8 สายพันธุ์ปลาหางนกยูงยอดนิยม ที่มีสีสวย ถูกใจคนรักปลาเล็ก

8 สายพันธุ์ปลาหางนกยูงยอดนิยม ที่มีสีสวย ถูกใจคนรักปลาเล็ก

คงไม่มีใครไม่รู้จักปลาตัวเล็ก ๆ เลี้ยงง่าย สีสันสดใส อย่างปลาหางนกยูง ซึ่งปลาชนิดนี้มีมากมายหลายชนิดและถูกเลี้ยงไว้เพื่อความสวยงามอยู่คู่กับสังคมไทยมาอย่างช้านาน และได้ถูกพัฒนาให้มีเอกลักษณ์รวมถึงลักษณะเฉพาะตัวมาเรื่อย ๆ จนผู้คนชื่นชอบมากขึ้นมาถึงปัจจุบัน แต่ก็มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่จะรู้ว่าสายพันธุ์ปลาหางนกยูงยอดนิยมมีอะไรบ้างตามไปดูกัน ปลาหางนกยูง ที่มีผู้คนชื่นชอบนำมาเลี้ยงไว้เพื่อความสวยงาม 1. โมเสค (Mosaic) โดยลำตัวของปลาจะมีสีใดสีหนึ่ง และไม่มีลวดลาดอื่นผสม เกล็ดมีความเงา แวววาวคล้ายกับแพลททินั่ม ส่วนครีบหางมีลักษณะของลายเหมือนกับโมเสค เป็นแต้มขนาดใหญ่ และต่อกัน ด้านครีบหลังมีสีสัน และลายที่มีความสวดคล้องกับครีบหางด้วย 2. ซิโด้ (Tuxedo/Half Black) สายพันธุ์ปลาหางนกยูงยอดนิยมชนิดนี้แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ สีพื้น จะมีสีดำหรือน้ำเงินเข็มจากกึ่งกลางลำตัวไปจนสุดโคนหาง เกล็ดมีความมันวาวคล้ายกับแพลททินั่ม โดยสีจะมีความสอดคล้องกันทั้งหมด ครีบหางจะเป็นสีพื้นสดใสสีไหนก็ได้เพียงสีเดียว และชนิดสีลาย จะมีลักษณะเป็นสีดำหรือน้ำเงินเข้ม บริเวณกึ่งกลางลำตัวยาวไปจนสุดโคนหางเช่นกัน แต่ครีบหางจะมีการแต้มสีหลากสีสันเป็นลวดลายที่สวยงาม 3. กราซ (Grass) ลำตัวอาจพบได้หลายสี และมีมาร์กดำดูแล้วเหมือนกับแบรนด์ Nike พื้นครีบหางจะให้สีสว่าง มีจุดสีดำขนาดเล็กกระจายตัวอยู่ทั่วไป ที่พิเศษคือจุดเหล่านี้จะมีความสม่ำเสมอกัน คล้ายกับดอกหญ้า เมื่อมีสีใดสีหนึ่งแล้วจะมีความสอดคล้องกัน จะไม่มีสีอื่น ๆ เข้ามาแทรกได้ […]

“ดุยเกอร์ลาย” ม้าลายแสนงามดุจต้องมนต์ฤาษี

“ดุยเกอร์ลาย” ม้าลายแสนงามดุจต้องมนต์ฤาษี

คุณอาจจะเคยเห็นในนิทานพื้นบ้านหรือละครจัก ๆ วงศ์ ๆ ที่ทุกเรื่องย่อมจะมีตัวละคร “ฤาษี” ที่ชุดคลุมขนสัตว์สีน้ำตาลแดงอมส้มมีลายพาดสีดำคล้ายกับลายเสือจนกลายเป็นภาพชินตาสำหรับหลาย ๆ คนไป ด้วยฤาษีจำเป็นต้องตั้งอาศรมของตัวเองอยู่ท่ามกลางการรายล้อมของป่าลึก การใส่ชุดที่มีลายเสือจึงเป็นเสมือนการถ่ายทอดความสมถะของตัวเองให้กลมกลืนกับสิ่งมีชีวิตสัตว์ป่าตามธรรมชาติ แน่นอนว่าในชีวิตจริงนอกจากจะมีฤาษีที่แปลงตนให้มีลายเสือปกคลุมร่างกายเข้ากับธรรมชาติแล้ว ก็ยังมีสัตว์แปลกอีกชนิดหนึ่งที่ลักษณะนิสัยคล้ายฤาษี แม้แต่รายละเอียดลักษณะก็ยังเหมือนกันมาก เพียงแต่สัตว์ชนิดนี้มีลายมาตั้งแต่เกิดจึงทำให้ผู้พบเห็นเกิดความสนใจจับจ้องนานทันทีราวกับต้องมนต์จากฤาษีที่สั่งให้เราหยุดประจักษ์ความสวยงามของมันในจุดนั้นที่ยืนอยู่ สัตว์ดังกล่าว คือ “ดุยเกอร์ลาย” ม้าลายสายพันธุ์ประหลาดที่คุณอาจไม่เคยรู้ถึงการมีอยู่ของมันมาก่อนก็เป็นได้ เราเองก็เช่นกัน งั้นรีบไปทำความรู้จักเซย์ฮัลโหลกับเจ้าดุยเกอร์ลายกันเลยดีกว่า ทำความรู้จักกับ “ดุยเกอร์ลาย” “ดุยเกอร์ลาย” เป็นสัตว์ประเภทมีกีบอีกชนิดหนึ่งของสายพันธุ์ม้าลายพิเศษอาศัยอยู่ในป่าดิบชื้นบริเวณพื้นที่ต่ำ ปกคลุมไปด้วยต้นไม้แน่นขนัดในเขตไลบีเรีย ไอวอรีโคสต์ เซียร์ราลีโอน และกินีเพื่อปกป้องตัวเองจากอันตรายและไม่ชอบสุงสิงกับสัตว์อื่นคล้ายฤาษี เรียกได้ว่าเป็นสัตว์ขี้ระแวงพอตัว ลักษณะตัวคล้ายกวาง เนื่องจากเป็นสัตว์ขนาดเล็กที่มีขายาววิ่งได้เร็ว หูใหญ่น่ารักจึงออกไปทางกวางมากกว่า เพียงแต่ดุยเกอร์ลายจะมีลวดลายโดดเด่นสวยงามแตกต่างจากม้าชนิดอื่นโดยมีแถบเส้นสีดำพาดผ่านสลับกับขนสีน้ำตาลแดงฟู ส่วนใหญ่ที่ผู้คนพบมักจะเป็นเพศเมีย และหากเป็นเพศผู้จะมีเขางอกออกมาประมาณ 4.5 เซนติเมตร ซึ่งสั้นและเอียงไปทางด้านหลังคล้ายละมั่ง ไม่เป็นอันตรายกับใคร การดำรงชีวิตของ “ดุยเกอร์ลาย” “ดุยเกอร์ลาย” มักจะใช้ใบไม้ ต้นไม้ และใบไม้ใหญ่เป็นที่กำบังตัวเองในการออกไปหาอาหารตลอดเวลา ทำให้พวกมันไม่เป็นอันตรายใด ๆ และแม้ดุยเกอร์ลายจะเป็นสัตว์ขี้ระแวงและตกใจง่าย แต่เมื่อพวกมันมีความรักกันและได้ผสมพันธุ์แล้วก็จะอาศัยอยู่ร่วมกันโดยการสร้างอาณาเขตทำเครื่องหมายสัญลักษณ์ไว้อย่างชัดเจนเพื่อปกป้องบ้านของตัวเองไม่ให้มีสัตว์อื่นเข้ามาย่างกรายได้ และดุยเกอร์ลายตัวผู้จะทำหน้าที่เฝ้ายามให้ในระหว่างที่ตัวเมียท้อง จวบจนคลอดลูกออกมา และมักจะตั้งท้องแค่เพียง 5 เดือนก็คลอด […]

“โลมาสีชมพู” สัตว์ทะเลไทยที่ต้องดวงดีเท่านั้นจึงจะพบเห็นได้!

“โลมาสีชมพู” สัตว์ทะเลไทยที่ต้องดวงดีเท่านั้นจึงจะพบเห็นได้!

เมื่อพูดถึง “โลมาสีชมพู” หลายคนอาจจะเคยเห็นมานักต่อนักในการ์ตูนแอนิเมชั่นมากมายจนกลายเป็นภาพจำสวยงามพอ ๆ กับโลมาสีฟ้า แต่จะมีสักกี่คนกันที่รู้ว่าในโลกแห่งความจริงของเรานั้นก็มีโลมาสีชมพูเหมือนกัน และที่น่าทึ่งไปกว่าเดิม คือ โลมาสีชมพูยังสามารถพบเห็นได้ในเมืองไทยด้วยนะเออ ไม่ต้องไปไกลถึงต่างประเทศเลย เพียงแค่คุณมาที่ “จังหวัดนครศรีธรรมราช” ก็จะได้มีโอกาสเห็นเจ้าโลมาสีชมพูแล้ว แต่จะมีโอกาสมากหรือมีโอกาสน้อยก็ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ สถานที่ และดวงแบบฟลุก ๆ ด้วย เพราะเจ้าโลมาสีชมพูเล่นตัวเก่ง เขินง่าย ชอบแอบซ่อนอยู่ตามส่วนนั้นส่วนนี้ใต้ทะเลเป็นว่าเล่น ไม่ใช่ว่าจะโผล่ออกมาเซย์ฮัลโหลโชว์ตัวเหมือนสัตว์น้ำในอควาเรียมให้ใครเห็นได้ง่าย ๆ นะจ๊ะจะบอกให้ แต่หากอยากรู้เรื่องราวความน่ารักของเจ้าโลมาสีชมพูที่สร้างความน่าอัศจรรย์ในการปรากฏตัวนาน ๆ ทีจนกลายเป็นเรื่องเล่าขานสุดโด่งดังของจังหวัดนครศรีธรรมราชแล้วล่ะก็ตามมาอ่านบทความนี้กันก่อนจะตัดสินใจเดินทางไปเที่ยวใต้ได้เลย ลักษณะของ “โลมาสีชมพู” ในเมืองไทย “โลมาสีชมพู” เป็นสัตว์น้ำเลี้ยงลูกด้วยนมที่มีขนาดตัวประมาณ 2 เมตรกว่า มวลร่างกายหนักประมาณ 150 – 230 กิโลกรัม สีชมพูอัศจรรย์ของโลมานั้นมาจากสีของหลอดเลือดที่ทำหน้าที่ป้องกันไม่ให้เกิดภาวะที่อุณหภูมิของร่างกายสูงเกินไปซึ่งมีประสิทธิภาพในการออกสีมากกว่าโลมาอื่น โดยตัวผู้จะมีขนาดใหญ่กว่าตัวเมีย และในขณะที่เป็นตัวอ่อนจะมีเข้ม ไม่ค่อยมีความใสเหมือนโลมาสีชมพูที่โตเต็มวัย ขนาดตัวประมาณ 1 เมตรเท่านั้น  น้องโลมาสีชมพูจะมีอายุอยู่ได้ประมาณ 40 ปีเหมือนกับโลมาสีอื่น ยิ่งแก่มากเท่าไหร่สีชมพูของโลมาจะมีความสดใสและเด่นชัดมากยิ่งขึ้น จนชาวนครศรีธรรมราชหลายคนกล่าวว่า เมื่อโลมาสีชมพูกระโจนขึ้นจากผิวน้ำต้องกับแสงแดดก็จะเห็นเป็นประกายอย่างชัดเจนสวยงามกว่าโลมาสีอื่นมาก ที่อยู่อาศัยของ “โลมาสีชมพู” ในเมืองไทย […]

ปลาเลี้ยงที่ทำให้บ้านสวยงาม

ปลาเลี้ยงที่ทำให้บ้านสวยงาม

เมื่อพูดถึงสัตว์เลี้ยงที่ทำให้บ้านมีความสวยงามได้แล้ว หากไม่นับ “นก”ที่เราเห็นว่าไม่สมควรนักที่จะนำมาเลี้ยงไว้ในกรงให้ขาดอิสรภาพตามธรรมชาติของเขา ก็ยังมีปลาที่เราสนับสนุนให้คุณเลี้ยงเพื่อความสวยงามมากกว่าเพราะอย่างน้อยเขาก็ยังได้แหวกว่ายในน้ำที่เป็นสภาพแวดล้อมของเขาไป ๆ มา ๆ ได้อย่างอิสระมากกว่านกแม้จะมีขอบเขตพื้นที่อยู่อาศัยซึ่งไม่ได้กว้างเหมือนแม่น้ำแต่ก็ยังทำให้เขารู้สึกปลอดภัยได้ อีกทั้งการเลี้ยงปลาในบ้านก็จะทำให้เวลาที่เดินผ่านไปมาแล้ว สมาชิกทุกคนในครอบครัวจะรู้สึกเย็นสบาย ได้ยินเสียงผิวน้ำที่กระเพื่อมเคลื่อนไหวจากปลาอย่างเย็นสบาย มีชีวิตชีวาขึ้นเยอะเลย ฉะนั้นหากคุณกำลังวางแผนจะเลือกปลาสักชนิดมาเลี้ยงในบ่อปลา ในอ่าง หรือภาชนะเพื่อเสริมสีสันประดับบ้านของคุณแล้วล่ะก็เราจะขอแนะนำปลาเหล่านี้มาเป็นเพื่อนแก้เหงาและสีสันให้แก่พวกคุณเลย รับรองว่าพวกคุณจะรู้สึกผ่อนคลายเมื่อมีพวกเขามาอยู่ด้วยแน่นอน ปลาคาร์ฟ “ปลาคาร์ฟ” เป็นปลาน้ำจืดลักษณะผมยาวเล็กน้อยที่จัดอยู่ในกลุ่มปลาตะเพียน มีต้นกำเนิดแท้จริงอยู่ที่ประเทศอิหร่าน แต่นิยมเลี้ยงกันมากที่สุดในประเทศญี่ปุ่นตามสระน้ำในสวนศิลปะของบ้านคนซึ่งทำให้บรรยากาศในสวนที่มีแต่สีเขียวชอุ่มนั้นเกิดความความโดดเด่นในบริเวณบ้านจากสีขาวของตัวปลาคาร์ฟที่มีลวดลายสีแดง สีส้ม และสีเหลืองมากมายทำให้เหมือนมีอัญมณีอยู่ในสระน้ำ จนเมืองไทยเราได้นำปลาคาร์ฟมาเป็นสัตว์เลี้ยงตามความสวยงามที่เห็นในญี่ปุ่น ปลาหางนกยูง “ปลาหางนกยูง” เป็นปลาที่เหมาะกับวัยรุ่นยุคใหม่ที่ชอบการตกแต่งห้องภายในบ้านด้วยสิ่งของจุกจิกเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่โดดเด่นได้ง่าย โดยเจ้าปลาหางนกยูงก็เป็นตัวเลือกที่ดีในการเลี้ยงในโถซึ่งสามารถวางบนตู้หรือโต๊ะเพื่อความสวยงามได้บนพื้นที่จำกัด แม้จะเป็นปลาตัวเล็ก แต่ก็มีหางที่ใหญ่และยาวแผ่ออกพลิ้วสวยเวลาว่างน้ำหลากหลายลวดลายสีสันเหมือนกับหางนกยูง สามารถเลี้ยงได้หลายตัวด้วย เก๋ไก๋ไปอีก ปลาทอง “ปลาทอง” เป็นปลาที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศจีนและญี่ปุ่น ตามตัวจะมีความโดดเด่นเปล่งประกายจากเกล็ดสีส้มอมทองบนลำตัวอ้วนป้อมขนาดเล็กที่สะท้อนน้ำได้อย่างชัดเจน สามารถเลี้ยงไว้ในภาชนะใสตกแต่งบ้าน เช่น โถแก้ว หรือตู้ปลาสี่เหลี่ยมก็ได้ แต่ห้ามเลี้ยงร่วมกับปลาขนาดใหญ่เป็นอันขาด เพราะปลาทองเป็นปลาที่จำอะไรไม่ค่อยได้ มักจะหลงทิศหลงทางจึงเสี่ยงที่อาจเกิดอันตรายเมื่ออยู่กับปลาขนาดใหญ่ได้ง่าย ๆ #ปลาเลี้ยง #ปลา #สัตว์โลกน่ารัก 

โลกน่ารักที่มีคนรู้จักน้อยของ “หมูขนแกะ”

โลกน่ารักที่มีคนรู้จักน้อยของ “หมูขนแกะ”

เฮ้ย! นั่นมันแกะนี่นา แต่ทำไมหน้าตามันช่างประหลาดราวกับหมูอย่างนั้น…ก็หมูน่ะสิตัวเอง ใครเล่าจะไปเชื่อว่าบนโลกของเราจะมีหมูที่ขนเหมือนแกะอยู่ด้วยจนถูกเรียกว่า “หมูขนแกะ” เวลาเดินมาแล้วมองไกล ๆ ยังต้องบอกกันก่อนเลยว่า “แกะมา ๆ” แต่พอเข้ามาใกล้จนเห็นรายละเอียดของตัวมันจริง ๆ ทุกคนต่างก็ต้องพากันแปลกใจเท่านั้น ด้วยสัตว์ชนิดนี้ถือเป็นสัตว์แปลกใหม่มากในสายตาของคนไทย ส่วนใหญ่ยังไม่มีใครรู้กันเลยว่าจะมีหมูบนแกะอยู่ในโลกของเราด้วย อะไรมันจะช่างบังเอิญขนาดนั้น พอเห็นแล้วก็อยากรู้ว่าความเป็นมาของหมูขนแกะนั้นเป็นเช่นไร? ทำไมขนเขาจึงเป็นแกะแต่ตัวเป็นหมู เกิดจากการผสมพันธุ์รึก็ไม่น่าจะใช่ เอ๊ะ หรือว่าใช่กันนะ? แล้วหากอยากเจอตัวจริงจะต้องไปชมกันที่ไหนดี เพราะมองไปมองมาแม้จะดูประหลาด แต่น้องเขาก็น่ารักมากเลย…โอเค! วันนี้เราจะมาไขข้อสงสัยของคุณให้กระจ่างกันเกี่ยวกับ “หมูขนแกะ” สัตว์โลกน่ารักที่มีคนรู้จักน้อยนี้ ทำความรู้จักกับ “หมูขนแกะ” “หมูขนแกะ” หรือที่เรียกกันว่า “Mangalitsa” หลายคนอาจจะคิดว่าเป็นหมูสายพันธุ์ใหม่ที่เพิ่งมีการค้นพบแต่แท้จริงแล้วหมูขนแกะมีต้นกำเนิดมาตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 19 ซึ่งก็ไม่ได้เกิดมาตามธรรมชาติแล้วมีลักษณะขนฟูเป็นลอนขยุกขยิกสีขาวเหมือนแกะเช่นนี้มาตั้งแต่แรก ทว่าเกิดจากฝีมือการทดลองของนักปศุสัตว์ชาวฮังการีคนหนึ่งที่ได้ทำการทดลองผสมหมูสองสายพันธุ์ ระหว่าง หมูป่าฮังการีที่มีขนยาวฟูเป็นขยุกเล็กน้อยกับหมูพื้นเมืองเซอร์เบียทำให้เกิดเป็นหมูขนแกะที่มีลำตัวอ้วนใหญ่ ขนหนาเต็มไปหมดและมีทั้งจนสีขาวกับสีน้ำตาล ก่อนจะทำการมอบเป็นของขวัญให้กับทางราชวงศ์ฮังการีเพื่อเลี้ยงไว้เป็นความสวยงาม แต่เมื่อได้ลองรับประทานเนื้อหมูขนแกะแล้วก็พบว่ามีรสชาติที่เลิศกว่าหมูทั่วไปจนชาวยุโรปมากมายติดใจและทำการขยายพันธุ์มาเลี้ยงในฟาร์มกันมากมายในปัจจุบันเพื่อการท่องเที่ยวและการนำไปทำอาหาร ซึ่งเวลานี้การเลี้ยงหมูขนแกะยังไม่พบเห็นในเมืองไทยหรือตามประเทศอื่นในแถบเอเชียนัก นิสัยของ “หมูขนแกะ” “หมูขนแกะ” มีนิสัยคล้ายกับสุนัขที่ชอบเข้าหาผู้คนที่มาเยี่ยมชมหรือดูแลเขา โดยเฉพาะเจ้าของที่เลี้ยง หมูขนแกะจะชอบมาคลอเคลียและเลียแข้งเลียขาด้วยความรักพร้อมส่งเสียงออดอ้อนจนคนที่เอาอาหารมาให้ต้องเล่นกับเขาทุกคน และทำให้เกิดความผูกพันโดยไม่รู้ตัวเสียหลายคนด้วย ใครที่อยากมาชมน้องแกะที่ยุโรปสามารถจับน้องเขาได้ น้องเขาไม่กัด เลี้ยงมาจนเชื่องดีแล้ว อาหารหลักของ “หมูขนแกะ” “หมูขนแกะ” […]

“นาก” สัตว์น่ารักที่ไม่ควรนำมาเลี้ยง

“นาก” สัตว์น่ารักที่ไม่ควรนำมาเลี้ยง

หากพูดถึงสัตว์ยอดนิยมที่กำลังอยู่ในความจับจ้องโมเม้นต์น่ารักตอนนี้ก็คงไม่พลาดที่จะพูดถึง “นาก” เจ้าสัตว์สี่ขาเลี้ยงลูกด้วยนมที่ลำตัวมีขนนุ่ม ๆ สีน้ำตาลอมเทา ที่นิ้วมีแผ่นพังผืดขึงระหว่างกันคล้ายตีนเป็ด และว่ายน้ำด้วยหางอย่างรวดเร็วอยู่แล้ว เพราะสัตว์ตัวนี้หากมองดูจากไกล ๆ ไม่ว่าใครก็คงคิดว่าเป็นแมว เพราะมีลักษณะลำตัวกับขนที่ค่อนข้างเหมือนกัน แต่พอเห็นว่าเป็นตัวนากสุดน่ารักตาใสแป๋วแล้วล่ะก็แทบอยากจะเข้าไปกอดเลย ทว่าในขณะเดียวกันบางทีเราก็มักจะรู้สึกอึดอัดกับเจ้านากที่มักเจอในภาพลักษณ์ของสัตว์เลี้ยงถูกล่ามด้วยโซ่ทำให้ไปไหนมาไหนไม่สะดวก และเจ้าของจะปล่อยเฉพาะบางเวลาเท่านั้น ช่างเป็นเรื่องที่น่าเศร้าสำหรับผู้คนส่วนใหญ่ที่ชื่นชมแต่ความน่ารักของตัวนากจนหลงลืมไปว่าแท้จริงแล้ว “นากไม่ใช่สัตว์เลี้ยง” และไม่สมควรที่จะอยู่ในเมืองด้วย สิ่งที่เราทำอยู่หาใช่สิ่งที่ถูกต้องแต่อย่างใด หากแต่เป็นการทำลายอิสระของสัตว์ตัวหนึ่งให้หายไปตลอดกาลเพียงเพราะอยากเชยชมก็เท่านั้น หากอยากรู้ว่าทำไมนากจึงไม่ควรนำมาเป็นสัตว์เลี้ยงล่ะก็จงอย่ารีรอที่จะอ่านเนื้อหาด้านล่างเลย นากเป็นสัตว์ป่า ตามพื้นเพของ “นาก” แล้ว สัตว์ชนิดนี้เป็นสัตว์ป่าที่อยู่กับระบบนิเวศป่าไม้ลึกและชอบอาศัยใกล้กับแหล่งน้ำริมตลิ่งโดยจะขุดดินอยู่ในรูที่เงียบสงบ ในทุกวันนากจะออกมาว่ายน้ำเล่นเป็นกลุ่มขนาดเล็กและขนาดใหญ่อย่างสนุกสนาน มีอิสระเป็นของตัวเอง ไล่จับปลาและสัตว์น้ำขนาดเล็กกินเป็นกิจวัตร ชอบอยู่ในพื้นที่มีอากาศเย็นสบาย ด้วยเหตุนี้เมื่อนำนากมาไว้ในเมืองก็จะทำให้เขาร่างกายไม่แข็งแรงเหมือนเวลาอยู่ในป่าและอาจทำให้เขารู้สึกเหงา ไม่ชินกับสภาพแวดล้อมและบรรยากาศร้อนเกินไปในชุมชนเมืองได้ แม้คุณจะเลี้ยงแต่เขาก็จะไม่มีความสุขเท่าที่ควรแน่นอน จึงไม่ควรนำนากมาเป็นสัตว์เลี้ยง นากเป็นสัตว์คุ้มครองตามกฎหมาย นอกจากนากจะเป็นสัตว์ป่าที่ชอบอยู่กับธรรมชาติมากกว่าในเมืองแล้วก็ยังเป็นสัตว์ที่ได้รับการคุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า ปีพุทธศักราช 2535 ด้วย หากผู้ใดนำนากมาเลี้ยงหรืออยู่ในความดูแลโดยที่ไม่ได้รับอนุญาตด้านการครอบครอง ล่า หรือค้าแล้วล่ะก็จะต้องได้รับโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปี และปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาทและในล่าสุดนี้ พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าฉบับใหม่จะถูกใช้อย่างเป็นทางการ ซึ่งมีอัตราโทษสูงขึ้นหลายเท่าด้วย เวลาหงุดหงิดนากจะสามารถทำร้ายผู้อื่นได้ง่าย แม้ว่าในเวลาปกตินากจะเป็นสัตว์ที่มีนิสัยขี้อ้อนน่ารัก แต่เมื่อโตเต็มวัยแล้วก็จะมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป เนื่องจากมีสัญชาตญาณเป็นนักล่าแบบสัตว์ป่าที่มากขึ้นมักจะขี้ระแวง กล้าหาญที่จะต่อสู้ป้องกันตัวเองมากขึ้น โดยเฉพาะช่วงที่นากโกรธหรือหงุดหงิดแล้วล่ะก็จะร้องเสียงดังและกัดคนที่เข้าใกล้ได้ง่าย ๆ […]

“จระเข้สีส้ม” สัตว์แปลกแห่งรัฐเซาท์แคโรไลนา

“จระเข้สีส้ม” สัตว์แปลกแห่งรัฐเซาท์แคโรไลนา

ในชีวิตประจำวันคุณอาจจะเคยเห็นจระเข้มาแล้วหลายชนิด แต่คงไม่เคยมีคนไทยคนไหนเคยเห็นจระเข้ประหลาดที่มีสีส้มทั้งตัวอย่างแน่นอน เชื่อว่าหลายคนคงคิดมาตลอดว่าจระเข้มีแค่สีเทาหรือไม่ก็สีน้ำตาลเท่านั้น พอมาเห็นภาพจระเข้สีส้มนี่ต้องบอกเลยว่าอึ้งสิคะ! ใครเล่าจะคิดว่าในโลกนี้มีจระเข้สีส้มด้วย แน่นอนว่าในโลกนี้เราสามารถเห็นจระเข้สีส้มได้จากรัฐเซาท์แคโรไลนาซึ่งหากอยากรู้ว่าการดำเนินชีวิตของเจ้าจระเข้สีส้มนี้เป็นอย่างไรล่ะก็เราจะพาทุกคนมารู้จักกันที่ประเทศสหรัฐอเมริกากันเดี๋ยวนี้ล่ะ ซื้อตั๋วแล้วก็บินไปดูจระเข้สีส้มพร้อม ๆ กันเลยดีกว่า ต้องบอกก่อนว่าพอได้เห็นสีส้มของมันแล้วก็ทำให้เรารู้สึกหวาดกลัวจระเข้น้อยกว่าจระเข้สีดำเยอะเลยด้วย แถมได้ยินว่าเจ้าจระเข้ที่รัฐนี้เขาสงบมากเลยนะ จะจริงหรือเปล่ามาดูมา ๆ ทำความรู้จักกับ “จระเข้สีส้ม” “จระเข้สีส้ม” เป็นสัตว์เลื้อยคลานที่มีความแปลกตรงสีลำตัวที่ออกสีส้มไปทางเกือบน้ำตาลทำให้สามารถเห็นลวดลายเกล็ดตามลำตัวได้อย่างสวยงามชัดเจน ไปจนถึงดวงตาที่กลมโตสีดำชัดเจนตัดกับสีส้มทำให้มีความน่ารัก มักส่งยิ้มให้ผู้ที่ผ่านไปผ่านมาในสระน้ำเล็กๆใกล้ๆกับเมือง Bluffton รัฐเซาท์แคโรไลนา ของสหรัฐอเมริกามาก ซึ่งมีการรายงานข่าวจากผู้ที่ค้นพบว่าสีส้มบนตัวจระเข้อาจเกิดจากการที่พวกมันจำศีลในท่อระบายน้ำเหล็กที่เป็นสนิมนานจนทำให้สีตัวที่เคยดำเปลี่ยนเป็นสีส้ม แต่แท้จริงแล้วพวกมันคือจระเข้สีส้มที่มีอยู่จริง แต่ส่วนใหญ่จระเข้พันธุ์นี้จะพบทางแถบทางตอนใต้ของสาธารณรัฐกาบองในแอฟริกาตะวันตก ซึ่งจระเข้พันธุ์นี้มีชื่อว่า “Osteolaemus tetraspis” เป็นจระเข้พันธุ์แคระที่มักชอบจำศีลอยู่ในถ้ำและในน้ำซึ่งมีการถ่ายทอดพันธุกรรมมาหลากหลายทำให้บางตัวเป็นสีส้มซึ่งปัจจุบันก็มีการแพร่กระจายไปในทวีปใกล้เคียงแล้วแต่ยังไม่เยอะนัก และบางตัวก็มีขนาดใหญ่ด้วย อีกทั้งจระเข้บางตัวจะมีสีส้มมากหรือส้มอมดำก็แล้วแต่ถิ่นที่อยู่ด้วยเช่นกัน ความสามารถพิเศษของ “จระเข้สีส้ม” “จระเข้สีส้ม” ชอบอยู่ในที่มืดและมักรับของเสียจากค้างคาวได้ง่าย ๆ ทำให้ผิวหนังที่ไวต่อการสัมผัสเปลี่ยนสีได้ตามโอกาสและสภาพแวดล้อม ตาสามารถมองเห็นในที่มืดได้เป็นอย่างดี และมีความสงบ ค่อนข้างเชื่องกับคนมาก แต่มันก็ไม่ชอบให้ใครไปรบกวนมันสักเท่าไหร่ อาหารสุดโปรดของ “จระเข้สีส้ม” “จระเข้สีส้ม” ที่ส่วนใหญ่ชอบอยู่ใต้น้ำมีอาหารสุดโปรดที่ชื่นชอบอย่างการกินค้างคาวและจิ้งหรีด ส่วนจระเข้สายพันธุ์เดียวกันที่อยู่บนบกก็หากินปลาหรือสัตว์ทะเลมีกระดองและเปลือกเป็นอาหาร #จระเข้สีส้ม #สัตว์โลกน่ารัก #สัตว์แปลก

3 สัตว์ในวรรณคดีไทยที่มีอยู่จริง

3 สัตว์ในวรรณคดีไทยที่มีอยู่จริง

หลายคนอาจกล่าวกันว่าสัตว์ในวรรณคดีไทยที่มีรูปลักษณ์แปลกประหลาดแต่มีความสง่างามนั้นมาจากจินตนาการของผู้เขียนที่คิดสร้างสรรค์ตัวละครปรัมปราให้ออกมามีความแปลกประหลาดที่ไม่มีวรรณกรรมใดของต่างประเทศเหมือน โดยเฉพาะเหล่าสัตว์ในป่าหิมพานต์ที่หลายคนเชื่อว่าบางชนิดก็มีอยู่จริงตามความเชื่อ และกลายมาเป็นการนำรายละเอียดต่าง ๆ ของสัตว์ที่มีอยู่จริงและคิดเอาเองมาแต่งเติมรวบรวมกันในตัวละครสัตว์ในวรรณคดี 1 ตัวจนออกมามีรูปที่แปลกตาและไม่มีใครเหมือนได้อย่างงดงาม นั่นคือความจริงบางส่วน แต่อีกส่วนหนึ่งคุณรู้หรือไม่ว่าสัตว์ในวรรณคดีบางชนิดก็มีต้นแบบมาจากการนำสัตว์ที่มีอยู่จริงในโลกของเราเอง แต่ถูกนำมาปรับให้มีความแตกต่างกันเล็กน้อยไม่ว่าจะเป็นในด้านของขนาดร่างกาย ความสามารถพิเศษ หรือลักษณะพิเศษภายนอกต่าง ๆ ที่มองแล้วรู้สึกพิศวง ซึ่งวันนี้เราก็ได้นำสัตว์ในวรรณคดีไทย 3 ชนิดที่มีอยู่จริงในโลกของเรามาแนะนำให้คุณได้รู้กัน หนุมาน หนุมาน เป็นสัตว์ในวรรณคดีไทยที่หาวเป็นดาวเป็นเดือน กำเนิดจากเทพวายุหรือเทพแห่งลมทำให้มีพละกำลังที่มากกว่าลิงตนอื่น นิสัยออกซุกซน ตัวจริงของหนุมานในโลกเรานั้นคือ ลิงอุรังอุตัง ที่เป็นลิงขนาดใหญ่ มีลำตัวที่อ้วน แขนและขาใหญ่ ขนยาวกว่าลิงทั่วไป สามารถเดินสองขาได้เหมือนคน และส่วนสูงก็เท่ากับเด็กโตหน่อย มีความฉลาดกว่าลิงปกติ สามารถเข้ากับมนุษย์และเผ่าพันธุ์ลิงต่าง ๆ ได้ดี เป็นมิตรแต่ก็ป้องกันตัวเองด้วยความสามารถทางกำลังได้หากมีภัยเช่นกัน หากใครยังนึกภาพลิงอุรังอุตังไม่ออกก็ให้นึกถึงลิงในละครเรื่อง ธิดาวานร แม่มา…แม่มานั่นล่ะ พญานาค พญานาค เป็นสัตว์ในวรรณคดีหลายเรื่อง เป็นตัวแทนทางพุทธศาสนาและอยู่คู่กับความเชื่อของชาวไทยมานมนานโดยเฉพาะชาวอีสานที่เชื่อว่าใต้แม่น้ำโขงเป็นเมืองบาดาลที่พญานาคหลายสายอาศัยอยู่อย่างสงบสุข และเมื่อถึงคืนแรม 1 ค่ำ เดือน 11 พญานาคทุกตนก็จะพ่นดวงไฟออกมาเป็นลูก ๆ ออกสีส้มโผล่พ้นจากแม่น้ำโขงลอยขึ้นสู่ฟากฟ้าหลายดวงสวยงามอย่างน่าอัศจรรย์และเคยมีชาวบ้านที่นั่งเรือเห็นงูขนาดยักษ์ในแม่น้ำโขงมาแล้วแม้จะว่ายผ่านอย่างรวดเร็ว จึงเกิดความเชื่อในเรื่องจริงอันเป็นที่มาของพญานาคได้เป็น 2 ประเด็น คือ พญานาคคืองูขนาดยักษ์ […]

3 ปลายักษ์สุดแปลกที่ใครเห็นก็ต้องอึ้ง!

3 ปลายักษ์สุดแปลกที่ใครเห็นก็ต้องอึ้ง

โลกใต้น้ำเป็นดินแดนที่แสนลึกล้ำยากที่จะเข้าถึงทำให้ความอยากรู้ของคนทั่วไปนั้นมีมาก โดยเฉพาะความอยากรู้เกี่ยวกับสัตว์น้ำที่อยู่ลึกลงไปซึ่งไม่ได้พบเห็นได้ง่าย ยังมีสัตว์น้ำแปลกประหลาดอีกมากมายทั้งในทะเลและแม่น้ำที่อยู่ลึกให้เราได้สำรวจกันอีกมาก สำหรับคนส่วนใหญ่นั้นการที่เราได้ค้นพบปลายักษ์ที่มีขนาดมวลหนักกว่าปลาทั่วไปและตัวยาวมากก็ทำให้รู้สึกตกตะลึงมากเกินพออยู่แล้ว แต่ลองคุณได้รู้จักกับ 3 ปลายักษ์สุดแปลกที่วันนี้เราจะนำมาเสนอล่ะก็รับรองว่าหลายคนต้องช็อกไปตาม ๆ กันอย่างแน่นอน เพราะไม่ค่อยได้มีใครพบเห็นปลาเหล่านี้นัก อีกทั้งยังไม่ใช่ปลาที่จะพบเห็นได้ในประเทศไทยด้วย ด้วยลักษณะมากมายที่ชวนให้อยากรู้จักกัน เราจะพาคุณมาเปิดโลกใต้น้ำให้ลึกลงอีกครั้ง ตามมากันเลย ปลาแองเกลอร์ “ปลาแองเกลอร์” เป็นปลาแปลกที่ไม่ได้หายากอะไรเพียงแค่มันจะชอบอยู่อาศัยในน้ำลึกมากจนแสงอาทิตย์ไม่สามารถที่จะส่องถึงได้ก็เท่านั้น บริเวณมหาสมุทรแอตแลนติกและแอนตาร์กติกซึ่งคำนวณแล้วมีความลึกมากกว่า 200 เมตร โดยลักษณะของปลาตัวนี้หากเป็นเพศผู้จะมีลักษณะทั่วไป แต่หากเป็นเพศเมียจะมีลักษณะที่หน้ากลัว ลำตัวอ้วนกลม ฟันยาวแหลมคม บริเวณส่วนหัวเหนือปากจะมีเอสคา หรือ ชิ้นส่วนของกระดูกสันหลังยื่นออกมาเหมือนเบ็ดตกปลา ซึ่งสามารถเรืองแสงได้ด้วยแบคทีเรียในการล่อเหยื่อให้มาติดกับดักและกินเป็นอาหารอย่างรวดเร็ว คนไทยบางคนจะรู้จักปลานี้กันมากในการ์ตูนแอนิเมชั่นเรื่อง “Finding Nemo” ปลาหมึกโคลอสซัล “ปลาหมึกโคลอสซัล” หรือ “หมึกมหึมา” เป็นปลาประหลาดไร้กระดูกสันหลัง ลำตัวใหญ่ที่สุดในสปีชีส์ของปลาหมึกทุกชนิดบนโลก อยู่ในสกุล Mesonychoteuthis ขนาดตัวเต็มวัยใหญ่ที่สุดกว้างถึง 14 เมตรซึ่งใหญ่กว่าตัวมนุษย์ธรรมดาอย่างเราหลายเท่า หากใครยังจำปลาหมึกยักษ์ในการ์ตูนโดเรมอน ตอน “ผจญภัยใต้สมุทร”ได้ มันพบได้มากในทวีปแอนตาร์กติก ขึ้นไปทางใต้ของทวีปอเมริกาใต้ ทางใต้ของทวีปแอฟริกา และทางใต้ของนิวซีแลนด์ แต่วงจรชีวิตสั้นมาก มีจะงอยปากและดวงตาที่ใหญ่ที่สุดในสัตว์ทุกชนิดบนโลก ปลาหมาป่าทะเล “ปลาหมาป่าทะเล” หรือ “Wolf […]

3 นกพิราบที่สวยที่สุดในโลก

3 นกพิราบที่สวยที่สุดในโลก

ในชีวิตประจำวันของคุณ คุณรู้สึกอย่างไรกับนกพิราบ? สำหรับเรานั้นรู้สึกเบื่อมากกับการที่ต้องบ่นต้องไล่นกพิราบที่มาเกาะหลังคาบ้านไล่จิกกัดกันเสียงดังทุกวันจนไม่เป็นอันทำงานอะไรเลย เสียงดังไม่พอ ยิ่งเห็นตัวนกพิราบฝูงใหญ่ที่เป็นสีเทาแล้วยิ่งทำให้รู้สึกหม่นจิตไปอีก ก็อย่างที่หลายคนมักเห็นกันว่าไทยเราไม่ค่อยมีนกพิราบสีอื่นนอกจากสีเทาอ่ะเนาะก็ต้องทำใจหน่อย แถมนกพิราบไทยบางทีก็ชอบตีมึนไม่ยอมหนีคนที่ไล่อีกต่างหาก ช่างแตกต่างจากนกพิราบของต่างประเทศที่มีสีขาวบริสุทธิ์สวยงามจนถูกนำไปใช้เป็นสัตว์รักอิสรภาพอันยิ่งใหญ่ของโลกและใช้ในฉากโรแมนติกระหว่างคู่พระนางในภาพยนตร์บ่อย ๆ น่าอิจฉาจริง  แต่รู้หรือไม่ว่า…นอกจากต่างประเทศจะมีนกพิราบสีขาวแล้วก็ยังมีนกพิราบสีอื่น ๆ ที่สวยและสง่างามเทียบเท่านกสวยระดับโลกชนิดอื่นจนคุณอาจทึ่งไปเลยก็ได้ว่านี่คือ “นกพิราบจริง ๆ หรือ!?” เอาเป็นว่าหากรู้จักพวกเขามากขึ้น เราจะพา 3 นกพิราบที่สวยที่สุดในโลกมาอวดคุณในวันนี้กัน แล้วคุณอาจจะรักวงศ์นกพิราบมากขึ้นก็ได้ นกพิราบเปล้าคอสีม่วง “นกพิราบเปล้าคอสีม่วง” เป็นนกที่มีลำตัวอวบอ้วนกลมสีเขียวใบไม้แก่กลมกลืนกับการอยู่ท่ามกลางสภาพป่าที่เป็นแหล่งอยู่อาศัย มีความโดดเด่นบริเวณลายพาดคอที่เป็นสีม่วง อกสีส้ม หัวสีเทา และขนคลุมใต้หางสีน้ำตาลแดงในเพศผู้ ส่วนเพศเมียจะมีลักษณะเด่นบริเวณหางที่เป็นสีเทาและปลายสีดำสดเป็นแถบสวยงาม อยู่ในกลุ่มของนกเขานกพิราบ พบได้บ่อยตามสวนสาธารณะ ทุ่งนา บึงน้ำ ป่าชายเลน และป่าเสม็ด ทางภาคกลาง ภาคใต้ ภาคตะวันออก และภาคตะวันตก ถือเป็นนกพิราบที่มีความสวยแบบนุ่มนวลมาก นกพิราบ Frillback Pigeon “นกพิราบ Frillback Pigeon” อยู่ในกลุ่มนกพิราบแฟนซี นกพิราบนี้จะมีลำตัวสีเทาคล้ายกับนกพิราบของไทยเรา แต่มีความโดดเด่นที่แตกต่างกันออกไปด้วยด้วยขนปกคลุมที่มีลักษณะหยิกหยองเป็นลอนสวย ๆ บริเวณลำตัวราวกับใส่ชุดคลุมขนสัตว์ไฮโซ ๆ ไว้ตลอดเวลา คอสั้น ตากลมเล็กดูน่ารักเวลาจับจ้อง […]

3 อันดับสัตว์ที่เคลื่อนที่ช้าสุดในโลก

3 อันดับสัตว์ที่เคลื่อนที่ช้าสุดในโลก

ภายใน 1 วันขณะที่สิ่งมีชีวิตทุกชนิดกำลังเคลื่อนที่ไปตามกิจวัตรและวงจรชีวิตของตัวเอง รวมถึงตัวคุณที่เป็นมนุษย์ที่กำลังเดินไปยังจุดหมายอยู่ตอนนี้ เคยเกิดความสงสัยใคร่รู้แปลก ๆ บ้างหรือไม่ว่ามนุษย์คนไหนในโลกกันนะที่เดินช้าที่สุด ตรงนี้เราอาจจะเปรียบเทียบยากเพราะคนเรามีความรวดเร็วในการเดินที่แม้จะแตกต่างกัน แต่ก็จะมีจังหวะการก้าวที่เท่า ๆ กันอยู่ดี ยกเว้นผู้ที่มีร่างกายหรือสุขภาพไม่แข็งแรงนักตรงนี้เป็นข้อยกเว้น ทว่าหากลองมองในสิ่งมีชีวิตที่คนละสปีชีส์กับเราอย่างพวกสัตว์ล่ะ…จะมีสัตว์ชนิดใดที่เคลื่อนที่ช้าที่สุดในโลกกัน ช่างน่าค้นหานัก เพราะหากเทียบกับจำนวนมนุษย์ในโลกแล้วล่ะก็จำนวนของสัตว์ย่อมเยอะมากกว่าจนเวลานี้นักวิทยาศาสตร์อาจจะยังสำรวจไม่หมดด้วยซ้ำทั้งบนบกและในน้ำที่ลึกลงไปยากแท้หยั่งถึง ในเวลานี้เราจึงสามารถนำ 3 อันดับสัตว์ที่เคลื่อนที่ช้าสุดในโลกซึ่งถูกค้นพบและจัดอันดับมาในปัจจุบันได้เท่านั้น ด้วยในอนาคตหากวิทยาการสำรวจเข้าถึงระบบนิเวศลึกลงไปได้อีกล่ะก็เราอาจจะได้พบเจอกับสัตว์แปลกที่เคลื่อนที่ช้ามากกว่าสัตว์เหล่านี้อีกก็เป็นได้ หอยทาก สำนวนที่คนไทยรุ่นใหม่ชอบกล่าวกันว่า “ช้าอย่างกับหอยทาก”นั้นย่อมจะไม่ผิดจากความจริงใด ๆ เลยเมื่อผลการสำรวจได้ออกมาแล้วว่า หอยทากสามารถเคลื่อนที่ได้ช้าที่สุดในโลก อัตราความเร็วในการเคลื่อนที่ของหอยทากนั้นช้ากว่าทากเสียอีก พวกมันมีการเคลื่อนที่ 0.1 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพราะปัจจัยในด้านของลักษณะเปลือกห่อหุ้มส่วนบนของตัวที่หนากว่าและใหญ่กว่า ส่วนท้องก็มีลักษณะแบนและแผ่ออก ซึ่งเป็นจุดที่หอยทากใช้ปล่อยเมือกออกมาเพื่อช่วยลดแรงเสียดทาน ต้องค่อย ๆ เคลื่อนขยับตัวไม่งั้นอาจเป็นอันตรายได้ และถ้าได้นอนก็จะหลับยาวได้ถึง 3 ปีเลยทีเดียว ช่างเป็นสัตว์ที่น่าทึ่งอะไรอย่างนี้  เต่ายักษ์ เต่ายักษ์ เป็นสัตว์บกเลื้อยคลานที่อยู่ทางแถบมหาสมุทรอินเดีย โดยกลุ่มที่ใหญ่ที่สุดจะอยู่ที่ภูเขาไฟอัลเซโดกบนเกาะกาลาปากอส ปัจจุบันหลงเหลืออยู่เพียงแค่ 15,000 ตัวเท่านั้น เนื่องจากลักษณะตัวที่หนักไม่ต่ำกว่า 350 กิโลกรัม และเคลื่อนที่ช้าเพียงแค่ 0.3 กิโลเมตรต่อ 1 ชั่วโมงเท่านั้นจึงทำให้มันมีระบบเผาผลาญของเต่ายักษ์ที่ช้า โดยใน […]

นกเค้าแมวเป็นสัตว์ที่น่ากลัวจริงหรือ?

นกเค้าแมวเป็นสัตว์ที่น่ากลัวจริงหรือ?

เมื่อพูดถึงชื่อ “นกเค้าแมว”แล้ว หลายคนต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่านกเค้าแมวเป็นตัวแทนของความลึกลับ น่ากลัวที่ไม่ควรให้มันมาบินเฉียดใกล้บ้านของใคร ไม่เช่นนั้นบ้านหลังนั้นก็จะมีคนที่ต้องตาย ตามความเชื่อของคนไทยและคนจากหลากหลายชาติเป็นเช่นนั้นเพียงเพราะว่ามันเป็นสัตว์ที่คล้ายนกฮูก เพียงแต่ตัวจะใหญ่กว่า และมีดวงตาที่เรียวเป็นสีดำเล็กที่ใครเห็นก็ต้องคิดว่าเมื่อมันจ้องมาแล้วจะกลายเป็นคำสาปจึงไม่แปลกที่นกเค้าแมวจะถูกให้ฉายาในบางวัฒนธรรมความเชื่อว่า “ภูตแห่งความตาย” และถูกใช้ประกอบนิทานหรือภาพยนตร์ที่เกี่ยวข้องกับไสยศาสตร์และเวทมนตร์มากมาย อีกทั้งยังถูกขับไล่จากชาวบ้านชาวเมืองด้วยเพียงเพราะลักษณะภายนอกทั้งที่ความจริงแล้วไม่ใช่แบบนั้นเลย หากคุณลองมองตัวมันให้กว้างขึ้นกว่านี้โดยไม่มีคติความเชื่อเข้ามาสอดแทรกก็จะเห็นความโดดเด่น น่าค้นหา และความน่ารักที่ซ่อนอยู่ในตัวนกเค้าแมวมากเลยล่ะ แล้วความโดดเด่นใดที่จะทำให้คุณเปลี่ยนอคติจากพวกมันได้มาดูกัน นกเค้าแมวเป็นสัตว์ที่รักความเป็นส่วนตัว แท้จริงแล้วนกเค้าแมวเป็นสัตว์ที่มีโลกส่วนตัวของตนสูงเพราะแหล่งที่อยู่อาศัยของมันคือในป่าลึกและตามภูเขาที่มักจะไม่ค่อยมีบ้านคน ไม่ค่อยได้ออกมาเท่าไหร่ ถึงอยู่ใกล้ชุมชนเมืองก็จะหลบอยู่ในซอกตึกหรือมุมสถานที่ต่าง ๆ ในเมืองที่คนไม่ค่อยเห็นกัน เพราะอีกส่วนหนึ่งมันย่อมรู้ดีว่าหากออกไปจากแหล่งที่อยู่อาศัยของตัวเอง ล ักษณะของมันที่ใหญ่และโดดเด่นอยู่แล้วก็จะเป็นที่สนใจของพวกมนุษย์จนมีอันตรายได้แม้ว่าจะออกหากินตอนกลางคืนก็ตาม และมันก็ไม่ชอบอยู่ในที่ที่มีแสงไฟเท่าไหร่ สวรรค์ของมันคือที่ที่มีต้นไม้เยอะ หลบซ่อนตัวอยู่ตามใบไม้ บางตัวก็แอบขี้อาย แต่ลองได้มีนกเค้าแมวตัวใดเผลอออกมาในเมืองดูสิ ผู้คนจะกลัวมากที่มันจะโผล่หน้าออกมาแค่ดวงตาที่หากเป็นตอนกลางคืนก็จะมีความสว่างราวกับเป็นสัตว์ประหลาดจนเกิดเป็นเรื่องราวใหญ่โตเล่าขานกันไปเองนี่ล่ะ ช่างน่าสงสารเจ้านกเค้าแมวเสียจริง แค่ขี้อายเอง เราผิดด้วยหรือมนุษย์ นกเค้าแมวพบเจอยากมาก นกเค้าแมวเป็นสัตว์ที่ไม่ค่อยพบได้ง่าย ๆ เพราะมันมักจะอาศัยอยู่ตามป่าลึก ยิ่งเป็นในเมืองไทยที่มีความเจริญเข้าถึงแทบทุกที่แม้แต่ในต่างจังหวัดแล้วก็ยิ่งพบเจอได้ยากกว่าแถวทวีปอเมริกาใต้และยุโรปมาก เพราะทางแถบนั้นจะมีโบราณสถานขนาดใหญ่ที่คนไม่ค่อยได้เข้าและมีต้นไม้เยอะ ป่าที่เป็นแหล่งอยู่อาศัยก็อยู่ติดกับชุมชนเมืองทำให้นกเค้าแมวสามารถหลบซ่อนพรางตัวได้กับมุมต่าง ๆ ในสถานที่นั้น เช่น หลังคาโบสถ์ บ้านร้าง ซอกมุมตึก โพรงไม้ เป็นต้น แต่ไทยเราธรรมชาติมักจะมีแต่ทุ่งนา การที่จู่ ๆ เราพบเจอนกเค้าแมวจึงเป็นเรื่องที่น่าตกใจจนผู้คนกลัวกันไปเอง  นกเค้าแมวเคยถูกใช้เป็นสัตว์วิเศษในแฮรี่ พอตเตอร์ เชื่อว่าหลายคนคงเป็นแฟนคลับภาพยนตร์เรื่อง […]

เปิดโลกชวนพิศวงของ “งูกาบูน”

เปิดโลกชวนพิศวงของ “งูกาบูน”

อ้าวเฮ้ย! บทความนี้อยู่ในหมวดหมู่สัตว์ไม่ใช่หรือ ทำไมถึงได้เอาของเล่นงูมาเขียนบทความกันล่ะ ใจเย็น ๆ นะคะทุกคน สูดลมหายใจแล้วค่อย ๆ มองตามดี ๆ เห็นผ่านแบบนี้แต่ความจริงแล้วเจ้างูที่อยู่ในภาพปกไม่ใช่ของเล่นนะคะ แต่เป็นงูจริง มีชีวิตจริง ไม่ใช่ของเล่นแสดงแต่อย่างใด มาถึงตรงนี้พวกคุณอาจจะตกใจและไม่คิดว่าในโลกของเราจะมีงูแปลกประหลาดแบบนี้อยู่ เจ้างูตัวนี้ชื่อว่า “งูกาบูน” ซึ่งหากใครที่อยากจะเห็นมันก็คงต้องหาซื้อตั๋วเครื่องบินไปทำการสำรวจกันเอง เพราะในประเทศไทยไม่มีงูชนิดนี้อยู่นะจ๊ะ อยากรู้กันถึงความพิศวงของเจ้างูกาบูนที่แปลกทั้งลักษณะภายนอกและชีวิตของมันกันแล้วใช่หรือไม่ ถ้าอย่างนั้นตามไปดูกันเลยดีกว่ามันมีความเป็นมาอย่างไรบ้างล่าสุดถึงได้มาปรากฏเป็นกระแสข่าวให้คนไทยรู้จักกันได้มากยิ่งขึ้น ทำความรู้จักกับ “งูกาบูน” “งูกาบูน” หรือที่คนในท้องถิ่นเรียกกันว่า “งูพิษกาบูน” เป็นงูสุดแปลกที่มีความโดดเด่นในสายตาคนทั่วโลกจากรูปร่างของมันที่แตกต่างจากงูพิษทั่วไป คือ มีลำตัวอ้วนสั้น หัวเป็นรูปทรงสามเหลี่ยมเด่นชัดเงางาม จมูกตั้งและปลายจมูกมีหงอนเล็ก ๆ ลวดลายเรียงสลับกันอย่างมีเป็นรูปตาข่ายคล้ายกับโครงกระดูกฟอสซิลงูของเล่นที่เคลื่อนที่ได้ มีชีวิตได้ หากเด็ก ๆ เห็นก็อาจเผลอจับจนมีอันตราย ส่วนสีลวดลายบนตัวของงูกาบูนตัวหนึ่งก็จะมีหลากหลายก็มีตั้งแต่ชมพูอมม่วง เหลือง ขาว น้ำตาล สลับกันไปมาที่หากต้องกับแสงแดดก็ทอประกายได้ จึงไม่แปลกที่มันจะถูกจัดให้เป็นงูพิษที่สวยงามที่สุดในโลก และมีได้ฉายาว่า “งูแอดเดอร์ผีเสื้อ”  ถิ่นที่อยู่อาศัยของ “งูกาบูน” “งูกาบูน” อาศัยอยู่ในบริเวณที่มีภูมิประเทศเป็นป่าฝน ทุ่งสะวันน่า และที่ราบกึ่งทะเลทรายของแอฟริกา แต่ก็ไม่หวาดกลัวคน หากชุมชนหรือหมู่บ้านที่ติดกับทะเลทราบและสภาพแวดล้อมของมัน มันก็สามารถเข้ามาหาอาหารได้และคุณอาจเจอมันตามพื้นฟุตบาทหรือพื้นสนามหญ้าได้ ต้องคอยระวังให้ดี  […]

“แมงมุมสีรุ้ง” สัตว์น่าพิศวงที่ไม่ชอบอยู่กับใคร

“แมงมุมสีรุ้ง” สัตว์น่าพิศวงที่ไม่ชอบอยู่กับใคร

ไหนใครเป็นสายกลัวแมงมุมบ้างยกมือขึ้น! โอ้โห มีกันหลายคนเลย ทำไมถึงกลัวแมงมุมกันล่ะ แน่นอนว่าคำตอบของคนส่วนใหญ่ย่อมพูดกันว่าไม่ชอบขาที่ยาวและใหญ่ของแมงมุม ดวงตาที่มีมากมายแลดูน่ากลัวพร้อมกัดเนื้อให้จมลึกได้ ไหนจะขนสีดำอีก แบบนี้ใครจะว่าน่ารักล่ะ เช่นนั้นหากคุณกลัวรูปร่างภาพรวมของแมงมุมแล้วล่ะก็คิดว่าหากเป็นแมงมุมสีรุ้ง…ตัวเองจะยังกลัวหรือเปล่า มาถึงตรงนี้หลายคนอาจสงสัยว่าจะเป็นไปได้อย่างไร โลกเราไม่มีหรอก แมงมุมที่ตัวจะเป็นสีรุ้งน่ะ แต่ถ้ามีก็อาจกลัวน้อยลง บางคนอาจอยากชมตัวเป็น ๆ ด้วยซ้ำ ซึ่งบอกเลยว่าแมงมุมสีรุ้งที่เรานำมาเป็นตัวอย่างความน่ารู้และบรรเทาความกลัวของทุกคนนั้นในโลกของเรามีอยู่จริงนะเออ ตัวเป็น ๆ มีชีวิตจิตใจไม่อิงเทพนิยายใด ๆ ด้วย ฉะนั้นหากอยากรู้ความเป็นมาและตัวตนของแมงมุมสีรุ้งที่คุณไม่เคยรู้จักแล้วล่ะก็มาดูกันเลย ทำความรู้จักกับ “แมงมุมสีรุ้ง” “แมงมุมสีรุ้ง” หรือที่ชาวต่างชาติเรียกกันว่า “Rainbow Jumping Spider” เป็นแมงมุมสายพันธุ์แมงมุมนกยูง (Maratus) ที่ได้ชื่อว่า “แมงมุมงดงามที่สุดในโลก” มีขนาดลำตัวเล็กเพียงแค่ 3 มิลลิเมตร มีดวงตากลมใสน่ารักเหมือนปู บริเวณหัวเป็นสีดำแถบน้ำตาลส่วนใหญ่ แต่บางตัวก็เป็นสีเดียวหรือสีอื่นก็มี ส่วนบริเวณก้นจะเป็นลวดลายสีรุ้งสะท้อนแสง มีขาที่ใหญ่และขนก็ฟูออกน่ารักกว่าแมงมุมชนิดอื่นด้วยซ้ำ มีด้วยความที่มีลักษณะขาคู่ที่ 3 ของแมงมุมสีรุ้งจะชี้ขึ้นฟ้าเสมอคล้ายนกยูงรำแพนทำให้ผู้คนเรียกสายพันธุ์แมงมุมนกยูง แต่เจ้าแมงมุมสีรุ้งนี้มักจะซ่อนตัวอยู่ในป่าลึกแถบยุโรป พบได้มากที่ประเทศออสเตรเลีย บริเวณมุมเล็ก ๆ ที่แสงสว่างส่องไม่ถึง ไม่มีใครหาเจอ ชอบอยู่อย่างโดดเดี่ยวปลีกวิเวกจากแมงมุมพันธุ์อื่นรวมถึงสัตว์เล็กสัตว์น้อย เพราะรู้สึกปลอดภัยกว่า ความสามารถของ “แมงมุมสีรุ้ง” […]

สัตว์แปลก ๆ ที่คนฮิตเลี้ยงกันช่วงหนึ่ง

สัตว์แปลก ๆ ที่คนฮิตเลี้ยงกันช่วงหนึ่ง

เขาว่ากันว่ากระแสความนิยมของมนุษย์นั้นส่วนใหญ่ไม่มีความยั่งยืนก็คงเป็นเรื่องจริง ไม่ว่าจะเป็นแฟชั่น เครื่องดื่มหรืออาหารที่เข้ามาใหม่จนดังแค่เพียงช่วงแรกแล้วเงียบหายไป จนถึงกระแสความนิยมฮิตเลี้ยงสัตว์แปลก ๆ กันก็เช่นกัน เชื่อหรือไม่ว่าครั้งหนึ่งเมื่อสิบกว่าปีก่อน มนุษย์นั้นทั่วโลกนั้นมีเทรนด์การเลี้ยงสัตว์แปลกที่ใคร ๆ ต่างก็แปลกใจว่าเลี้ยงกันได้อย่างไร! เพราะหากเป็นตามธรรมชาติสัตว์เหล่านั้นก็ควรจะอยู่ในป่า ไม่น่าจะเลี้ยงอยู่ตามเมืองให้กินนอนร่วมกับมนุษย์ได้ แต่เพราะเทรนด์มาแล้ว อะไรก็ฉุดความอยากตามกระแสและมองดูโดดเด่นของมนุษย์ไม่ได้ ความกลัวหรือรู้สึกแปลกจึงมีน้อยกว่าความอยากเก๋ไก๋หากมีสัตว์แปลกไว้ในครอบครอง ซึ่งเมื่อหมดยุคฮิตไปแล้วก็ยังมีสัตว์บางชนิดที่ส่งผลให้คนเกิดความอยากเลี้ยงเป็นเพื่อนเล่นเหมือนเดิมในชีวิตประจำวัน เรียกได้ว่ากระแสหมด แต่ก็ยังมีเศษเสี้ยวที่ทำให้เกิดเป็นต้นแบบการค้นหาสัตว์แปลก ๆ จากต่างประเทศที่เราไม่รู้จักกันมากมายในสมัยนี้มาเลี้ยงกันเยอะแยะ แต่ก็เน้นไปทางสัตว์ที่ไม่มีพิษมีภัยเป็นหลัก ต่างจากยุคก่อนที่เราจะนำมาบอกเล่ากันว่าพวกเขานิยมฮิตเลี้ยงสัตว์แปลก ๆ แบบใดบ้าง…คุณต้องอึ้งอย่างแน่นอน หนูแฮมสเตอร์ หนูแฮมสเตอร์ อาจจะเป็นสัตว์เลี้ยงที่ทุกคนในยุคสมัยนี้คุ้นตากันดี เพราะไม่ว่าจะไปตามงานแสดงสัตว์เลี้ยงหรือร้านขายสัตว์เลี้ยงที่ไหนก็ย่อมจะเจอหนูแฮมสเตอร์น่ารัก ๆ วิ่งต้อนรับเรียกรอยยิ้มเราอยู่ในกรงกันจนอดใจไม่ไหวต้องพาน้องมาเลี้ยงเป็นเพื่อนแก้เหงาอารมณ์คล้ายเลี้ยงกระต่าย แต่สำหรับเมื่อสิบกว่าปีก่อน หนูเป็นสัตว์ที่คนไทยต่างให้ความรังเกียจมากเพราะเป็นตัวนำสิ่งสกปรก แต่เมื่อได้เห็นชาวต่างชาติเลี้ยงหนูแฮมสเตอร์ซึ่งเป็นหนูที่มีความสะอาดและสัมผัสดูก็พบว่าขนนุ่มเหมือนแมว แตกต่างจากหนูของไทยก็ได้มีการนำมาเลี้ยงจนกลายเป็นความฮิตในหมู่คนเลี้ยงสัตว์แปลกกันในช่วงหนึ่งจนถึงเดี๋ยวนี้ที่คงเป็นเทรนด์เลี้ยงสัตว์เพียงชนิดเดียวที่คนยังชอบกันอยู่ อีกัวน่า หากใครที่เคยเห็นเหล่าดาราหรือนางแบบถ่ายรูปกับอีกัวน่าก็คงเกิดความขนลุกและคิดไม่ตกว่าทำไมผู้จัดโปรเจ็กต์ต้องเน้นใช้อีกัวน่ามาเป็นสัตว์สำคัญในการถ่ายรูปขึ้นปกต่าง ๆ ด้วยทั้งที่หน้าตาก็น่าเกลียด เป็นลักษณะของกิ้งก่าตัวใหญ่ที่ผิวหยาบกร้าน มีบางส่วนของร่างกายที่แหลม และมักแสดงสีหน้าเงียบสงบจนเราไม่รู้ว่าน้องจะเข้าหาเราโดยไม่ทันตั้งตัวตอนไหน เหตุผลหลักเพราะอีกัวน่าเป็นสัตว์ที่มีความสวยงามและลักษณะร่างกายหลายส่วนก็พลิ้วโดดเด่นดูสง่าหากได้เป็นสัตว์เลี้ยงคู่กายประจำบ้าน เวลาอยู่เคียงคู่ก็จะเหมือนว่าเขาให้ช่วยให้เรามีออร่าขึ้นมาได้ จึงกลายเป็นหนึ่งในสัตว์แปลกที่ฮิตเลี้ยงกันในหมู่ผู้หญิงอยู่ช่วงหนึ่ง งูเหลือม หากอีกัวน่ายังเป็นสัตว์เลี้ยงที่แปลกและไม่น่ากลัวมากพอล่ะก็งูเหลือมยังเป็นสัตว์อีกชนิดที่คนฮิตเลี้ยงกันในเมื่อหลายปีก่อนด้วยนะจะบอกให้ แต่มักจะเลี้ยงเฉพาะตอนที่มันยังเป็นเด็กและตัวไม่ใหญ่ เพราะงูเหลือมเป็นงูที่มีลายสวยงามเหมาะจะนำมาเป็นสีสันประดับบ้านคล้ายกับรูปปั้นและให้ความรู้สึกสดชื่นเหมือนอยู่กับธรรมชาติ ความเงียบสงบ แต่อย่าให้ปล่อยไปได้เชียว จะกลายเป็นเหมือนเคสกรณีในข่าวคอนโดมิเนียมที่พบงูของคนที่อยู่อีกชั้นหนีออกมาจากกรงได้แล้วเข้าไปในห้องน้ำลงท่อจนมาออกที่ชักโครกคนที่อยู่อีกห้องพักเล่นเอาวุ่นวายไปหมด และยังอันตรายด้วยแม้จะเป็นงูไม่มีพิษจึงฮิตกันในเวลาสั้น ๆ เท่านั้น #สัตว์แปลก […]

“หนูแกสบี้” สัตว์เลี้ยงยุคใหม่ที่ผู้คนชื่นชอบ

“หนูแกสบี้” สัตว์เลี้ยงยุคใหม่ที่ผู้คนชื่นชอบ

ในยุคสมัยก่อนหากใครที่เกิดทันช่วงปี 2000s ล่ะก็เชื่อว่าพวกคุณต้องเคยตามเทรนด์การเลี้ยงหนูแฮมสเตอร์ทันอย่างแน่นอนไม่ว่าจะเคยช่วยคนในครอบครัวดูแลเลี้ยงดูเจ้าหนูตัวเล็กในกรงน้อย ๆ ที่เปรียบเสมือนวิมานและมีกลิ่นเมล็ดทานตะวันลอยมาในบ้านตลอดเวลา หรืออาจจะเป็นเลี้ยงเอง นับเป็นช่วงเวลาของยุคใส ๆ ที่กลับบ้านมาเจอเจ้าหนูแฮมสเตอร์ทีไรก็มักจะยิ้มออกและมีความสุขทุกครั้ง บางคนก็ถึงกับหิ้วหนูแฮมสเตอร์ไปที่โรงเรียน มหาวิทยาลัย และที่ทำงานด้วยความที่กลัวไม่มีคนให้อาหาร เรียกได้ว่าสมัยนั้นใครเลี้ยงหนูแฮมสเตอร์คือคุณเป็นคนทันสมัยมาก จนมาถึงในปัจจุบันนี้แม้ว่าเทรนด์การเลี้ยงหนูแฮมสเตอร์เป็นเพื่อนจะไม่ดังแบบเมื่อก่อนแล้ว แต่กลับกลายเป็นว่าการเลี้ยงหนูชนิดอื่นก็ยังคงเป็นเทรนด์ดังเดิมแถมยังตัวใหญ่กว่าเดิมด้วย เพราะตอนนี้มองไปทางไหนก็มักจะเห็นคนหิ้วกรง “หนูแกสบี้” หรือไม่ก็เอาน้องเขาเก็บไว้ในกระเป๋าเป้หรือกระเป๋าเสื้อตลอด อยากรู้กันล่ะสิว่าน้องหนูแกสบี้คืออะไร? แล้วอะไรทำให้เกิดเทรนด์การเลี้ยงหนูชนิดนี้เป็นเพื่อนแก้เหงากัน ตามมาดูเลย! ทำความรู้จักกับ “หนูแกสบี้” “หนูแกสบี้” หรือบ้างก็เรียกกันว่า “หนูตะเภาตะวันตก” เป็นหนูที่มีขนาดตัวกลาง ๆ มีถิ่นกำเนิดมาจากทวีปอเมริกาใต้ แถบประเทศเปรู ถูกใช้เป็นสัตว์เลี้ยงในหลากหลายประเทศโดยเฉพาะในประเทศไทย และยังเป็นสัตว์ทดลองที่ได้รับความนิยมในการใช้ทางจิตวิทยา การทดลองยา โสตประสาท และด้านการส่งสัญญาณคลื่นต่าง ๆ ด้วย โดยขนของหนูแกสบี้นั้นจะสั้น แต่บางชนิดก็มีขนยาวเป็นเงา และมีหลากหลายสีส่วนใหญ่ที่พบจะเป็นสีน้ำตาลสลับกับขาว และดำ ตัวอ้วนกลมและตาที่ใสน่ารัก จึงเป็นสัตว์อีกชนิดที่น่ากอด เลี้ยงง่ายกว่าหนูแฮมสเตอร์ ให้อารมณ์เหมือนเราเลี้ยงหนูแฮมสเตอร์ผสมกับกระต่ายซึ่งก็มีความแสนรู้ด้วย ความสนใจของ “หนูแกสบี้” “หนูแกสบี้” เป็นสัตว์เลี้ยงที่นอกจากจะน่ารักแล้วยังกินเก่งด้วย น้องเขาจะชอบกินผักผลไม้และขนมขบเคี้ยว ชอบอยู่ในที่อากาศเหมาะสมไม่ร้อนจัดเกินไปและอุณหภูมิค่อนข้างคงที่ และชอบอยู่บนที่นอนนุ่ม ๆ มากกว่าจะอยู่บนพื้นผิวพื้นที่หยาบเหมือนดูแฮมสเตอร์ ขี้เหงาและชอบอ้อนเป็นชีวิตจิตใจ […]

สัตว์เลี้ยงตัวจิ๋วที่น่าให้เด็กๆเลี้ยง

สัตว์เลี้ยงตัวจิ๋วที่น่าให้เด็กๆเลี้ยง

  สัตว์เลี้ยงกับเด็กๆเป็นของคู่กัน เพราะเด็กๆส่วนใหญ่จะรักสัตว์ พวกเขามักจะเรียนรู้สิ่งต่างๆไปพร้อมๆกับการเลี้ยงสัตว์ทั้งพฤติกรรมและลักษณะนิสัย อีกทั้งการเลี้ยงสัตว์ยังช่วยฝึกความรับผิดชอบอีกด้วยค่ะ สำหรับบ้านไหนที่มีเด็กอายุไม่ตำ่กว่า 5 ปี แล้วอยากจะนำสัตว์เลี้ยงมาให้เด็กๆเลี้ยงนั้น นอกจากแมวน่ารักๆและสุนัขขนฟูๆแล้ว เรามีสัตว์เลี้ยงตัวจิ๋วที่น่าให้เด็กๆเลี้ยงมาแนะนำกันจ้า ไปดูกันดีกว่าว่าจะมีสัตว์เลี้ยงชนิดไหนบ้าง   1.หนูตะเภา หนูตะเภา เป็นสัตว์เล็กที่มีสายพันธ์ุใกล้เคียงกับแฮมสเตอร์ แต่นิสัยของมันแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง หนูชนิดนี้จะมีความอ่อนโยน ใจดี ทำให้มันไม่ค่อยกัด มันชอบที่จะเจอกับคน เพราะฉะนั้นเวลาจะอุ้มหรือจับมันก็จะไม่ค่อยมีปัญหาอะไร ถ้าจับอย่างถูกวิธี ทำให้หนูชนิดนี้ดีต่อเด็กเล็ก หนูตะเภามีอายุ 5-7 ปี อาหารที่พวกมันทานก็จะเป็นพวกผักและหญ้าแห้ง   2.เจอร์บิล หนูเจอร์บิล เหมาะกับเด็กที่อาจจะไม่ค่อยอยากดูแลหรือเทคแคร์มาก พวกมันมีอายุที่สั้นประมาณ 2 ปี พวกมันกินอาหารเม็ดที่หาซื้อได้ทั่วไป รวมไปถึงเมล็ดพืช พวกมันไม่ค่อยมีความดุร้าย สามารถจับได้ แต่เนื่องจากพวกมันมีความเร็ว ทำให้ไม่สามารถถือไว้ได้นาน ส่วนปัญหาที่มักเจอเวลาเลี้ยงเจอร์บิลก็คือ อากาศร้อนชื้นจะทำให้ขนของมันมีปัญหา   3.แฮมสเตอร์ หนูแฮมสเตอร์ เป็นสัตว์เลี้ยงขนาดเล็กสุดคลาสสิค ที่ดูแลง่าย และสามารถฝึกให้ถ่ายเป็นที่ได้ด้วย แฮมสเตอร์มีความคล่องแคล่ว และบางสายพันธ์อาจจะดุในบางครั้ง ทำให้การเลี้ยงลำบากบ้างในบางที ส่วนกรงของแฮมสเตอร์ควรมีพื้นที่มากพอ มีอุโมงค์และที่ที่สามารถหลับนอนได้ และสามารถทำความสะอาดได้ง่าย […]

รู้จักแกสบี้ ก่อนเลี้ยง

รู้จักแกสบี้ ก่อนเลี้ยง

  ใครที่กำลังมองหาสัตว์เลี้ยงน่ารักๆ เราขอแนะนำ แกสบี้ เลยค่ะ บอกเลยว่ามันเป็นสัตว์เลี้ยงที่แสนจะน่ารัก ดูเหมือนตุ๊กตา ขนยาว หน้าตาบ๊องแบ๊วน่ารัก จนอยากจะซื้อหามาไว้เป็นเพื่อนแท้ซักตัวเลยล่ะ แต่ก่อนที่เราจะตัดสินใจเลี้ยง ควรศึกษาก่อนว่าเจ้าแกสบี้เหมาะกับเราหรือไม่ เพราะแกสบี้จำนวนไม่น้อยนะคะ ที่โดนเจ้าของทอดทิ้ง และ แกสบี้บางชีวิตเปลี่ยนเจ้าของไม่ต่ำกว่า 4 คน จนกระทั่งจากไปอย่างเดียวดาย ฉะนั้นคิดให้ดีๆ ก่อนที่จะตัดสินใจเลี้ยงค่ะ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเราไปทำความรู้จักับแกสบี้กันเลยดีกว่า 1.แกสบี้อายุยืน แกสบี้ มีอายุไข ที่ยืนถึง 5-7 ปีเลยทีเดียวคุณลองค่อยๆคิดดูนะคะ ว่าเวลาที่ยาวนานขนาดนั้น คุณสามารถจะดูแลเค้าได้ จนถึงวันสุดท้ายของชีวิตเค้าหรือไม่ แกสบี้เป็นสัตว์ที่จดจำเจ้าของได้นะคะ เค้าจดจำได้แม้กระทั่งเสียงฝีเท้าของเจ้าของ 2.แกสบี้ต้องกินพืชที่มีกากใยเป็นอาหาร อย่าเข้าใจผิดคิดว่า การเลี้ยงแกสบี้นั้น แค่ให้อาหารเม็ดก็พอนะคะ เพราะว่า ร่างกายเค้าย่อยด้วยแบคทีเรียค่ะ พืชผัก ต่างๆ โดยเฉพาะหญ้าขน จำเป็นมาก เพื่อให้สมดุลธรรมชาติของร่างกายเค้าให้พอดี 3.แกสบี้ต้องการวิตามินซีเพิ่ม ก่อนเลี้ยงต้องรู้ไว้เลยค่ะ แกสบี้ ต้องการวิตามินซี เสริมค่ะ เช่น ฝรั่ง หรือ เควี่ฟรุต เป็นต้น 4.ต้องหมั่นทำความสะอาดกรง […]

10 อันดับนกที่บินเร็วที่สุด

10 อันดับนกที่บินเร็วที่สุด

เทคโนโลยีที่ก้าวไกลไปอย่างรวดเร็วช่วยให้มนุษย์เราสามารถสร้างเครื่องบินรบที่เร็วที่สุดในโลกคือ SR-71 Blackbird เร็วกว่า 2,200 ไมล์ต่อชั่วโมง ส่วนไฮเปอร์คาร์จะวิ่งด้วยความเร็วประมาณ 350-400 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่เชื่อหรือไม่ว่ามีสิ่งที่ธรรมชาติได้สร้างขึ้นมาคือนกที่บินเร็วที่สุด มีความเร็วกว่าไฮเปอร์คาร์ด้วย มาดูกันว่ามีนกอะไรบ้าง และบินได้เร็วขนาดไหน นักที่บินได้เร็วกว่าไฮเปอร์คาร์ 1. แคนแวสแบ็ก แม้ชื่อเรียกจะเป็นเป็ด แต่ก็เป็นหนึ่งในตระกูลนก ด้วยความกว้างของปีกที่กว้าง 34 นิ้ว จึงทำให้สามารถบินได้สูงสุดถึง 117 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ถิ่นอาศัยของพวกมันอยู่บริเวณหนองบึงในเขตอเมริกาเหนือ และจะเริ่มอพยพในช่วงเริ่มฤดูหนาว ชอบบินเป็นรูปตัววี และเคลื่อนที่ออกไปเป็นฝูง 2. อัลบราทรอสหัวเทา เป็นนกทะเลที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่พบในมหาสมุทรแอตแลนติกตอนใต้ ความกว้างของปีกประมาณ 2.2 เมตร ทำความเร็วได้กว่า 126.90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ลำตัวของพวกมันมีความต้านทานต่อแรงลมหรือพายุได้เป็นอย่างดี 3. เป็ดปากยาวอกแดง พบได้มากในแถบอเมริกาเหนือและโซนยุโรป ลำตัวมีขนาดใหญ่ อพยพในทุกฤดูหนาว บินได้เร็วกว่า 130.30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แหล่งผสมพันธุ์ของพวกมันคือในแคนนาดา และตัวเมียสามารถออกไข่ได้มากกว่า 10 ฟองเลยทีเดียว 4. ห่านสเปอร์วิงค์ เป็นนกน้ำที่มีลำตัวใหญ่ที่สุดในแอฟริกา มีความยาวได้ถึง 30-45 […]

เคล็ดลับการเลี้ยงสัตว์ ข้อควรรู้ 4 น้ำยาทำความสะอาดบ้านที่เป็นพิษต่อสัตว์เลี้ยง

เคล็ดลับการเลี้ยงสัตว์ ข้อควรรู้ 4 น้ำยาทำความสะอาดบ้านที่เป็นพิษต่อสัตว์เลี้ยง

ผลิตภัณฑ์ที่อันตรายต่อสัตว์เลี้ยง ข้อควรระวังในการเลี้ยงสุนัข แมว สำหรับบ้านที่มีสุนัขที่เลี้ยงเอาไว้ การเลือกซื้อของใช้บางอย่างเข้าบ้าน ก็ถือว่ามีความจำเป็นอย่างมากในการที่จะต้องใส่ใจในรายละเอียด เพราะผลิตภัณฑ์บางอย่างก็สามารถเป็นผลเสียต่อสัตว์เลี้ยงได้เช่นกัน บทความนี้จะมาบอกให้คุณรู้เกี่ยวกับ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดบ้านที่เป็นพิษต่อสัตว์เลี้ยง เป็น ข้อควรระวังในการเลี้ยงสัตว์อย่างหนึ่งที่คุณควรให้ความสำคัญ น้ำยาทำความสะอาดบ้านที่เป็นพิษต่อสัตว์เลี้ยง – น้ำยาล้างห้องน้ำ แน่นอนว่าเราต่างรู้กันดีว่าน้ำยาล้างห้องน้ำนั้นมีฤทธิ์กัดกร่อนมากแค่ไหน เพราะฉะนั้นแล้วเวลาที่คุณล้างห้องน้ำ คุณต้องระวังไว้ไม่ให้สัตว์เลี้ยงของคุณเขามาวุ่นวายอย่างเด็ดขาด แม้กระทั่งตอนที่ล้างห้องน้ำเสร็จใหม่ๆ คุณก็ควรปิดประตูห้องน้ำเอาไว้อย่างมิดชิดด้วย เพื่อที่จะป้องกันไม่ให้สัตว์เลี้ยงของคุณไปเลีย หรือเข้าไปวุ่นวายจนอาจจะเกิดการระคายเคืองเอาได้ น้ำยาทำความสะอาดบ้านที่เป็นพิษต่อสัตว์เลี้ยง – น้ำยาละลายสิ่งอุดตันในท่อน้ำทิ้ง สำหรับสิ่งนี้แน่นอนว่ามันมีฤทธิ์กัดกร่อนที่รุนแรงมากกว่าน้ำยาล้างห้องน้ำเสียด้วยซ้ำ แต่เจ้าของสัตว์เลี้ยงหลายๆคนอาจจะเกิดอาการนิ่งนอนใจ เนื่องจากผลิตภัณฑ์ตัวนี้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในท่อ ไม่ได้ใช้กับพื้นภายนอก แต่คุณกำลังประมาท เพราะว่าเจ้าตัวนี้สามารถระเหยขึ้นมาได้  หากว่าเจ้าของหรือแมวเองสูดดมเข้าไปในปริมาณมากๆ อาจจะก่อให้เกิดอันตรายก็เป็นได้ น้ำยาทำความสะอาดบ้านที่เป็นพิษต่อสัตว์เลี้ยง – ผงซักฟอก เห็นแบบนี้เจ้าของหลายๆคนคงคิดว่าผงซักฟอกเนี้ยอาจจะเป็นอันตรายน้อยที่สุดสำหรับสัตว์เลี้ยง แต่ต้องขอเตือนไว้ก่อนว่าเวลาที่คุณซักผ้า ซักที่นอนสัตว์เลี้ยงคุณจะต้องแน่ใจในระดับหนึ่งแล้วว่าของเหล่านั้นจะถูกชำระล้างอย่างสะอาดแล้ว เพื่อป้องกันไม่ให้มีสารตกค้างหลงเหลืออยู่ เพราะอาจจะทำให้เกิดการระคายเคืองเอาได้ และยิ่งไปกว่านั้นถ้าบ้านคุณมีสัตว์เลี้ยง คุณควรเก็บผงซักฟอกอยู่ในที่ๆมิดชิดด้วย น้ำยาทำความสะอาดบ้านที่เป็นพิษต่อสัตว์เลี้ยง – น้ำยาทำความสะอาดพื้น สำหรับข้อนี้คุณเจ้าของทั้งหลายจะต้องระวังไว้ให้เป็นอย่างดีเกี่ยวกับอัตราการผสมน้ำและน้ำยา เพราะว่าหากคุณผสมเข้มข้นจนเกิดไปก็อาจจะทำให้ผลิตภัณฑ์เหล่านั้นตกค้างอยู่ที่พื้นมากเกินไป หากสัตว์เลี้ยงของคุณเผลอไปเลียเข้า อาจจะทำให้เกิดการระคายเคืองและอาจจะนำไปสู่การปนเปื้อนที้รายแรงไปเลยก็ได้ ทางที่ดีควรเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดพื้นที่เป็นมิตรต่อสัตว์เลี้ยงก็จะดีมากๆ เป็นอีกหนึ่งจ้อควรรู้ของคนเลี้ยงสัตว์ที่จะพลาดไม่ได้เด็ดขาด