับผู้เลี้ยงคนไหนที่กำลังจะตัดสินใจเลี้ยงกระรอกต้องมั่นใจว่ามีเวลาให้กระรอกด้วยนะคะ เพราะกระรอกต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษมากกว่าสัตว์เลี้ยงทั่วไป เนื่องจากกระรอกเป็นสัตว์ที่อยู่ตามธรรมชาติ ไม่คุ้นชินกับคนหรือสถานที่ใหม่ๆที่ไม่ใช่ป่า แต่หากตัดสินใจดีแล้วก็ขอให้มีความสุขกับการเลี้ยงกระรอกน้อยนะคะ และหวังว่าเทคนิคการดูแลกระรอกในครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับผู้เลี้ยงมือใหม่หลายๆคนได้ศึกษาและทำความเข้าใจเกี่ยวกับการดูแลกระรอกมากขึ้นค่ะ #กระรอก #เทคนิคการดูแลสัตว์ #สัตว์โลกน่ารัก
เทคนิคการเลี้ยงเฟอเรท
เฟอเรทเป็นสัตว์เลี้ยงที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นสัตว์เลี้ยงที่น่ารักและเหมือนเด็กมากๆ สำหรับคนที่ต้องการจะเลี้ยงเฟอเรทหรือเพิ่งเริ่มต้นเป็นมือใหม่หัดเลี้ยง จะต้องทำอย่างไรบ้างไปดูกันเลยค่ะ 1.อาหารสำหรับเฟอเรท เนื่องจากเฟอเรทจัดอยู่ในสัตว์ประเภทกินเนื้อจึงไม่ควรให้กินอาหารสุนัขหรืออาหารแมวที่มีเกรดต่ำ เพราะจะได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ และควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลเป็นหลัก การป้องกันเพื่อไม่ให้เฟอเรทเล่นน้ำควรใส่น้ำให้เป็นขวดจุก หากหาซื้ออาหารสำหรับเฟอเรทไม่ได้แนะนำให้เอาเนื้อไก่กินแทนได้นะคะ 2.การเลี้ยงดูเฟอเรท สำหรับการเลี้ยงดูเฟอเรท เราควรที่จะตัดเล็บอาทิตย์ละ 1 ครั้ง และอาบน้ำให้เฟอเรทอย่างสม่ำเสมออย่างน้อยเดือนละ1 ครั้ง เพราะเฟอเรทจะเป็นสัตว์ที่มีกลิ่นตัวแรงการควบคุมกลิ่นที่พอจะช่วยได้บ้างคือการเปลี่ยนผ้าและการดูแลรักษาความสะอาดภายในกรง ส่วนการอาบน้ำนั้นได้ผลเพียงชั่วคราวเท่านั้นค่ะ 3.สถานที่เลี้ยงเฟอเรท ควรเลี้ยงในกรง และกรงจะต้องไม่เล็กหรือใหญ่จนเกินไป เพราะอาจจะทำให้เฟอเรทมุดออกมาได้ และในกรงควรจะมีเปลไว้สำหรับให้เฟอเรทได้นอนเล่น 4.ลักษณะนิสัยของเฟอเรท เฟอเรทเป็นสัตว์ที่มีนิสัยอยากรู้อยากเห็น มีความว่องไวและขี้เล่น และมักจะติดคนเลี้ยง เราควรจะให้เฟอเรทออกมาเล่นนอกกรงบ้างอย่างน้อย 1 ชั่วโมง ถ้าฝึกจะทำให้เฟอเรทเชื่อง เฟอเรทจะมีรูปร่างหน้าตาน่ารักคล้ายกับแมวสามารถฝึกให้คุ้นเคยได้โดยใช้อาหารล่อ แต่คนเลี้ยงต้องใช้ความอดทนสูง เพราะมันจะติดเล่น เล่นกับมัน ฝึกกับมันสักพักมันก็จะเริ่มเบื่อ ไม่สนใจ และจะไปเล่นอย่างอื่นแทน 5.ข้อควรระวัง การที่เราเลี้ยงเฟอเรทเราไม่ควรทำให้มันตกใจนะคะ แม้เฟอเรทจะเป็นสัตว์หน้าตาน่ารัก แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เจ้าเฟอเรทตกใจ ก็จะปล่อยกลิ่นที่ไม่พึ่งประสงค์ออกมาได้ตลอดเวลาที่มีการตกใจ และเวลาเฟอเรทถ่ายเราควรจะตักทิ้งอย่างน้อยวันละครั้งและควรมีกระบะทรายไว้สำหรับดูดกลิ่นค่ะ เฟอเรทเป็นสัตว์เลี้ยงที่มีความใกล้ชิดกับคนมาก มีความซุกซนเหมือนเด็ก ผู้เลี้ยงต้องเข้าใจธรรมชาติและดูแลด้วยความรักเอาใจใส่จริงๆ หากได้ลองเลี้ยงรับรองว่าหลงรักในความน่ารักของน้องแน่นอน สำหรับใครที่มีความคิดที่อยากเลี้ยงเฟอเรทก็ลองคิดทบทวนดูหลายๆรอบก่อนนะคะ ก่อนที่จะรับเขามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเราก็ควรที่จะศึกษาให้ดีเสียก่อน หากต้องการที่จะให้เฟอเรทอยู่กับเราอย่างมีความสุข มีสุขภาพที่แข็งแรง สำหรับใครที่สนใจจะเลี้ยงและคิดทบทวนศึกษาขั้นตอนการเลี้ยงเฟอเรทเป็นอย่างดีแล้ว ก็ขอให้มีความสุขกับการเลี้ยงเฟอเรทสัตว์น้อยหน้าตาน่ารักน่าชังกันนะคะ’ […]
เทคนิคการเลี้ยงกิ้งก่าคาร์เมเลี่ยน
ก่อนเราจะตัดสินใจเลี้ยงกิ้งก่าคาร์เมเลี่ยนเราควรทำการศึกษาให้ดีก่อนนะคะ คาร์เมเลี่ยนเป็นที่ต้องการของผู้เลี้ยงส่วนใหญ่ สายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมและเป็นที่รู้จักคือ แพนเทอร์ เวลล์ คาร์เพท พาโซนี่ แจ็คสัน มิลเลอร์ เป็นต้น ซึ่งคาร์เมเลี่ยนทุกชนิดมีความต้องการพื้นฐานใกล้เคียงกัน ทั้งในเรื่อง ที่อยู่อาศัย อาหารการกิน และสุขภาพ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้เลี้ยงต้องคอยเอาใจใส่ จัดการดูแล คาร์เมเลี่ยนให้มีสุขภาพดีอยู่ตลอดเวลา การเลือกซื้อคาร์เมเลี่ยน 1.อันดับแรกเลยนะคะเราต้องเลือกซื้อตามความต้องการและเหมาะสม ผู้ที่จะเลี้ยงมีความสามรถที่จะดูแลคาร์เมเลี่ยนชนิดไหนได้ดีที่สุด และต้องขึ้นอยู่กับอุณหภูมิเป็นหลักนะคะ 2.เลือกคาร์เมเลี่ยนที่มีสุขภาพแข็งแรง ไม่ขาดน้ำ ในเรื่องของสีนั้นเจ้ากิ้งก่าก็จะเปลี่ยนสีเป็นประจำ ตลอดเวลาอยู่แล้ว 3.เลือกคาร์เมเลี่ยนที่สมบูรณ์ มีอวัยวะครบถ้วน 4.กิ้งก่าไม่ควรจะมีแผลที่ลำตัว ในส่วนของการเลือกซื้อกิ้งก่าคาร์เมเลี่ยนนั้นจะต้องใช้เวลาหน่อยนะคะ เพราะเราจะได้สังเกตอาการของกิ้งก่าได้ละเอียดมากขึ้นค่ะ สิ่งที่เราต้องคำนึงในการเลี้ยงกิ้งก่าคาร์เมเลี่ยน เราจะต้องคำนึงถึงสิ่งต่างๆต่อไปนี้ด้วยค่ะ 1.ต้นไม้ เราควรเลือกต้นไม้ที่ไม่ใหญ่มากนะคะ เพื่อให้ง่ายต่อการใส่เข้าไปในสถานที่เลี้ยง และควรจะมีกิ่งก้านเยอะๆเพื่อให้คาร์เมเลี่ยนของเราได้เดินเล่นค่ะ เพราะส่วนใหญ่มันมักจะใช้ชีวิตบนต้นไม้นั่นเองค่ะ 2.แสงแดด กรงเลี้ยงคาร์เมเลี่ยนจะต้องเป็นกรงที่รับแสงจากแดดได้ เพราะมันจะชอบอาบแดด และจะทำให้คาร์เมเลี่ยนของเราสุขภาพดีด้วยอีกด้วยค่ะ 3.อุณหภูมิ การที่เราจะเลี้ยงคาร์เมเลี่ยน เราต้องเลือกอุณหภูมิให้เหมาะสมกับคาร์เมเลี่ยนของเราด้วยนะคะ 4.น้ำ ส่วนมากคาร์เมเลี่ยนจะไม่กินน้ำจากภาชนะนะคะ ดังนั้นเราควรจะติดตั้งระบบน้ำภายในกรง เพราะมันจะชอบกินน้ำจากหยดน้ำที่เกาะตามใบไม้ใบหญ้า และยังช่วยให้กรงของคาร์เมเลี่ยนชุ่มชื้นอีกด้วย 5.ความชื้น โดยทั่วไปแล้วกิ้งก่าจะต้องการความชื้นประมาณ 50-90% เราจึงควรติดตั้งระบบน้ำภายในกรงตามที่เราได้บอกไว้ก่อนหน้านี้นะคะ อีกอย่างกิ้งก่าแต่ละชนิดก็ต้องการความชื้นไม่เท่ากัน […]
เทคนิคการเลี้ยงปลาสวยงาม
การเลี้ยงปลาตู้ เพื่อให้คงความสวยงามไปตลอด เราต้องดูแลเอาใจใส่รักษาอุปกรณ์พันธุ์ไม้น้ำและส่วนประกอบอื่นๆที่อยู่ในตู้ปลาเพื่อไม่ให้เกิดความสกปรก ซึ่งการดูแลรักษาและการเลี้ยงปลาสวยงามที่ถูกต้องมีเทคนิคอะไรบ้างนั้น เราไปดูกันเลย 1.ควรหมั่นตรวจเช็ครอยรั่วซึม บริเวณรอยต่อกระจกไม่ว่าจะเป็นตู้ปลาแบบเก่า หรือแบบใหม่ เพราะมักมีรอยรั่วซึมของน้ำอยู่เสมอ หากตู้ปลาเกิดการรั่วซึมต้องปล่อยน้ำทิ้งให้หมด และเช็ดทำความสะอาดทันที 2.ภาชนะสำหรับเลี้ยงปลา ปลาสวยงามแต่ละชนิดจะมีความสวยงามมากขึ้น หากเลือกภาชนะในการเลี้ยงได้ถูกต้องเหมาะสม 3.สถานที่ การเลือกสถานที่จัดวางตู้ปลา ควรสอดคล้องกับอาคาร หรือลักษณะของห้อง เพราะเมื่อจัดวางตู้เรียบร้อยแล้ว หากอยากเปลี่ยนสถานที่ใหม่จะมีความยุ่งยากในการเคลื่อนย้าย 4.ความหนาแน่นของปลา จำนวนปลาที่จะเลี้ยงในตู้ไม่ควรมีจำนวนมากเกินไป ปลาบางชนิดอาจต้องเลี้ยงเพียงตัวเดียว เช่น ปลาแรด ปลาชะโด และปลากัด เพราะหากเลี้ยงรวมกันมันอาจจะไล่กัดทำอันตรายกันเอง 5.การรักษาความสะอาดในตู้ปลา ผู้เลี้ยงต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีการทำความสะอาดเพื่อกำจัดสิ่งหมักหมมที่ตกค้างอยู่ในระบบกรองน้ำอย่างสม่ำเสมอ โดยควรทำความสะอาดอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพื่อช่วยป้องกันการเกิดโรคระบาดของปลา ที่อาจเกิดจากเศษอาหารที่บูดเน่าได้ 6.การให้อาหาร สำหรับการเลี้ยงปลาสวยงามจะต้องให้อาหารทุกวัน และให้อาหารเป็นเวลา เนื่องจากปลาอยู่ในตู้จึงไม่สามารถหาอาหารเองได้เหมือนปลาทั่วไปที่อาศัยอยู่ในคลองหรือแม่น้ำ และไม่ควรให้อาหารปลาแบบพร่ำเพรื่อเพราะอาจทำให้มีเศษอาหารเหลือตกค้างกลายเป็นเศษอาหารที่เน่าบูดจนอาจทำให้ปลาเกิดโรคได้ ซึ่งการให้อาหารควรให้เพียง 2 ครั้งต่อวัน หากปล่อยให้ปลาอดหารเป็นเวลา 2-3 วันอาจทำให้สุขภาพของปลาเสื่อมโทรมได้ 7.การเปลี่ยนน้ำตู้ปลา การเปลี่ยนน้ำจะต้องระมัดระวังค่าความด่างของน้ำในตู้ปลากับน้ำใหม่ที่เติมลงไป และควรมีพันธุ์ไม้น้ำตกแต่งอยู่ด้วย หากไม่มีอาจจะทำให้ปลาตายได้ 8.อุณหภูมิของน้ำในตู้ปลา ข้อนี้ถือว่าสำคัญมาก ผู้เลี้ยงปลาจะต้องนึกอยู่เสมอว่าปลาเป็นสัตว์เลือดเย็น ในฤดูหนาวการเผาผลาญอาหารของปลาจะลดลงตามอุณหภูมิของน้ำ หากปลากินอาหารเป็นเวลาตามปกติ […]
เทคนิคการเลี้ยงลิงมาโมเสท
ลิงมาโมเสทเป็นลิงที่มีหน้าตาน่ารักน่าชังด้วยความที่ลิงมาโมเสทเป็นลิงที่ตัวเล็กทำให้ผู้คนสนใจอยากเลี้ยงดู แต่การที่จะเลี้ยงลิงมาโมเสทต้องดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างมาก เพราะมันเป็นสัตว์ที่โดยพื้นฐานแล้วมีความดุเหมือนกับลิงทั่วๆไป เรามาเริ่มทำความรู้จักกับการดูแลเจ้าลิงมาโมเสทกันเลยค่ะ 1.อาหาร ลิงมาโมเสทจะชอบกิน แมลง ผลไม้ ยางไม้ นอกจากนี้มาโมเสทก็ยังกินอาหารลิงทั่วๆไปได้เช่นกัน 2.การเลี้ยงลิงมาโมเสท ควรจะเลี้ยงในกรงที่มีขนาดสูง และมีต้นไม้ กิ่งไม้ เพื่อสามารถให้ลิงมาโมเสทได้กระโดดไปมาได้ เนื่องจากลิงมาโมเสทเป็นลิงที่ชอบกัดแทะเราจึงควรทำกรงจากไม้ และแนะนำว่าหากจะเลี้ยงลิงมาโมเสทควรจะศึกษา เกี่ยวกับการเลี้ยงลิงโมเสทและหาโรงพยาบาลที่สามารถรักษาลิงมาโมเสทไว้ด้วยนะคะ 3.อาการเจ็บป่วย โดยปกติแล้วอาการป่วยของลิงมาโมเสทจะไม่เหมือนกับสัตว์ทั่วไป เพราะหากผู้เลี้ยงลิงมาโมเสทไม่สบาย ก็อาจจะทำให้ลิงมาโมเสทติดไข้จากผู้เลี้ยงได้ ดังนั้นจึงควรรักษาความสะอาดให้ดีด้วย และควรคิดให้รอบคอบก่อนเลี้ยงลิงมาโมเสท เพราะต้องเลี้ยงด้วยความรักและความเอาใจใส่จริงๆค่ะ 4.สิ่งที่ควรรู้ก่อนที่จะเลี้ยงลิงมาโมเสท การเลี้ยงลิงมาโมเสทนั้นไม่ควรที่จะเลี้ยงในที่ร่มหรือที่ที่ไม่มีแสงแดด กรงควรจะให้แสงแดดส่องเข้ามาได้ ในส่วนของการให้อาหาร ผลไม้ ควรหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ และไม่ควรจะเอาอาหารมนุษย์ให้ลิงกิน เพราะอาหารมนุษย์ไม่เหมาะสมกับร่างกายของลิง สิ่งสำคัญก่อนจะเลี้ยงลิงมาโมเสท คือ เราจะต้องเลี้ยงด้วยการเอาใจใส่เป็นอย่างมาก และต้องทำให้ลิงมาโมเสทรู้สึกผ่อนคลายเหมือนกับอยู่ในป่า และไม่ควรเลี้ยงในห้องแอร์ เนื่องด้วยลิงมาโมเสทเป็นสัตว์เมืองร้อน อาจไม่คุ้นชินกับสภาพอากาศในห้องแอร์ หากใครสนใจเลี้ยงลิงมาโมเสทจะต้องถามตัวเองให้ดีนะคะว่ามีเวลาให้เขาไหม เพราะลิงมาโมเสทเป็นสัตว์เลี้ยงที่เหมือนเด็ก เป็นสัตว์ที่ขี้ตื่นเต้นตกใจตลอดเวลา หากเลี้ยงแล้วลิงไม่มีความสุขก็อาจทำให้ลิงมาโมเสทเครียดได้นะคะ #ลิงมาโมเสท #การเลี้ยงลิง #สัตว์โลกน่ารัก
เทคนิคการดูแลชินชิล่า
ชินชิล่าเป็นสัตว์เลี้ยงประเภทหนู มีขนปุยและนุ่ม มีหน้าตาที่น่ารัก การที่เราจะเลี้ยงเจ้าหนูชินชิล่าจะต้องดูแลให้ถูกวิธี มาลองดูกันว่าหากจะเลี้ยงชินชิล่าต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง 1.การเลี้ยงดู ชินชิล่าเป็นสัตว์ที่มีนิสัยกระตือรือร้นและชอบสำรวจ หากใครที่มีความสนใจอยากจะเลี้ยงชินชิล่าต้องดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษ พาออกไปเดินเล่นนอกกรงอย่างน้อยวันละ 1 ชั่วโมง เพื่อให้เจ้าชินชิล่าของเราไม่เครียด และต้องอาบน้ำหลายครั้งต่อสัปดาห์เนื่องจากชินชิล่าเป็นสัตว์ที่มีขนปุยหนา 2.การให้อาหารชินชิล่า สำหรับอาหารของชินชิล่านั้นมันจะกินพืชเป็นหลัก ไม่ควรให้กินอาหารสดควรจะให้แต่หญ้ากับอาหารเม็ดและควรระวังอาหารที่มีรสหวาน เช่น แอปเปิ้ล หรือองุ่น เป็นต้นนะคะ รวมทั้งอาหารต่างๆที่มีไขมันสูงด้วยค่ะ เพราะชินชิล่ามีระบบทางเดินอาหารที่เปราะบางมาก ไม่สามารถย่อยอาหารไขมันและอาหารหวานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยส่วนใหญ่ชินชิล่าจะกินอาหารในช่วงเย็น แต่หากผู้เลี้ยงต้องการเปลี่ยนอาหารให้ชินชิล่ากินต้องค่อยๆเปลี่ยนและใช้เวลาหลายวัน ไม่ควรเปลี่ยนในทันที เพราะอาจทำให้ชินชิล่าของเรามีอาการท้องเสียได้ 3.การเพาะขยายพันธุ์ชินชิล่า สำหรับใครที่อยากขยายพันธุ์ชินชิล่า หากชินชิล่าของเราเป็นตัวเมียก็สามารถผสมพันธุ์ได้ทั้งปีเพราะตัวเมียจะมีขนาดใหญ่กว่าตัวผู้ 4.สถานที่สำหรับเลี้ยงชินชิล่า ต้องเลี้ยงในสถานที่ที่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก และไม่ควรจะเป็นที่ที่รับแสงได้โดยตรง รวมทั้งบริเวณที่เลี้ยงไม่ควรจะมีรู เพราะจะทำให้เจ้าชินชิล่าของเรามุดเข้าไปได้ และเอาออกยากมาก เพราะชินชิล่ามีขนาดตัวที่เล็ก 5.อุปกรณ์ภายในกรงของชินชิล่า สำหรับกรงที่ใช้เลี้ยงชินชิล่านั้นควรจะมีขนาดใหญ่ และหลายๆชั้น เพราะส่วนใหญ่นิสัยของชินชิล่ามักจะชอบกระโดด สามารถมีของเล่นภายในกรงได้แต่ไม่ควรเป็นของที่ทำจากพลาสติกเพราะหากมันกัดกินเข้าไปอาจทำให้เกิดอันตรายได้ ในกรงควรมีอากาศถ่ายเทได้ดี การเลี้ยงชินชิล่าจะเหมาะกับการเลี้ยงในห้องที่มีอากาศเย็นหรือห้องแอร์มากกว่านะคะ 6.การเลือกกรงให้ชินชิล่า อย่างที่เราได้บอกไปข้างต้นนะคะว่าชินชิล่ามีนิสัยชอบกระโดด เพราะฉะนั้นเราควรจะหากรงที่มีขนาดใหญ่ได้ยิ่งดีค่ะ 7.การออกกำลังกาย ผู้เลี้ยงควรจะให้ชินชิล่าออกมาวิ่งเล่นนอกกรงอย่างน้อย 2 ชั่วโมงนะคะ เพื่อให้มันไม่เครียดและมีสุขภาพแข็งแรงค่ะ ทั้งหมดนี้ก็เป็นเกร็ดความรู้เล็กๆน้อยๆสำหรับคนที่สนใจอยากจะเลี้ยงชินชิล่านะคะ หากใครศึกษาวิธีการเลี้ยงชินชิล่าดีแล้ว ก็ขอให้มีความสุขและสนุกกับการเลี้ยงชินชิล่านะคะ […]
เทคนิคการเลี้ยงเต่าบก
ปัจจุบันนี้มีผู้นิยมหันมาเลี้ยงสัตว์เลื้อยคลานกันมากขึ้น เพราะสัตว์เลื้อยคลานหลายๆชนิดมีเสน่ห์ที่น่าหลงใหลในตัวเอง และที่สำคัญไม่ค่อยส่งเสียงร้องโวยวาย หรือวุ่นวายมากมายนัก อีกทั้งยังมีความสวยงาม แปลก ไม่เหมือนใคร และหนึ่งในสัตว์เลื้อยคลานที่เป็นที่นิยมชนิดหนึ่งคือ “เต่าบก” หากใครสนใจจะเลี้ยงเต่าบกก็ไปดูดันเลยค่ะว่ามีเทคนิคการเลี้ยงยังไงบ้าง 1.การเลือกซื้อเต่าบก สำหรับการเลือกเต่านั้น ไม่มีกฎตายตัวว่าตัวไหนสวยมากกว่า น้อยกว่า อยู่ที่ว่าแต่ละคนชอบแบบไหน เอาเป็นว่าเราเลือกตัวที่เราชอบดีกว่าค่ะ เพื่อให้ได้ตัวที่ถูกใจเรามากที่สุด 2.อาหารสำหรับเต่าบก สำหรับอาหารของเต่าบกโดยทั่วไปนั้นก็สามารถซื้อผักตามท้องตลาดทั่วไปได้เลย แต่ไม่แนะนำให้กินพวกผักสลัดต่างๆและกะหล่ำปลี เพราะอาจทำให้เกิดโรคคอหอยพอกได้ ซึ่งเต่าแต่ละชนิดจะกินอาหารต่างกัน แต่อย่าให้ชนิดเดิมซ้ำๆเพราะผักแต่ละชนิดมีแร่ธาตุไม่เหมือนกัน 3.การดูแลทำความสะอาด สำหรับการดูแล ทำความสะอาดเต่านั้น ไม่ต้องทำบ่อยจนเกินไปเพราะเต่าอาจจะเครียดได้ สักเดือนละครั้งก็พอ วิธีทำความสะอาดก็ง่ายๆแค่นำลงไปแช่น้ำอุ่นในกะละมังตื้นๆใช้น้ำเปล่าสะอาด ไม่ต้องใช้สบู่ จากนั้นใช้แปรงสีฟันขัดตามกระดองเบาๆ เพื่อขจัดคราบสกปรก แล้วนำมาเช็ดตัวให้แห้ง และนำไปตากแดดได้เลย 4.สถานที่เลี้ยง สถานที่เลี้ยงก็เป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับเต่า ถ้าเป็นไปได้ควรเลียนแบบสภาพแวดล้อมที่เป็นอยู่จริงของเต่าด้วย แต่ก็ขึ้นอยู่ที่ความสะดวกและสถานที่ของท่านว่าจะอำนวยแบบไหน แต่แนะนำว่าให้มีบ่อน้ำสำหรับให้เต่าได้เล่นน้ำและสถานที่เลี้ยงควรมีแสงแดดส่องถึงให้เต่าได้รับแดดในช่วงเช้าด้วย เพื่อช่วยให้กระดองเต่าแข็งแรง และเพื่อไม่ให้เต่าเครียด อีกทั้งยังช่วยให้เต่าผ่อนคลายนั่นเองค่ะ เต่าเป็นสัตว์เลี้ยงที่ดีเลยหากใครที่สนใจจะเลี้ยง มันอาจจะช้าตอนอยู่บนบก แต่มันทั้งน่ารักและมีเสน่ห์นะ ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อเต่าสักตัว สิ่งสำคัญก็คือควรรู้เกี่ยวกับการดูแลเต่าตั้งแต่เล็กจนโตให้มากที่สุด เพื่อให้มีความพร้อมในการเลี้ยง ซึ่งการเลี้ยงเต่าต้องคิดถึงเรื่องอนาคตด้วยนะคะ เพราะเต่าเป็นสัตว์เลี้ยงที่มีอายุค่อนข้างยาวนาน คนเลี้ยงจึงต้องรักและเอ็นดูมากๆถึงจะสามารถเลี้ยงเต่าได้ยาวนาน แต่เชื่อว่าสำหรับใครที่เลี้ยงเต่าบกต้องรักและเอ็นดูเต่ามากแน่ๆค่ะ #เต่าบก #เต่า #สัตว์โลกน่ารัก
เทคนิคการเลี้ยงหนูแฮมสเตอร์
หนูแฮมสเตอร์มีมากมายหลายพันธุ์ ส่วนใหญ่มีอายุประมาณ 2-3 ปี พวกมันเป็นสัตว์หากินกลางคืน แน่นอนว่ามันชอบนอนหลับในตอนกลางวัน และออกหากินรุ่งเช้าหรือหัวค่ำ ซึ่งมันจะตื่นตัวมากที่สุดตอนเช้าตรู่และตอนหัวค่ำ สำหรับคนที่ต้องการจะเลี้ยงหนูแฮมสเตอร์หากอยากให้มันมีความสุขและแข็งแรงจะต้องให้อาหารที่เหมาะสม ให้มันได้ออกกำลังกายหรือเล่นเพียงพอ และหมั่นทำความสะอาดกรงเป็นประจำ การให้อาหารและน้ำ 1.ควรให้อาหารหนูแฮมสเตอร์ทุกวัน และต้องเป็นอาหารที่สดใหม่ เพราะหนูแฮมสเตอร์เป็นนักสะสม ชอบสะสมอาหารซ่อนไว้ 2.ต้องมีน้ำให้ดื่มตลอดเวลา ถึงแม้มันจะไม่ได้ดื่มน้ำเยอะ แต่ควรจะมีน้ำให้มันดื่มเมื่อรู้สึกหิวน้ำ และไม่ควรใส่น้ำไว้ในชาม เพราะสกปรกง่ายมากและมันอาจจะทำหกได้ ให้ใช้ขวดน้ำหรือที่กินน้ำสำหรับหนูแฮมสเตอร์แทน และแนะนำว่าให้เปลี่ยนน้ำทุกวันเพื่อความสะอาด หรือเปลี่ยน 3 วัน 1 ครั้งเป็นอย่างมาก 3.ใช้อาหารเม็ดรีหรือเป็นก้อน การให้หนูแฮมสเตอร์กินเมล็ดธัญพืชรวมจะทำให้มันเรื่องมาก เลือกกินแต่ของที่อร่อยแต่คุณประโยชน์น้อยกว่า ควรให้มันกินอาหารเม็ดเป็นหลักและให้เมล็ดพืชเป็นอาหารเสริม 4.โรยอาหารไว้ทั่วๆกรงและซ่อนไว้ในของเล่นด้วย เพื่อให้หนูแฮมสเตอร์ค้นหาอาหารด้วยตัวเอง ถ้าใส่อาหารไว้ในชามมันจะขยับร่างกายน้อยลงจนอาจกลายเป็นหนูอ้วนเลยทีเดียว 5.หลีกเลี่ยงอาหารคน ซึ่งรวมถึงลูกอม เนื้อสัตว์ เนื้อปลาดิบ น้ำตาลและของหวาน เพราะสิ่งเหล่านี้อาจทำให้มันเป็นโรคเบาหวานได้ และอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของหนูแฮมสเตอร์ 6.ควรให้รางวัลพวกมันบ้าง อาจจะเป็นของโปรดของพวกมัน เช่น แอปเปิล แตงกวา ผักกาด แครอท กล้วย คะน้า กะหล่ำ และผลไม้อีกหลากหลายชนิดโดยให้อาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง […]
เทคนิคการเลี้ยงหมูแคระพอตเบลลี่
หมูแคระเป็นที่นิยมเลี้ยงเพื่อความเพลิดเพลิน เรียกว่าตอนนี้มีหลากหลายสายพันธุ์เลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นหมูแคระฮอลแลนด์หรือหมูแคระญี่ปุ่น แต่ความน่ารักตัวสีชมพูที่เราจะพาไปรู้จักกันในวันนี้ก็คือ หมูแคระพอตเบลลี่ นิยมนำมาเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยงเพื่อความเพลิดเพลิน แต่ก่อนจะเลี้ยงหมูแคระเรามาทำความรู้จักและทำความเข้าใจเบื้องต้นกันก่อนจะซื้อลูกหมูมาเลี้ยงกันดีกว่าค่ะ 1.ทำความเข้าใจอุปนิสัยของหมูแคระก่อน หมูพอตเบลลี่จะคุ้นกับคนง่ายมาก ขี้เล่น มันสามารถเข้ามาเล่นกับเจ้าของหรือคนที่มันเจอได้ แถมยังรักสะอาด ฉลาด ร่าเริง เป็นสัตว์ที่กินทั้งพืชและสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์ เนื้อปลา ไข่ไก่ ตามธรรมชาติที่มันหากินได้ แต่อาหารหลักจริงๆส่วนใหญ่จะกินแค่ผักบุ้งและผลไม้ที่มีรสชาติหวาน 2.เข้าใจนิสัยของหมูแคระ นิสัยของมันคือชอบขุดคุ้ยดินเล่น หากผู้เลี้ยงไม่เข้าใจ ก็จะคิดว่าคิดว่ามันซน และอาจทำให้มันแสดงความก้าวร้าวออกมาได้ ดังนั้นผู้เลี้ยงจึงควรศึกษานิสัย และคอยปรับพฤติกรรม เพื่อให้สามารถปรับตัวและอยู่ร่วมกันได้ง่ายยิ่งขึ้น 3.การให้อาหาร ห้ามเลี้ยงด้วยอาหารสุนัขหรืออาหารแมวเด็ดขาดเลยนะคะ รวมถึงอาหารที่เป็นเนื้อและมีรสเค็ม ควรเลี้ยงด้วยผัก ผลไม้ เช่น แตงกวา แอเปิ้ล ผักใบเขียวหลากหลายชนิด โดยควรให้ปริมาณอาหารตามขนาดร่างกาย หากยังตัวเล็กอยู่ก็ไม่ต้องให้มากเกินไป เพราะไม่ว่าเขาจะหิว หรือไม่หิว หมูแคระก็กินได้ตลอดไม่เลือกเวลา 4.การอาบน้ำ อย่างที่รู้กันนะคะว่าหมูแคระทุกสายพันธุ์มีนิสัยชอบขุดดิน ซึ่งเป็นสัญชาตญาณของมัน มักจะชอบทำให้ร่างกายสกปรกอยู่เสมอ จึงต้องหมั่นดูแลรักษาทำความสะอาดบ่อยๆ โดยใช้สบู่สำหรับเด็กทำความสะอาด เพราะหมูแคระจะมีผิวหนังที่แพ้ง่าย ควรอาบน้ำเดือนละครั้งเพื่อสุขภาพที่ดีนั่นเองค่ะ 5.ให้เวลาปรับตัว ก่อนอื่นเลยผู้เลี้ยงต้องทำความเข้าใจก่อนว่าสัตว์ทุกตัวเมื่อมีการย้ายที่อยู่อาศัยก็จะเกิดความรู้สึกกลัว และไม่คุ้นชินกับสถานที่ ผู้เลี้ยงจึงควรให้เวลาหมํแคระได้ปรับตัว พยายามกอด […]
เคล็ดลับการเลี้ยงสุนัข อาหารบำรุงข้อสุนัข หมดปัญหากวนใจ เรื่อง โรคข้อในสุนัข
หากสุนัขที่คุณเลี้ยงเริ่มมีท่าทีที่เปลี่ยนไป มีการเคลื่อนไหวที่ช้าลง ดูอ่อนแรง ไม่กระฉับกระเฉง มีความลังเลในการกระโดด สุนัขของคุณอาจจะมีอาการเจ็บปวดจากการเป็น โรคข้อในสุนัข ก็เป็นได้ ซึ่งโรคข้อนี้จะทำให้ได้น้องหมาของคุณอยู่ในความเจ็บปวด และเกิดความหงุดหงิด เพราะฉะนั้นแล้วบทความนี้มี มีอาหารสำหรับการบำรุงข้อสุนัข มาฝากกัน อาหารบำรุงข้อสุนัข – ผักใบเขียว หลายๆคนอาจจะลังเลที่จะให้น้องหมาได้กินผัก ขอบอกเลยว่าสุนัขเป็นสัตว์ที่สามารกินผักได้ แต่ผักบางชนิดก็ควรที่จะต้องหลีกเลี่ยง แต่ผักบางชนิดก็ดีต่อสุขภาพของเขาอย่างเช่น ผักคะน้า ผักโขม ผักเหล่านี้จะมีสารต้านอนุมูลอิสระ ลดอาการอักเสบ เพราะฉะนั้นหากสุนัขของคุณไม่มีปัญหาเรื่องการขับถ่าย ขอแนะนำว่าให้คุณลองทำอาหารสุนัขจากผักเหล่านี้ดู อาหารบำรุงข้อสุนัข – หอยแมลงภู่ สำหรับอาหารชนิดนี้ขอบอกเลยว่าอาจจะดูเป็นอาหารที่หลายๆคนคิดว่าไม่เหมาะกับการเป็นอาหารสุนัขสักเท่าไร แต่ว่าหอยแมลงภู่นั้นเป็นอาหารชั้นดีสำหรับน้องหมาที่กำลังจะต้องเจอกับอาการเจ็บปวดโรคข้ออักเสบ เพราะว่าเจ้าหอยแมลงภู่นั้นจะมีกลูโคซามีน คอรดรอยติน กรดไฮยาลูรอนนิก ซึ่งสารเหล่านี้จะเป็นสารที่บำรุงข้อของน้องหมา และยังมีโอเมก้า 3 ที่จะมาช่วยในเรื่องของอาการอักเสบอีกด้วย อาหารบำรุงข้อ – ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ กลุ่มผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ เป็นกลุ่มผลไม้ที่จะมีน้ำตาลน้อยกว่าผลไม้ทั่วไป และมีสารที่ต้านการอักเสบอยู่สูง มีวิตามินและแร่ธาตุหลากหลายชนิดด้วยกันเพราะฉะนั้นหากคุณกำลังหาของว่างที่จะช่วยลดอาการอักเสบในข้อของน้องหมาแล้ว ลองแช่ผลไม้เหล่านี้แล้วเอามาให้เขากินดู เพราะจะช่วยเพิ่มความสดชื่นและยังดีต่อสุขภาพข้อของพวกเขาอีกด้วย นอกจากสรรพคุณที่จะมาเยียวเรื่องการอักเสบแล้วก็ยังสามารถทำให้ร่างกายมีภูมิต้านทานที่แข็งแรงมากขึ้นอีกด้วย อาหารบำรุงข้อ – ปลาแซลมอน ปลาแซลมอนเป็นปลาที่อุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งดีต่อสุนัขอยู่แล้ว ช่วยป้องกันและลดอาการอักเสบ […]
เคล็ดลับการเลี้ยงสุนัข น้ำมันมะกอก ไอเท็มเด็ดสำหรับคนเลี้ยงสุนัข
อีกหนึ่งเคล็ดลับตัวช่วยที่จะมาทำให้การเลี้ยงสุนัขของคุณง่ายขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ เป็นอีดไอเท็มเด็ดที่เจ้าของน้องหมาหลายๆคนอาจจะไม่รู้มาก่อน ว่าเป็นของที่มีประโยชน์มากขนาดนี้ สิ่งนั้นก็คือ น้ำมันมะกอก หลายๆคนอาจจะคิดว่ามันเป็นไอเท็มสำหรับมนุษย์เสียมากกว่า แต่จริงๆแล้ว น้ำมันมะกอกเนี้ยล่ะที่เป็นอีกหนึ่ง เคล็ดลับเลี้ยงสุนัข ตัวเด็ดที่คุณควรมีติดบ้านไว้ น้ำมันมะกอก เลี้ยงสุนัข – ตัวช่วยลดน้ำหนักสำหรับสุนัข น้ำมันมะกอกนอกจากจะเป็นตัวช่วยด้านร่างกายให้กับมนุษย์อย่างเราๆแล้ว น้ำมันมะกอกจะมีไขมันที่ไม่อิ่มตัว ซึ่งเป็นไขมันที่ดี สำหรับสัตว์เลี้ยงอย่างสุนัขของเรานั้น น้ำมันมะกอกจะมีส่วนช่วยในการลดไขมันที่สะสมอยู่ตามร่างกาย มีส่วนช่วยในการกระตุ้นการผลิตฮอร์โมนที่ชื่อว่าอินซูลิน ซึ่งเจ้าตัวนี้ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของระบบเผาผลาญในร่างกายและระดับน้ำตาลในเลือดอีกด้วย น้ำมันมะกอก เลี้ยงสุนัข – ระบบภูมิคุ้มกัน น้ำมันมะกอก เปรียบเสมือนยาชั้นดีที่จะมาช่วยเสริมภูมิคุ้มกันในร่างกายของสุนัข เพราะว่าน้ำมันมะกอกนั้นมีส่วนช่วยในการไหลเวียนของเลือด ทำให้ร่างกายมีความแข็งแรงสามารถต่อสู้กับโลกต่างๆได้ แ ละยังอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ โพลีฟีน วิตามินอี คลอโรฟิล แคโรทีนอยด์ ซึ่งสารเหล่านี้จะช่วยทำให้ร่างกายของสุนัขคุณมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นในการต่อสู้กับโรคต่างๆ น้ำมันมะกอก เลี้ยงสุนัข – เพิ่มความน่ากินให้กับอาหาร สำหรับสุนัขบ้านไหนที่น้องหมาของคุณนั้นเบื่ออาหารเม็ดแห้งๆเต็มที ขอบอกเลยว่าลองเติมน้ำมันมะกอกลงไปสักเล็กน้อย ก็จะสามารถทำให้อาหารของเจ้าน้องหมานั้นมีความชุ่มมากยิ่งขึ้น แถมยังน่ากิจมากกว่าเดิม น้ำมันมะกอกจะไปกระตุ้นความอยากอาหารของน้องหมา อีกทั้งยังช่วยเสริมรสชาติของอาหารให้มีรสชาติที่อร่อยมากยิ่งขึ้นอีกด้วย เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยดีๆ ที่บ้านไหนมีปัญหาน้องหมากินยาก อยากให้ลองวิธีนี้ดู น้ำมันมะกอก เลี้ยงสุนัข – เส้นขนที่เงางาม สำหรับมนุษย์อย่างเราที่เคยได้ยินมานักต่อนักแล้วว่า น้ำมันมะกอกสามารถช่วยบำรุงเส้นผมของเราให้สวยเงามงามดูสุขภาพดีได้ […]
เคล็ดลับการเลี้ยงสุนัข 4 สถานการณ์ฉุกเฉินต้องรีบพาหาหมอด่วน
สำหรับเจ้าของสุนัขหลายๆคนก็คงต้องเคยเจอกับปัญหาสุขภาพของน้องหมาที่เราสามารถปล่อยไว้สักพัก หรือรอให้เขาหายเองโดยไม่ต้องพาไปหาหมออย่างแน่นอน แต่ในบางกรณีก็มี สถานการณ์ฉุกเฉินของสุนัข ที่ต้องพาไปหาหมอทันที เป็นสถานการณ์ฉุกเฉินที่รอไม่ได้เด็ดขาด บทความนี้จะพาคุณมาดูว่า เรื่องฉุกเฉิน ต้องรีบพบแพทย์ของสุนัข จะมีสถานการณ์แบบไหนกันบ้าง เรื่องฉุกเฉิน ต้องรีบพาสุนัขไปหาหมอ – อุบัติเหตุรถชน สำหรับเรื่องอุบัติเหตุรถชนของน้องหมา เป็นเรื่องซีเรียสที่คุณจะรอประเมินอาการเองไม่อย่างเด็ดขาด ต่อให้เขาจะไม่มีบาดแพ้ก็ตาม คุณก็ควรพาน้องหมาไปพบแพทย์เพื่อเช็คความเสียหายและอาการทางกายภาพของเขาให้เร็วที่สุด โดยทำการเคลื่อนย้ายเขาให้เบามากที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดที่ร้ายแรงไปมากกว่าเดิม สำหรับสถานการณ์นี้หลายๆคนน่าจะไม่นิ่งนอนใจหรือปล่อยไว้เฉยๆอย่างแน่นอน เรื่องฉุกเฉิน ต้องรีบพาสุนัขไปหาหมอ – เลือดไหลไม่หยุด หากน้องหมาของคุณมีอาการเลือดไหลไม่หยุด คุณไม่ควรรอให้มันหยุดไปเองอย่างนิ่งนอนใจเด็ดขาด เพราะนั่นไม่ใช่สถานการณณ์ที่ปกติเลย และถ้าหากคุณปล่อยน้องหมาของคุณให้เลือดไหลต่อไป ก็จะสามารถนำไปสู่อาการที่ร้ายแรงมากกว่าเดิมได้อีกด้วย เพราะว่าเมื่อน้องหมาเสียเลือดนั้นจะทำให้ร่างกายน้องหมาเกิดภาวะขาดน้ำ เหงือกซีด หัวใจเต้นเร็ว ชีพจรต่ำ หายใจเร็วขึ้น หมดสติ ช็อก ซึ่งในกรณีร้ายแรงอาจจะทำให้น้องหมาเสียชีวิตได้เลย เรื่องฉุกเฉิน ต้องรีบพาสุนัขไปหาหมอ – เมื่อได้รับสารพิษ หากน้องหมาของคุณเผลอไปกินอะไรที่เป็นพิษขึ้นมาแล้วล่ะก็ คุณไม่ควรลองเปิดเน็ตหาวิธีต่างๆด้วยตัวเองเพราะอาจจะทำให้เกิดการเสียเวลา และทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิตของน้องหมาก็เป็นได้ เพราะฉะนั้นควรรีบพาไปหาหมอโดยเร็วที่สุด โดยสามารถกระตุ้นให้น้องหมาอาเจียนออกมาด้วยเกลือแกงได้ และไม่ควรปล่อยให้เวลาล่วงเลยไปนานจนเกิดไป เพราะคุณหมออาจจะช่วยไม่ทัน เรื่องฉุกเฉิน ต้องรีบพาสุนัขไปหาหมอ – คลอดลูกไม่ได้ สำหรับการคลอดลูกน้องหา ปกติแล้วไม่จำเป็นจะต้องไปทำคลอดที่โรงพยาบาลเหมือนมนุษย์ […]
เทคนิคการเลี้ยงสุนัข : แชร์ไอเดีย ขนมสุนัข ในหน้าร้อน ของกินเล่น น้องหมา ที่ทำเองได้ง่าย ๆ
อากาศร้อน ๆ แบบนี้ มนุษย์อย่างเรายังพยายามหาของเย็น ๆ มาทานดับร้อน น้องหมาของเราเองก็คงอยากได้ ของกินเล่น คลายร้อน ไม่ต่างจากเราแน่นอน แต่จะออกไปซื้อบ่อย ๆ ก็เปลืองเงินพอสมควร บทความนี้เลยจะมาแชร์ไอเดีย ขนมสุนัข คลายร้อน เอาไว้ให้ทำให้น้องหมาของคุณกิน รับรองว่าทำง่ายทุกแบบ แถมมีประโยชน์กับสุนัขอีกด้วย ของกินเล่นสุนัข คลายร้อน – Doggie Ice Lick สำหรับเมนูแรก เป็นเมนูของทานเล่นที่สามารถทำได้ง่าย ๆ รับรองว่าคลายร้อนได้อย่างสะใจอย่างแน่นอน ในวันที่อากาศร้อนมาก ๆ คุณสามารถทำน้ำแข็งสำหรับสุนัขได้ โดยที่อาจจะใส่ผลไม้ต่าง ๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายสุนัข ไว้ในน้ำแข็งเย็น ๆ ซึ่งวิธีทำก็ง่ายมาก ๆ เพราะว่าเราแค่น้ำผลไม้ใส่ภาชนะ จากนั้นใส่น้ำสะอาด แล้วน้ำไปแช่ช่องแข็ง เวลาจะเอาออกมาก็ให้แช่น้ำอุณหภูมิปกติสักครู่ ก็จะได้น้ำแข็งก้อนใหญ่สำหรับน้องหมามาแล้ว ของกินเล่นสุนัข คลายร้อน – Flavored Ice Cube สำหรับคนที่ไม่อยากทำก้อนน้ำแข็งใหญ่ ๆ อีกหนึ่งไอเดียที่เป็นที่นิยมไม่แพ้กัน เป็นการทำของกินคลายร้อน ที่เราสามารถแบ่งให้ได้หลายครั้ง […]
เทคนิคการเลี้ยงสุนัข : สูตรการทำ ไอศกรีมสำหรับสุนัข ฉบับโฮมเมด อร่อย สดชื่น แถมได้ประโยชน์
สำหรับใครที่เลี้ยงสุนัข ขนมสำหรับสุนัข เป็นสิ่งที่เราต้องมีเตรียมกันไว้แทบทุกบ้านอยู่แล้ว แต่ราคาของขนมเหล่านี้ก็ไม่ถูกเลยล่ะ บทความนี้เลยจะมาแชร์ สูตรทำขนมสำหรับสุนัข เป็นขนมสุนัขทำเอง ฉบับโฮมเมด ให้สุนัขของคุณคลายร้อน ด้วยไอศกรีมสำหรับสุนัข ที่วิธีทำง่ายแสนง่าย แถมวัตถุดิบก็ทำมาจากผักผลไม้ และส่วนผสมที่หาได้ไม่ยากเลย บอกเลยว่างานนี้ไม่ยากเกินความสามารถแน่นอน สูตรไอศครีม สำหรับสุนัข – สูตรกล้วย สำหรับสูตรนี้ เป็นสูตรพื้นฐานที่อยากจะแนะนำให้ลองทำ เพราะบ้านเรานั้นกล้วยเป็นวัตถุดิบที่หาได้ง่ายมาก มีโพแทสเซียม และวิตามินมากมาย ช่วยให้สุนัขของคุณย่อยง่าย แนะนำเลยสำหรับบ้านไหนที่สุนัขท้องผูกหรือถ่ายยาก ให้ลองสูตรนี้ดู โดยทำการใส่กล้วย เนยถั่ว และน้ำมันมะพร้าวเล็กน้อย แต่ความจริงแล้วเนยถั่วก็สามารถทำได้เองง่าย ๆ นำถั่วมาปั่นไปเรื่อย ๆ ก็จะได้เป็นเนยถั่วแล้ว จากนั้นนำส่วนผสมที่เข้ากันแล้วแช่แข็ง สูตรไอศครีม สำหรับสุนัข – สูตรไก่ สำหรับไอศกรีมสูตรนี้ มาในสูตรของคาว โดยส่วนผสมก็จะเป็นอกไก่ต้ม น้ำซุปไก่ ผักบดตามใจชอบ จากนั้นก็ทำการปั่นส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน และทำการไปเข้าฟรีซ แต่ที่สำคัญเลยก็คือไม่ควรปรุงรส เพราะจะไม่ดีต่อสุขภาพของน้องหมา ให้น้องหมาได้ทานรสธรรมชาติ ซึ่งสูตรนี้อุดมไปด้วยโปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุที่สุนัขต้องการ บอกเลยว่าเอาไปใส่ให้กินกับอาหารที่ทานประจำก็ได้เช่นกัน สูตรไอศกรีม สำหรับสุนัข […]
เคล็ดลับเลี้ยงสัตว์ รวม 4 เกมมือถือสำหรับแมว เกมให้แมวเล่น ที่ทาสแมวทั้งหลายต้องโหลดติดไว้ !
รู้สึกไม่ว่าสิ่งบันเทิงอย่าง เกม ไม่จำเป็นแค่ที่จะต้องเป็นสิ่งให้ความบันเทิงสำหรับมนุษย์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ว่าสัตว์เลี้ยงอย่างแมวก็สามารถเล่นเกมได้เหมือนกัน บทความนี้เลยจะมาแชร์เคล็ดลับเลี้ยงแมวอย่างไรให้มีความสุข โดยการมาแนะนำ เกมสำหรับแมว เป็น เกมมือถือสำหรับสัตว์เลี้ยง เกมให้แมวเล่น ที่เจ้าของแมวทั้งหลาย จะต้องโหลดเอาไว้ เพื่อดึงความสนใจจากเจ้าลูกน้องแมวทั้งหลาย เกมที่ให้แมวเล่น แนะนำ – Games for Cats! เกมนี้เป็นเกมที่ทาสแมวหลายมีติดเครื่องเอาไว้เลย เป็นเกมที่รวบรวมสัตว์ต่างๆเพื่อน้องแมวโดยเฉพาะ ซึ่งแต่ละสัตว์นั้น ก็จะเป็นสัตว์ตัวโปรดที่เจ้าแมวของเราชอบไปเล่น ไม่ว่าจะเป็น หนู ปลา นก หรือจะเป็น จุดแดงในตำนาน เพื่อไม่ให้เกมมันดูจำเจจนเกินไป อีกทั้งตัวเกม ก็จะมีเสียงประกอบให้น้องแมวของเราเล่นได้อย่างเพลิดเพลิน และที่สำคัญคือ ถึงจะเป็นแมว แต่ก็ต้องเล่นเกมที่มีความท้าทาย และยากขึ้นเรื่อยๆอีกด้วย สามารถดาวน์โหลดได้ที่ https://apps.apple.com/th/app/games-for-cats/id1394742877#?platform=ipad เกมที่ให้แมวเล่น แนะนำ – Cat Fishing สำหรับใครที่อยากจะโหลดเกมนี้มาให้น้องแมวเล่น แนะนำว่าควรซื้อเป็นจอใหญ่ๆเข้าไว้ และที่สำคัญแปะฟิล์มกันรอยต่างๆให้เรียบร้อย ไม่อย่างนั้นหน้าจอของคุณอาจจะมีรอยเล็บแมวฝากไว้ก็ได้ เป็นเกมคลาสสิคที่จะมาทดสอบความว่องไวในการจับปลาของเจ้าเหมียวกัน บอกเลยว่าเป็นเกมที่จะสามารถดึงความสนใจของน้องแมวได้อย่างอยู่หมัดเลยล่ะ สามารถดาวน์โหลดได้ที่ https://play.google.com/store/apps/details?id=com.friskies.Catfishing2&hl=en&gl=US เกมที่ให้แมวเล่น แนะนำ – Friskies […]
เทคนิคการเลี้ยงสุนัข วิธีทดสอบว่าสุนัขของคุณตาบอดหรือเปล่า
อาการตาบอดในสุนัข สามารถเกิดได้จากหลายๆปัจจัย อาจจะเป็นโรค หรือ อุบัติเหตุ ในบางครั้งเมื่อเจ้าของนั้นสังเกตุเห็นว่าตาของสุนัขตัวเองมีฝ้าขุ่น เลยคิดว่าสัตว์เลี้ยงของตัวเองอาจจะตาบอด แต่ความเป็นจริงแล้วอาจจะไม่เช่นนั้นเสมอไป เพราะว่าสุนัขบางตัวดวงตาสดใสเหมือนไม่ได้เป็นอะไร แต่มีอาการตาบอดบ้างก็มี ซึ่งแน่นอนว่าปัญหานี้จะเป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิตของน้องหมาอย่างแน่นอน ความร้ายแรงก็ขึ้นอยู่กับโรคที่น้องหมาพบเจอ อาจจะค่อยๆสูญเสียการมองเห็น หรือตาบอดเฉียบพลัน บทความนี้เลยจะมาแชร์วิธีทดสอบดูว่าสัตว์เลี้ยงของคุณนั้นกำลังสูญเสียการมองเห็นหรือเปล่า วิธีทดสอบว่าสุนัขตาบอดหรือไม่ – การหลบหลีกสิ่งกีดขวาง สำหรับข้อนี้ถือว่าเป็นการทดสอบที่เบสิคที่สุด ให้เจ้าของนั้นนำสิ่งของต่างๆมาวางให้เกะกะ สามารถทดสอบได้ทั้งในที่มืดและที่สว่าง ถ้าหากสุนัขของคุณนั้นไม่สามารถหลบสิ่งกีดขว้างนั้นไปได้ หรือเดินชนมั่วไปหมด คุณก็อาจจะต้องสันนิษฐานแล้วว่าสุนัขของคุณกำลังจะสูญเสียการมองเห็นหรือเปล่า แต่คุณเองก็ต้องดูลักษณะนิสัยของสุนัขตัวเองด้วยว่าเขาตั้งใจจะชนหรือเปล่า หรือว่าดูแล้วเขาน่าจะไม่สามารถหลบได้จากการสิ่งของที่วางไว้จริงๆ วิธีทดสอบว่าสุนัขตาบอดหรือไม่ – การตอบสนองต่อสิ่งที่อยู่ข้างหน้า สำหรับวิธีทดสอบนี้ก็เป็นอีกวิธีทดสอบที่สามารถทำได้ง่ายๆ เพราะว่าเจ้าของจะต้องเอาสิ่งของที่สุนัขของคุณน่าจะสนใจ อาจจะเป็นของเล่นชิ้นโปรดอย่างลูกบอล แล้วจับชูขึ้นแล้วปล่อยลง เพื่อดูว่าเขามองและสามารถสังเกตทิ้งทางที่ลูกบอลตกได้หรือเปล่า หรืออีกวิธีหนึ่งก็คือให้นำสิ่งของนั้นขยับไปทางซ้ายและขวาเพื่อดูว่าสุนัขของคุณนั้นกำลังจดจ้องอยู่ที่ลูกบอลหรือเปล่า แต่สำหรับวิธีนี้เจ้าของก็ต้องระวังด้วย เพราะบางครั้งสุนัขของคุณอาจจะแค่เบื่อและไม่สนใจคุณก็เป็นได้ วิธีทดสอบว่าสุนัขตาบอดหรือไม่ – พฤติกรรมที่แปลกๆ สำหรับวิธีนี้อาจจะต้องใช้เวลาในการสังเกตสักหน่อย ให้คุณลองสังเกตสุนัขตัวเองว่าเขาชอบเดินชนนู้นชนนี่บ่อยๆหรือเปล่า หรือในบางครั้งที่เราให้ขนมหรือโยนอาหารไปให้ เขาใช้เวลานานกว่าปกติในการหาของเหล่านั้นหรือเปล่า หรืออาจจะมีอาหารวิตกกังวล ดูหวาดกลัวมากกว่าปกติหากจะต้องออกไปข้างนอก เพราะว่าน้องหมาของคุณอาจจะกำลังสูญเสียการมองเห็นและกลายเป็น สุนัขตาบอด ก็ได้ เพราะฉะนั้นแล้วอย่าลืมสังเกตพฤติกรรมของเขาด้วยล่ะ ละเลยไม่ได้เด็ดขาด หากเขามีพฤ๖กรรมเหล่านี้คุณควรพาเขาไปพบสัตวแพทย์เพื่อหาสาเหตุ เพื่อทำการรักษาอย่างถูกวิธี #สัตว์โลกน่ารัก #คลิปหมา #สุนัขตาบอด
เคล็ดลับเลี้ยงสัตว์ รวม 4 วิธีคลายร้อนให้แมว วิธีดูแลแมวในช่วงอากาศร้อน ต้องทำอย่างไร ?
อากาศบ้านเราเป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าร้อนแค่ไหน ซึ่งอากาศที่ร้อนมากๆนั้น ไม่เป็นผลดีกับสัตว์เลี้ยงของคุณอย่างแน่นอน เพราะว่าน้องจะเสี่ยงเป็น ฮีทสโตรก (Heatstroke) เอาได้ บทความนี้เลยจะมาแนะนำ วิธีการป้องกันฮีทสโตรกในสัตว์เลี้ยง วิธีการคลายร้อนให้แมว มาดูกันว่าเราจะต้องทำอย่างไรเพื่อให้น้องแมวไม่ร้อนจนเกินไป เป็นอีกหนึ่งประเด็นสำหรับคนเลี้ยงแมวที่จะมองข้ามไปไม่ได้เด็ดขาด วิธีคลายร้อน แมว – หมั่นแปรงขน ต้องบอกเลยว่า การแปรงขน ให้กับน้องแมว ถือเป็นหนึ่งในวิธีการคลายร้อนที่ได้ผลข้อหนึ่งเลย เพราะว่าการแปรงจนจะช่วยทำให้อากาศถ่ายเทระหว่างผิวหนังของน้องแมวได้ดีมากยิ่งขึ้น ถ้าเกิดปล่อยให้ขนพันกันยุ่งเหยิงอาจจะทำให้น้องแมวร้อนมากกว่าเดิม ที่สำคัญคือ หากแมวของคุณเป็นแมวพันธุ์ขนยาว ขอแนะนำว่าในช่วงที่อากาศร้อน พาน้องไปอาบน้ำเล็มขน จะช่วยให้น้องสบายตัวมากยิ่งขึ้น วิธีคลายร้อน แมว – งดกิจกรรมที่ใช้พลังงาน สำหรับใครที่ชอบเล่นกับแมว หรือพาแมวไปออกกำลังกายบ่อยๆ ช่วงที่อากาศร้อนๆ แนะนำว่าให้ลดกิจกรรมเหล่านี้ ไม่จำเป็นจะต้องงด แค่ลดก็พอ เพราะว่าการใช้พลังงานที่มากเกินไป จะทำให้น้องแมวเกิดอาการเหนื่อยหอบ ได้ใช้กล้ามเนื้อ ก็ยิ่งส่งผลให้แมวของคุณร้อนมากกว่าเดิม เพราะฉะนั้นช่วงนี้แนะนำเป็นกิจกรรมแบบชิวๆ ไม่ต้องใช้พลังงานเยอะน่าจะเหมาะกว่า วิธีคลายร้อน แมว – ดูแลเรื่องน้ำ ถ้าพูดถึงเรื่องอากาศร้อน วิธีการดับร้อนขั้นพื้นฐานที่สุดของบรรดาสัตว์เลี้ยงก็คือ การกินน้ำ เพราะฉะนั้นในช่วงเวลาที่ร้อนๆ แนะนำว่าควรดูแลเรื่องการเติมน้ำอย่าให้ขาดเลยทีเดียว และที่สำคัญควรเปลี่ยนน้ำบ่อยๆ และอาจจะใส่น้ำแข็งเล็กน้อย เพื่อเพิ่มอุณหภูมิของน้ำที่น้องกินให้พอชื่นใจ […]
เทคนิคการเลี้ยงสุนัข เจ้าของสุนัขมือใหม่ จัดสรรเวลาอย่างไรให้เหมาะสม ?
สำหรับเหล่าเจ้าของสุนัขมือใหม่ทั้งหลาย ที่เพิ่งจะมีสัตว์เลี้ยงสี่ขาเป็นตัวเป็นต้น อาจจะสับสนว่าเราควรจะให้เวลากับน้องๆเหล่านี้มากน้อยแค่ไหน บอกเลยว่าไม่ต้องกังวลไปเพราะบทความนี้จะมาช่วยบอกเคล็ดลับการจัดสรรเวลา เลี้ยงสุนัขให้มีความสุข ตารางเวลาชีวิตเป็นแบบไหนก็สามารถเลี้ยงน้องได้ บอกเลยว่าการแบ่งเวลาให้กับน้องๆ เป็นอีกสิ่งสำคัญที่เราจะพลาดไปไม่ได้อย่างเด็ดขาด เพราะสัตว์เลี้ยงเหล่านี้ต่างก็ต้องการความรักและการเอาใจใส่จากคุณพอสมควรเลยแหละ เลี้ยงสุนัข มือใหม่ – ดูจากสายพันธุ์ สำหรับข้อนี้ถ้าให้ดีคุณควรพิจารณาสายพันธุ์สุนัขที่จะเลี้ยงก่อนจะตัดสินใจ เพราะว่าแต่ละสายพันธุ์นั้นก็จะมีลักษณะนิสัยเฉพาะที่แตกต่างกันออกไป ถ้าคุณมีเวลาน้อยๆ ก็ไม่ควรเลือกสุนัขที่ต้องการเวลาจากคุณเยอะๆ แต่ถ้าไม่ทันแล้วก็ไม่เป็นไร คุณสามารถพิจารณาเอาจากสายพันธุ์ของสุนัขที่คุณได้มา แล้วมาปรับตารางเวลาให้เหมาะสมได้ อย่างที่ได้บอกไปข้างต้นว่า แต่ละสายพันธุ์ ก็จะมีลักษณะนิสัยที่แตกต่างกันออกไป หากสุนัขของคุณเป็นประเภทที่ติดคน ชอบเรียกร้องความสนใจ คุณจะได้จัดสรรเวลาให้เหมาะสมมากยิ่งขึ้น เลี้ยงสุนัข มือใหม่ – มีเวลาสำหรับพาออกไปเดินเล่น สำหรับข้อนี้เป็นตารางเวลาที่คุณจะต้องมีให้กับสุนัขของคุณ ถ้าหากคุณทำงานทั้งวันแล้วรู้สึกว่าช่วงเย็นอยากจะพักผ่อนอยู่บ้านเฉยๆ คุณก็สามารถจัดสรรเวลาตอนเช้า อาจจะต้องตื่นเร็วขึ้นสักครึ่งชั่วโมง เพื่อพาน้องหมาของคุณออกไปเดินเล่น เป็นการปลดปล่อยพลังงานของเขา แถมส่งเสริมให้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง และสุขภาพจิตของน้องหมาก็จะแจ่มใสมากยิ่งขึ้นอีกด้วย น้องหมาจะได้ไม่อดอู้ ออกไปเจอผู้คนและสิ่งมีชีวิตอื่นๆบ้าง เลี้ยงสุนัข มือใหม่ – ทำกิจกรรมในวันหยุด บอกเลยว่าไม่ใช่แค่เราที่มีความสุขกับการได้ใช้เวลาอยู่กับสัตว์เลี้ยงที่เรารัก สัตว์เลี้ยงของเราเองก็อยากจะใช้เวลาอยู่กับเราเช่นกัน เพราะฉะนั้นเวลาที่คุณมีวันหยุดช่วงสุดสัปดาห์ คุณอย่าลืมไปใช้เวลาวันหยุดของคุณทำกิจกรรมร่วมกับสัตว์เลี้ยงของคุณ อาจจะพาเขาไปอาบน้ำตัดขน เล่นของเล่นกับสุนัข ไปโยนบอล เที่ยวตามสวนสาธารณะ เพราะการที่ได้ใช้เวลาไปกับสุนัขในช่วงวันหยุดนอกจากจะเพิ่มความใกล้ชิดระหว่างสัตว์เลี้ยงและคุณ แถมยังเป็นการเช็คสุขภาพกายและจิตของสัตว์เลี้ยง เพราะฉะนั้นในช่วงเวลาวันหยุดอย่ามัวแต่พักผ่อนจนละเลยการใช้เวลาร่วมกับสัตว์เลี้ยงของคุณด้วย […]
6 เคล็ดลับให้ขนน้องแมวนุ่มสวยไม่หลุดร่วง
ปัญหาในเรื่องของขนน้องแมวหลุดร่วง ทำให้หลายคนมีความกังวลว่าหากร่วงมากจนเกินไปมีผลกระทบต่อเจ้าเหมียวหรือไม่ และต้องทำอย่างไรดี มาดู 6 เคล็ดลับบำรุงขนสัตว์เลี้ยงง่ายแสนง่ายสำหรับทาสแมวเพื่อให้พวกมันมีขนนุ่ม หนา นุ่มลื่น เป็นมัน ไม่หยาบกระด้าง ไม่ร่วง ขนสวยน่ากอด มีสุขภาพดี 6 เคล็ดลับบำรุงขนน้องแมว 1. หมั่นแปรงขน เพราะจะช่วยกำจัดเสษของขนส่วนเกินต่าง ๆ ไม่ให้พันกัน อีกทั้งช่วยกระตุ้นต่อมใต้ผิวหนังให้ผลิตน้ำมันที่จะช่วยบำรุงเส้นขนให้มีความเงางาม โดยมีเทคนิคคือ ให้ค่อย ๆ แปรงอย่างช้า ๆ เบามือ และใช้ระยะเวลาที่สั้น ควรหยุดทันทีเมื่อเจ้าเหมียวแสดงอาการต่อต้าน ข้อดีของการแปรงขนเป็นประจำทุกวัน นอกจากจะกำจัดเส้นขนเสื่อมสภาพแล้ว ยังช่วยลดปัญหาก้อนขนเข้าไปอุดตันในลำไส้ ซึ่งเกิดจากการที่แมวเลียขนสำหรับทำความสะอาดร่างกายของมัน แล้วเผลอกลืนลงไปนั่นเองนอกจากนี้ยังช่วยลดปริมาณของเส้นขนมาติดเสื้อผ้า เฟอร์นิเจอร์ ของเราด้วย รวมถึงสมาชิกภายในบ้านที่แพ้ขนแมวด้วย 2. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับผิวหนัง โดยให้เลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับคน หากจะอาบน้ำให้พวกมันต้องใช้แชมพูที่เป็นของแมวโดยเฉพาะ เนื่องจากมีค่า pH ที่เหมาะกับผิวหนัง และควรล้างออกให้สะอาด เพื่อป้องกันไม่ให้เจ้าเหมียวเลียขน จนเข้าสู่ร่างกายได้ 3. ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยบำรุงขน ที่ประกอบด้วยกรดไขมันประเภทโอเมก้า 3 6 ไบโอติน สังกะสี และวิตามินชนิดต่าง […]