ทาสแมวจงฟัง! มารู้จักกับแมวพันธุ์ สก็อตติช โฟลด์กันเถอะ

ทาสแมวจงฟัง! มารู้จักกับแมวพันธุ์ สก็อตติช โฟลด์กันเถอะ

สก็อตติช โฟลด์ แมวปุกปุยทรงสเน่ห์ เลี้ยงง่ายและเข้ากันได้กับเพื่อนๆของเค้ารวมถึงทุกคนในครอบครัว แมวพันธุ์นี้เป็นที่นิยมในเมืองไทยเอย่างแพร่หลาย มีฟาร์มที่ผันตัวเป็น breeder ผุดขึ้นมามากมายจริงๆค่ะ เพราะแมวพันธุ์นี้ทั้งน่ารัก นิสัยดี แถมรูปลักษณ์ยังสวยงาม มีหลากหลายชนิด พร้อมทั้งหลากหลายลายและสีอีกด้วย ประวัติความเป็นมาของ สก็อตติช โฟลด์ สก็อตติช โฟลด์ แมวที่มีลักษณะโดดเด่นเรื่องของหูพับนี้ ได้ถูกกล่าวถึงมาตั้งแต่สมัย ค.ศ. 1796 เรื่องเกิดขึ้นจากกะลาสีเรือชาวอังกฤษท่านนึงได้นำแมวที่มีลักษณะหูตกมาจากประเทศจีน จึงถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์แมวแต่ก็ไม่มีผู้กล่าวถึงอีกจนกระทั่งปี 1961 ในประเทศ Scottland เกิดลูกแมวหูตกขึ้นอีกครั้ง เป็นลูกแมวหูตกตัวเดียวในครอกนั้น เจ้าเหมียวมีนามว่า Susie ตามประวัติกล่าวว่าซูซีเป็นแมวที่เกิดจากการผสมพันธุ์ระหว่าง บริติช ชอร์ตแฮร์ กับแมวสายพันธุ์พื้นเมืองที่นั่น และนั่นคือต้นกำเนิดของแมวหูพับนั่นเองค่ะ สก็อตติชถือเป็นแมวที่ผสมค่อนข้างยาก น้องๆไม่สามารถข้ามสายพันธุ์ได้มากนักเนื่องจากลูกแมวจะมีปัญหาด้านสุขภาพ แต่ก็มีหลายๆคนไม่ได้ศึกษาให้ดีและนำน้องผสมปนเปไปหมด จนลูกหลานของเจ้าแมวนั้นอาจจะกระดูกไม่แข็งแรงได้ หากใครต้องการรับเลี้ยงน้องๆให้ศึกษาฟาร์มและพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ของลูกแมวให้ดี เพื่อระวังการเกิดลูกแมวที่ไม่สมบูรณ์ต่อไปค่ะ ลักษณะของแมวพันธุ์ สก็อตติช โฟลด์ ข้อมูลทั่วไปของแมวพันธุ์สก็อตติช โฟลด์ แมวพันธุ์นี้ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มของแมวที่มีขนาดปานกลางถึงขนาดใหญ่ น้ำหนักราวๆ 8-12 ปอนด์ และอายุขัยเฉลี่ยอยู่ที่ 9-12 ปีเลยล่ะค่ะ น้องๆมีลักษณะขนตั้งแต่ […]

ทาสแมวจงฟัง! มารู้จักกับแมวพันธุ์ เปอร์เซีย กันเถอะ

ทาสแมวจงฟัง! มารู้จักกับแมวพันธุ์ เปอร์เซีย กันเถอะ

เหมียวๆเปอร์เซีย หรือ Persian เรียกได้ว่าเป็นราชินีแมวที่มาจากดินแดนตะวันออกกลาง และแน่นอนค่ะว่าชื่อเปอร์เซียนั่นก็เพราะว่าน้องๆมีถิ่นกำเนิดมาจากแถบเปอร์เซีย หรือประเทศอิหร่านและตุรกีในปัจจุบันนั่นเองค่ะ แมวเปอร์เซียเนี่ยนับว่าเป็นแมวสายพันธุ์แรกที่มีคนนำเข้ามาในไทยเลยก็ว่าได้ และเพราะหน้าตาที่น่าเอ็นดูและขนปุกปุยของน้องๆทำให้แมวสายพันธุ์นี้ยังคงได้รับความนิยมในหมูทาสแมวเป็นอย่างมากๆเลยล่ะค่ะ ซึ่งนอกจากจะมีหลากหลายสีสัน นิสัยพื้นฐานของเจ้าเหมียวพันธุ์ ประวัติความเป็นมาของเปอร์เซีย แมวพันธุ์เปอร์เซียนับเป็นแมวสายพันธุ์โบราณชนิดหนึ่ง จริงๆแล้วประวัติความเป็นมาของน้องๆยังไม่ชัดเจนนัก แต่ในช่วงค.ศ. 1500 มีการพบแมวขนยาวในประเทศอิตาลี แต่กล่าวคือแมวเหล่านั้นถูกนำเข้ามาจากเปอร์เซียค่ะ และเมื่อศตวรรษที่ 17 ชาวอิตาลีนาม Pietro della Valle ผู้ที่ท่อนเที่ยวไปยังอาณาจักรเปอร์เซีย ได้รับแมวเปอร์เซียตัวหนึ่งมา เพื่อนำมาพัฒนาสายพันธุ์ต่อ ซึ่งสมัยนั้นแมวเปอร์เซียมีฉายาว่าแมวทราย เพระาอาศัยแถบทะเลทราย จะมีคนยาวหยาบเพื่อป้องกันตัวจากสิ่งแวดล้อมที่มีทรายล้อมรอบนั่นเอง ในอีกหลายร้อยปีต่อมา มีบันทึกว่ามีเจ้าของแมว ที่ครอบครองขนยาวจากตุรกี พวกมันกำลังถูกพัฒนาสายพันธุ์ไปเรื่อยๆ จนในศตวรรษที่ 19 ลูกหลานของเจ้าแมวตัวนั้นถูกนำมาผสมพันธุ์กับแมวอิตาลี และนั่นถือเป็นจุดกำเนิดของแมวเปอร์เซียโดยแท้ ถึงจะเป็นแมวจากสายพันธุ์โบราณ แต่ที่จริงแล้วน้องๆก็ถูกพัฒนาสายพันธุ์มาจากมนุษย์นั่นเองค่ะ ลักษณะของแมวพันธุ์เปอร์เซีย ข้อมูลทั่วไปของแมวพันธุ์เปอร์เซีย ถูกจัดให้เป็นแมวที่มีขนาดกลางไปจนถึงใหญ่ กระดูกค่อนข้างแข็งแรงและมีหัวและหน้ากลม ส่วนของหน้าผากเป็นโหนก แก้มเต็มๆและมีดวงตาที่กลมโต แต่ดวงตาน้องๆมีลักษณะพิเศษตรงที่ตาทั้งสองข้างจะอยู่ในตำแหน่งที่ค่อนข้างห่างจากกันมากกว่าแมวพันธุ์อื่นๆค่ะ ส่วนจมูกในวงการเค้าจะเรียกว่าเป็นแมวจมูกหัก เพราะหากมองจากด้านข้างแล้วจะเห็นจุดหัดหรือมุมหักระหว่างจมูกกับหน้าผากอย่างชัดเจน และเมื่อมองด้านหน้าตรงๆแล้วจะเห็นเป็นขีดระหว่างดวงตา แมวเปอร์เซีย เป็นแมวที่มีนิสัยอ่อนโยนมากๆและเข้ากับคนได้ง่าย เพราะพื้นฐานนิสัยแล้วค่อนข้างร่าเริงและซุกซน มักจะปีนป่ายไปตามจุดต่างๆเพื่อที่จะหาของเล่น แถมเจ้าพวกนี้ยังช่างประจบประแจงมากๆเลยล่ะค่ะ เรียกว่ามีไหวพริบหรือเจ้าเล่ห์ก็ไม่แน่ใจ […]

ทาสแมวจงฟัง! มารู้จักกับแมวพันธุ์อเมริกัน ชอร์ตแฮร์กันเถอะ

ทาสแมวจงฟัง! มารู้จักกับแมวพันธุ์อเมริกัน ชอร์ตแฮร์กันเถอะ

เหมียวสายพันธุ์อเมริกัน ชอร์ตแฮร์ ตามชื่อแล้วแน่นอนว่าเป็นแมวสายพันธุ์จากอเมริกาแน่นอนค่ะ แต่จริงๆแล้วน้องมีเชื้อสายมาจากประเทศแถวยุโรปนะคะ และค่อยแพร่หลายมายังอเมริกา เมื่อสมัยที่ชาวยุโรปเนี่ยออกเดินทางเพื่อหาดินแดนใหม่ พวกเค้าได้พกเจ้าเหมียวอเมริกัน ชอร์ตแฮร์ ติดเรือไปไหนมาไหนกับเค้าด้วย เพื่อให้แมวคอยจับหนูที่จ้องจะทำลายข้าวของและแอบกินสเบียง และต่อมาจึงได้มีการพัฒนาสายพัยธุ์ จนแมวพันธุ์นี้จึงเป็นแมวพื้นเมืองที่มีขนสั้นของอเมริกาในที่สุดค่ะ ประวัติความเป็นมาของอเมริกันชอร์ตแฮร์ แมวพันธุ์อเมริกัน ชอร์ตแฮร์ แม้ว่าจะถูกจัดอยู่ในแมวพื้นเมืองของอเมริกา แต่ต้นกำเนิดจริงๆก็มาจากทวีปยุโรป ซึ่งมีการับบันทึกเกี่ยวกับแมวพันธุ์นี้ครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1904 ว่าต้นกำเนิดจริงๆแล้วมาจากพันธุ์บริติช ชอร์ตแฮร์ ซึ่งนับเป็นบรรพบุรษของน้องๆสายพันธุ์นี้ อเมริกันชอร์ตแฮร์ถูกพัฒนามาเพื่อเป็นแมวที่จะใช้ควมคุมประชากรของสัตว์ตัวเล็กที่ก่อกวนครัวเรือนของมนุษย์ จำพวกหนูนั่นเอง เพราะการถูกสร้างเป็นผู้ล่า แมวชนิดนี้จึงไม่ค่อยขี้เกียจนัก มีความเข้มแข็ง กล้าหาญ และแข็งแรง ซึ่งสมัยก่อนคนจะนิยมเลี้ยงไว้นอกบ้าน ทำให้ขนน้องๆหนาเพื่อทำให้ร่างกายอบอุ่นนั่นเอง ลักษณะของแมวพันธุ์อเมริกันชอร์ตแฮร์ ข้อมูลทั่วไปของแมวพันธุ์อเมริกัน ชอร์ตแฮร์ ถูกจัดให้เป็นแมวขนาดกลาง แต่มีพละกำลังสูง ด้วยกระดูกและกล้ามเนื้อที่แน่นและหนัก รูปร่างกลมหนาของน้องๆ ทำให้เค้าดูค่อนข้างมีน้ำหนักเมื่อเวลาเราอุ้มจะรู้สึกได้เลยค่ะ และด้วยการที่ถูกพัฒนาสายพันธุ์มาอย่างดีนี่แหละค่ะทำให้เค้าแข็งแรง มีแรงกล้ามเนื้อที่เยอะพอสมควร อกกว้าง คอหนา และกรามแข็งแรงมากๆ ปากของเค้าถูกพัฒนามาอย่างดี ทำให้กินอาหารคำใหญ่ๆได้ ขาค่อนข้างหนาและมั่นคงแข็งแรง และมีความสามารถในการล่าสูง เพราะด้วยต้นกำเนิดแล้วน้องๆถูกเลี้ยงมาเพื่อไล่สัตว์เล็กจำพวกหนูออกจากบ้าน หรือฟาร์มของชาวเกษตรกรนั่นเอง ขนของน้องๆถึงจะสั้นแต่ก็มีความหนาแน่นมากๆ และขนจะหนาและยาวกว่าปกติเมื่อเข้าฤดูหนาวค่ะ ส่วนลดลายของขนที่เราเห็นกันนั้นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติของนักล่า เพื่อเอาไว้อำพรางตัวเองหรือป้องกันตัวนั่นเอง […]

ทาสแมวจงฟัง! มารู้จักกับแมวพันธุ์ บริติช ชอร์ตแฮร์กันเถอะ

ทาสแมวจงฟัง! มารู้จักกับแมวพันธุ์ บริติช ชอร์ตแฮร์กันเถอะ

ที่จริงแล้วบนโลกใบนี้ของเราเนี่ย เจ้าเหมียวมีอยู่หลากหลายสายพันธุ์มากๆค่ะ แต่คราวนี้เราจะพามาเริ่มรู้จักกับสายพันธุ์ที่กำลังเป็นกระแสนิยมของคนเลี้ยงแมวในช่วงสองสามปีที่ผ่านมากัน นั่นก็คือ บริติช ชอร์ตนั่นแฮร์นั่นเองค่ะ ซึ่งเจ้าเหมียวพันธุ์นี้ขึ้นชื่อว่าเป็นแมวที่แสนจะขี้เล่น และมีสเน่ห์เอามากๆ เพราะเค้ามีความจงรักภักดีต่อเจ้าของเหมือนได้รับยีนส์ของสุนัขมายังไงอย่างงั้นแหละ ! ลักษณะของแมวพันธุ์บริติชชอร์ตแฮร์ ข้อมูลทั่วไปของแมวพันธุ์บริติช ชอร์ตแฮร์  แมวพันธุ์นี้จัดว่าเป็นแมวที่มีขนาดปานกลางถึงใหญ่ มีน้ำหนักตัวเฉลี่ยอยู่ที่ 12 ปอนด์เลยทีเดียวค่ะ อายุเฉลี่ยอยู่ที่ 7-12 ปี สีตาของน้องๆมีตั้งแต่สีเขียวมรกต สีฟ้า สีทอง และตาสองสี ลักษณะของขนน้องแมวพันธุ์นี้ค่อนข้างมีเอกลักษณ์ สีค่อนข้างจะนวลเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน ถึงมีลายลายก็จะไม่คมชัดมากค่ะ ที่สำคัญคือหากเป็นแมวสีอ่อนเช่นสีทอง ปลายหางและใต้เท้าจะมีขนสีดำ และเจ้าแมวพันธุ์นี้หากใครเลี้ยงแล้วจะต้องคอยช่วยแปรงขนน้องบ่อยๆกว่าแมวพันธุ์อื่น ยิ่งช่วงเวลาเปลี่ยนฤดูกาลผลัดขน หากเราช่วยแปรงดีๆ ขนจะหนาขึ้นอีก นุ่มฟูน่ากอดมากๆเลยล่ะค่ะ เนื่องจากเป็นแมวขนาดตัวค่อนข้างใหญ่ กล้ามเนื้อโดยเฉพาะกล้ามเนื้อมัดหลักบริเวณขาของน้องๆจะแข็งแรงมาก รวมถึงมีกระดูกที่หนักไปด้วยค่ะ ด้วยกล้ามเนื้อเยอะๆนี้จึงส่งผลให้น้องมีรูปร่างกลมหนาตุ๊บตั๊บ เรียกได้ว่าเป็นแมวพันธุ์ที่ร่างดายได้รับกาพัฒนามาเป็นอย่างดี น้องแมวจะมีอกกว้าง คอหนา กรามแข็งแรง(มากกก) และมีรูปปากที่ทานอาหารได้ง่ายกว่าแมวหน้าสั้นพันธุ์อื่น แถมยังเป็นนักล่าชั้นดีที่ล่าหนูและแมลงในบ้านของคุณได้ด้วย หากเลี้ยงให้ห้องแอร์ที่มีอากาศเย็นสบายตลอด ขนของน้องๆจะยิ่งฟู หนาแน่นขึ้นไปอีกค่ะ ลักษณะนิสัยของน้องๆ เรียกได้ว่าเป็นคู่หูคู่ใจของทาสแมวเลยก็ว่าได้ เพราะน้องเค้าเป็นแมวที่ค่อนข้างสุขุม เลี้ยงง่ายกินง่าย และมีความจงรักภักดีมากๆ เค้าจะชอบมีปฏิสัมพันธ์กับทุกๆคนในครอบครัว และนิสัยขี้เล่นของเค้านี่แหละค่ะที่ทาสต้องคอยเอาใจ เพราะต้องให้เวลาเล่นกับเค้าจริงๆ […]

ทาสแมวจงฟัง! เหมียวมีความหมาย

ทาสแมวจงฟัง! เหมียวมีความหมาย

เหมี๊ยววววว เสียงร้องเหมียวๆของเจ้าเหมียวมีความหมายแอบแฝงอยู่ น้องๆคงไม่ได้แค่ร้องไปเรื่อยเปื่อย ร้องเฉยๆ นึกอยากร้องก็ร้อง ซึ่งจริงๆแล้วเสียงร้องเหมียวนี่แหละค่ะคือวิธีการที่น้องแมวใช้สื่อสาร แถมยังเป็นการสื่อสารที่ซับซ้อนเหลือเชื่อเลยทีเดียว การที่น้องแมวเปล่งเสียงออกมารวมถึงวิธีการส่งเสียงจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเหมือนกับเวลาคนใช้น้ำเสียงเนี่ยแหละค่ะ แมวของบางคนอาจจะเป็นแมวประเภทพูดเก่งบ่นเก่ง ไม่หลับไม่หยุดพูด หรือกระทั่งมีน้องแมวสงบเสงี่ยม จะร้องทียังออกมาแค่ลมแผ่วเบาแทบไม่ได้ยิน ซึ่งแมวแต่ละสายพันธุ์ก็จะมีเสียงร้องที่ค่อนข้างแตกต่างกันไปด้วย เช่นแมวบ้าน แมวไทยก็จะร้องเสียงแหลมเป็นเอกลักษณ์ของน้องๆนั่นเอง แต่ละเหมียวมีความหมายอย่างไรบ้างนะ – เสียงร้องเหมียวแบบคร่ำครวญ : เสียงร้องน้องแบบประเภทที่ฟังดูคร่ำครวญ แง้วๆๆๆ ไม่หยุด แถมยังจ้องหน้าแบบมีอะไรจะพูดอีกนั้น เป็นเสียงที่ทาสจะพบบ่อยที่สุดค่ะ การมีอากับกิริยาแบบนั้นโดยเฉพาะเวลาเราอยู่ในครัว หรือที่ๆเราแกะอาหารให้เค้าเป็นประจำนั้น น้องแมวจะจำค่ะว่าตรงนั้นคือห้องอาหารของเค้า การที่เค้าส่งเสียงก็เพื่อเรียกร้องความสนใจว่า นี่ฉันหิวแล้วนะมนุษย์ เทอาหารให้ฉันเดี๋ยวนี้ อะไรทำนองนั้นแหละค่า – เสียงร้องนิ่มๆ เพื่อการต้อนรับ : หากว่าทาสแมวเพิ่งเดินทางกลับมาที่บ้าน เมื่อเปิดประตู หรือก่อนเปิดประตู หากน้องแมวรับรู้ได้ว่าคุณอยู่ตรงนั้น อาจแสดงถึงการต้อนรับกลับบ้าน การดีใจที่ได้เห็นทาสของตัวเองกลับมา น้องๆกำลังอ้อนจะอยากให้ทาสแมวทั้งหลายลูบหรืออุ้มค่ะ ถ้าได้รับการปรนนิบัติจากเรานางจะมีความสุขม๊ากกกเลยทีเดียวน้า – เสียงร้องแบบเชื้อเชิญ : เสียงร้องที่เจ้าเหมียวร้องแบบเชื้อเชิญ บางครั้งจะฟังดูน่ารำคาญสำหรับทาสแมวอย่างเราๆพอสมควรค่ะ มีอีกศัพท์นึงที่ใช้เรียกกันในวงการแมวก็คืออาการ “หง่าว” หมายถึงน้องๆถึงช่วงวัยผสมพันธุ์ กำลังพร้อมที่จำมีน้องมิ้วน้อยๆ จริงร้องเรียกเชื้อเชิญอีกฝ่ายให้มาป๊ะกัน ซึ่งบางครั้งเราก็ได้ยินเสียงนั้นเหมือนเสียงเด็กทารกร้องยาวๆทั้งวันทั้งคืนไม่หยุดเลยก็มีค่ะ – […]

ทาสแมวจงฟัง! ทำไมแมวถึงชอบไล่จับสัตว์เล็ก

ทาสแมวจงฟัง! ทำไมแมวถึงชอบไล่จับสัตว์เล็ก

แมวเป็นสัตว์ที่เกิดมาพร้อมกับสัญชาตญาณนักล่า พวกเค้ารักที่จะวิ่งไล่จับสัตว์เล็กๆแบบที่ฐานะนักล่าควรจะเป็น เจ้าเหมียวทั้งหลายถือว่าทำได้ดีมากจริงๆ บางครั้งแมวก็ไม่ได้ล่าเพื่อเป็นอาหารหรือเพราะมันหิว ที่จริงเวลาแมวล่าสัตว์ต่างๆเพราะสัญชาตญาณทางธรรมชาติของมัน แต่เรื่องนี้สำหรับแมวบ้านที่ทาสแมวเลี้ยงอยู่ก็ควรระวังมันจะสร้างปัญหาคาบซากสัตว์มาฝากคุณ หากคุณเลี้ยงแมวระบบเปิดก็ควรใส่ปลอกคอที่มีกระดิ่ง นอกจากจะช่วยแสดงความเป็นเจ้าของไม่ให้โดนเทศบาลจับแล้ว ยังช่วยชีวิตสัตว์จำพวกนกได้อีกด้วย เพราะกระดิ่งจะดังก่อนที่แมวจะถึงตัวนก ทำให้นกบินหนีได้ทันท่วงที ของขวัญจากการชอบไล่จับ  การที่แมวเหมียวที่บ้านนำซากจิ้งจก นก หรือหนูตายมาเป็นของขวัญที่ไม่น่าพึงประสงค์แก่ทาสแมวอย่างเราๆด้วยการที่พวกเค้าจะทิ้งเศษซาก ชิ้นส่วนเล็กๆไว้ให้เราดูต่างหน้าเพราะอยากจะให้เป็นของขวัญเรารึเปล่านะ ยังไม่มีคำตอบที่แน่ชัดแต่นักวิจัยที่ได้ทำการศึกษาเรื่องนี้ได้กล่าวว่ามีเหตุผลอยู่สองประการที่น่าจะมีความเป็นไปได้นั่นก็คือ 1. เป็นสัญชาตญาณของความเป็นพ่อเป็นแม่ของเจ้าแมว เพราะแมวนั้นเป็นสัตว์ที่มีแนวโน้มที่จะเป็นผู้ล่า และหาอาหารมาให้กับครอบครัวของตัวเอง คล้ายๆกับที่เราเห็นสิงโตและฝูงของมัน จะต้องมีฝ่ายที่ออกไปล่าอาหารกลับมาเพื่อให้เด็กๆและหัวหน้าฝูงได้กินอิ่มหนำสำราญยังไงล่ะ 2. เป็นสัญลักษณ์แทนการบอกรักทาสจากเจ้าแหมียว มันอาจจะใช้วีธีนี้แสดงความรักต่อเจ้าของที่คอยดูแลและให้อาหารมันอย่างสม่ำเสมอ และเหนือสิ่งอื่นใด เพราะมันน่ะชอบไล่จับสัตว์ที่เป็นเหยื่อของมันเอามากๆ การล่ามาและได้เล่นกับซากสัตว์เหมือนจองเล่นนั่นคือความสุขและสนุกสุดๆสำหรับเจ้าแมวไปเลยล่ะ การที่แมวออกล่า ไปชอบไล่จับเนี่ย ลักษณะการทำแบบนี้เป็นสิ่งที่เราจะเห็นความสามารถในการสะกดรอยตาม การส่งเสียงหลอกล่าเหยื่อและจังหวะที่เฉียบคมของแมว เค้าจะไล่ล่าจนกว่าจะรู้สึกเบื่อหรือเหนื่อยไปเอง และโดยทั่วไปแมวจะทำสิ่งนี้เมื่ออยู่ในสนามที่บ้านนั่นเองค่ะ เรื่องควรระวังเมื่อแมวชอบไล่จับสัตว์ต่างๆ หากคุณมีใจเมตตาและไม่อยากคอยตามเก็บซากสัตว์เหล่านั้น ก็ควรจะป้องกันให้ดี วิธีป้องกันไม่ให้แมวออกล่าสัตว์อย่างมีประสิทธิภาพที่สุดนั่นก็คือการเลี้ยงระบบปิดค่ะ แต่หากแมวใครที่เคยชินกับการออกนอกบ้าน ชอบวิ่งไล่จับนก อาจจะต้องสร้างความคุ้นเคยว่าเค้าเป็นแมวเลี้ยงในบ้านนะ กระตุ้นให้มันชอบเล่นในบ้านมากขึ้นด้วยกิจกรรมต่างๆ เช่น การให้น้องๆไล่จับของเล่นกับแมวตัวอื่นๆในบ้านแทน เพื่อทดแทนความรู้สึกที่อยากจะออกล่า และเลิกที่จะส่งเสียงร้องขอออกไปล่านอกบ้าน การทำความสะอาดเป็นเรื่องที่ต้องทำให้เร็วที่สุด หากคุณได้ของขวัญไม่พึงประสงค์จากเจ้าเหมียว ให้รีบห่อทิ้งอย่างมิดชิด แล้วเอาออกไปให้พ้นจมูกของพวกมัน ก่อนที่เจ้าแมวจะเข้าใจว่ามันทำดีแล้ว เจ้าทาสแมวนี่ชอบแน่ๆ ไม่อย่างนั้นคุณอาจจะได้รับของขวัญกองพะเนินที่เห็นแล้วแทบกรี๊ดแทนเลยล่ะค่ะ ขอบคุณภาพจาก […]

ไขข้อข้องใจกัน ! ทำไมน้องเหมียวชอบหนีออกจากบ้าน ทำไมแมวชอบออกไปเที่ยว ?

ไขข้อข้องใจกัน ! ทำไมน้องเหมียวชอบหนีออกจากบ้าน ทำไมแมวชอบออกไปเที่ยว

บรรดาทาสแมวทั้งหลายรับรองว่า คุณอาจจะต้องเคยประสบปัญหาเหล่านี้มาก่อน คุณจะต้องนึกสงสัยอย่างแน่นอนว่าแมวของคุณมีเหตุผลอะไรที่จะออกไปนอกบ้านบ่อยๆ ทำไมถึงชอบออกไปเที่ยวข้างนอก บทความนี้จะมาไขข้อข้องใจกันว่าทำไมกันนะ เจ้าเหมียวสี่ขาพวกนี้ถึงไม่ค่อยจะอยู่บ้านกัน แมวหนีออกจากบ้าน แมวหนีเที่ยว มันจะมีสาเหตุมาจากอะไรได้บ้าง ไปดูกัน 1.แมวติดสัด แมวมีอาการฮีท ข้อนี้เป็นข้อที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลย ถ้าน้องแมวของคุณมีอาการติดสัด หรือมีอาการฮีทขึ้นมา ถ้าคุณจะหวังว่าให้เขามาอยู่นิ่งๆ มันเป็นอะไรที่เป็นไปไม่ได้เลย เขาจะชอบออกไปข้างนอกหรือชอบวนเวียน เรียกร้องความสนใจอย่างหนักมาก ทางที่ดีหากคุณอยากป้องกันให้พาแมวของคุณไปทำหมันก็เป็นทางหนึ่งที่จะช่วยได้ 2.พื้นที่คับแคบจนเกินไป ข้อนี้มีความเป็นไปได้สูงมาก ในเฉพาะบางสายพันธุ์นั้นก็เหมือนกับเจ้าสุนัขเลยด้วยซ้ำ ที่น้องเขาต้องการมีพื้นที่ หากพื้นที่ๆคุณมีไว้สำหรับเลี้ยงน้องเขามีพื้นที่ค่อนข้างจำกัด ก็ต้องขอบอกเลยว่าอาจจะเป็นเหตุให้น้องแมวของคุณต้องเกิดอาการอึดอัดก็เป็นได้ เขาจึงพยายามหาทางออกหนีไปเที่ยวข้างนอกบ่อยๆ ถ้าเป็นไปได้คุณก็ควรหาโอกาสแล้วลองพาเขาออกไปข้างนอกบ่อยๆเพื่อไม่ให้เขารู้สึกอึดอัดจนเกินไป 3.เจ้าของไม่ให้ความสนใจ ในบางครั้งหากน้องแมวของคุณรู้สึกว่าคุณนั้นไม่ให้ความสนใจกับเขาเลยก็อาจจะเหตุให้ น้องแมวร็สึกว่าเขาไม่ได้รับการใส่ใจเท่าที่ควร เพราะฉะนั้นหากน้องแมวชอบหนีออกไปเล่นข้างนอกบ่อยๆ ส่วนหนึ่งอาจจะเกิดมาจากการที่คุณนั้นเพิกเฉยและไม่ค่อยเล่นกับเขา จนแมวของคุณรู้สึกเบื่อจนต้องออกไปหาสิ่งแปลกตาแปลกใจข้างนอกก็เป็นไปได้เหมือนกัน 4.เจอสิ่งแปลกปลอมนอกบ้าน แมวเป็นสัตว์ที่หวงอาณาเขตมาก เพราะฉะนั้นหากน้องแมวของคุณเจอสิ่งแปลกปลอมบริเวณรอบๆบ้านเขาอาจจะใส่ใจเป็นพิเศษจนต้องตามจับไปไกล ซึ่งเหตุนี้ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งถ้ามีสิ่งที่สามารถหันเหความสนใจให้น้องแมวของคุณตามไป ซึ่งบางทีอาจจะเป็นสัตว์เล็กที่แมวของคุณอาจจะตามไล่จับจนไกล ซึ่งถ้าเป็นสาเหตุนี้เจ้าของก็ต้องหมั่นสังเกตบ่อยๆด้วยว่าน้องแมวของคุณนั้นเวลาหลังจากกลับไปเที่ยวมาจากนอกบ้านมีอะไรติดไม้ติดมือมาฝากคุณหรือเปล่า เป็น ข้อควรรู้สำหรับคนเลี้ยงแมว ที่ต้องให้ความใส่ใจและระมัดให้มาก #ทาสแมว #เจ้าเหมยว #ไขข้อข้องใจ

ทาสแมวจงฟัง! เรื่องลับน่ารู้ฉบับเหมียวๆ

ทาสแมวจงฟัง! เรื่องลับน่ารู้ฉบับเหมียวๆ

ทราบไหมคะว่าน้องแมวของพวกเรา นอกจากความน่ารักที่มาพร้อมกับแดเมจรุนแรงที่ทำให้หลายๆคนโดนตกจนกลายเป็นทาสแมวโดยปริยายไปแล้วนั้น พวกเขายังมีความลับและความอัศจรรย์แฝงอยู่ตามส่วนต่างๆของร่างกายของเขาอีกด้วยค่ะ แอบกระซิบไว้ก่อนเลยว่าในอวัยวะต่างๆของน้องๆมีความพิเศษแฝงอยู่มากมายจนเราคาดไม่ถึง เรามาลองดูเรื่องลับฉบับน่ารู้ฉบับเหมียวๆกันดีกว่าค่ะ เรื่องลับน่ารู้ฉบับเหมียวๆ : ความพิเศษของหนวดแมว ว่ากันว่าหนวดแมวคือสิ่งที่เจ้าเหมียวหวงแหนยิ่งนักค่ะ เพราะหนวดของน้องๆนี่แหละค่ะเป็นอวัยวะที่พิเศษมากๆ เจ้าเหมียวจะใช้หนวดเพื่อรับความรู้สึกเหมือนเซ็นเซอร์ดีๆนี่แหละค่ะ หนวดแมวเรียกได้ว่าเป็นเรดาห์ที่จะช่วยให้เจ้าเหมียวสามารถสำรวจและรับรู้สิ่งที่อยู่รอบๆตัวเวลาที่พวกเขาอยู่ในที่มืดได้เป็นอย่างดีเลยล่ะค่ะ เราเลยจะเห็นแมวเคลื่อนไหวได้อย่างมั่นใจไม่ว่าจะกลางวันหรือกลางคืนเพราะมีหนวดคอยช่วยรับสัมผัสรอบตัวนั่นเอง สำหรับลักษณะของหนวกแมวจะค่อนข้างยาวและหนากว่าขนค่อนข้างมากค่ะ หากสังเกตดีๆจะเห็นเลยนะคะว่าหนวดของน้องๆจะยาวเท่ากับความกว้างของลำตัวเสมอค่ะ เพื่อให้น้องสามารถเดินผ่านที่แคบๆ ซอกหลืบที่ชอบมุดกันเข้าไปนั่นแหละค่ะ หากหนวดผ่านเข้าไปได้ตัวน้องก็เข้าไปได้เช่นกัน ที่สำคัญทาสแมวต้องจำไว้นะคะว่าห้ามตัดหนวดแมวโดยเด็ดขาด ไม่งั้นน้องเหมียวของเราจะสูญเสียความมั่นใจและอาจทำให้เกิดภาวะเครียดได้เลยล่ะค่ะ เรื่องลับน่ารู้ฉบับเหมียวๆ : ความพิเศษของตาแมว อย่างที่เราทราบกันดีนะคะว่าเจ้าเหมียวเนี่ยมีสายตาที่ดีมากๆ ทำให้เราเอาไปตั้งสำนวนแมวมองกันนั่นเองค่ะ แต่ที่จริงๆแล้วแมวเนี่ยอาจจะไม่ได้สายตาดีมากขนาดที่เราคิดค่ะ ที่จริงแล้วตาแมวเนี่ยสามารถมองเห็นในที่มืดได้ดีกว่าทาสแมวอย่างเราๆมากกว่าถึง 8 เท่าเลยล่ะค่ะ แต่นั่นก็ทำให้น้องๆมองในที่สว่างได้ไม่ดีเท่าที่ควรค่ะ จะสังเกตได้จาะรูม่านตาของแมวที่จะขยายตอนกลางคืน แต่หดเล็กลงตอนกลางวัน นั่นก็เพราะตาของเจ้าแมวจะลดการรับแสงนั่นเองค่ะ เหมียวๆของเราจะเห็นในที่สว่างได้ดีในระยะประมาณ 1-2 ฟุตเท่านั้นเองค่ะ เพราะเหตุนี้แมวจึงมีนิสัยย่องเบาเข้าหาเหยื่อนั่นเอง และเรื่องลับน่ารู้ฉบับเหมียวๆเกี่ยวกับการมองเห็นยังมีอีกเรื่องที่น่าสนใจค่ะ คือตาของแมวสามารถมองเห็นสีฟ้ากับเหลืองได้ดีแค่สองสีเท่านั้นค่ะ ส่วนสีเขียวกับแดงจะมองเห็นไม่ชัดเท่าไหร่นัก ทำให้โลกผ่านตาแมวนั้นสีจะค่อนข้างซีดกว่าที่ทาสแมวอย่างเราเห็นกันค่ะ เรื่องลับน่ารู้ฉบับเหมียวๆ : ความพิเศษของจมูกแมว แน่นอนค่ะว่าแมวอาจจะไม่ได้มีสัมผัสการรับกลิ่นเก่งเท่ากับสุนัข แต่ประสาทการรับกลิ่นของน้องๆนั้นก็ยังถือว่าดีมากเลยทีเดียวค่ะ โพรงจมูกของแมวเนี่ยถ้าเทียบกับขนาดตัวของเขาแล้วถือว่าใหญ่กว่าทาสๆ 4-5 เท่าเชียวนะคะ แมวจะใช้ประสาทสัมผัสการดมเพื่อแยกแยะค่ะว่าแมวไหนเป็นใคร ใช่แมวเพื่อนมั้ย มนุษย์คนนี้ใช่ทาสของเรารึเปล่า รวมถึงยังใช้กลิ่นเพื่อสร้างอาณาเขตด้วยค่ะ ดังนั้นจึงไม่แปลกเลยเวลาที่แมวเหมียวจะดมอาหารก่อนกินเสมอ กลิ่นจะเป็นตัวตัดสินค่ะว่าจะกินหรือไม่ […]

ทาสแมวจงฟัง! การเดาใจเหมียวจากหาง

ทาสแมวจงฟัง! การเดาใจเหมียวจากหาง

ทาสแมวทั้งหลายยย ทราบไหมคะว่าเจ้าแมวที่มีท่าทางไร้กังวลของเรา แมวรักอิสระที่เดินไปบางทีก็ไม่สนใจทาส บางทีก็มาอ้อนจนงงไปตามๆกัน แมวที่เราต้องคอยตามตื้อว่ามันคิดอะไรอยู่กันแน่เนี่ย ถ้าเราลองมองลงไปลึกๆในรายละเอียดปลีกย่อยของท่าทางน้องๆแล้วนะคะ เราจะสังเกตเห็นอารมณ์ของน้องๆได้โดยการดูลักษณะของหางในขณะนั้นได้ค่ะ วิธีการเดาใจเหมียวจากหาง ให้เราสังเกตความรู้สึกของแมวจากหางให้ดีค่ะ เพราะหางแมวเนี่ยเป็นชุดกระดูกชุดเล็กที่ยาวมาจากกระดูกสันหลัง กระดูกส่วนี้จะช่วยให้เจ้าเหมียวมีการเคลื่อนไหวที่ยืดหยุ่นสูงของน้องๆ บทบาทของหางไม่ได้เป็นเพียงแค่อวัยวะที่สร้างสมดุลแก่ร่างกายของแมวเท่านั้นแต่ยังมีความสำคัญอีกอย่างคือ มันสามารถใช้เพื่อการสื่อสารได้อีกด้วย หางแมวเนี่ยสามารถใช้สื่ออารมณ์ได้เช่นกันค่ะ เรามาดูกันค่ะว่า หางแบบไหนน้องเหมียวจะสื่ออะไรกันน้า หลักการสังเกตและการเดาใจเหมียวจากหาง – หางตั้งตรง : เจ้าเหมียวที่ยกหางชูขึ้นฟ้า เป็นสัญญาณที่แสดงให้เห็นกันค่ะว่าน้องกำลัง มีความสุขล้นเปี่ยมสุดๆอยู่นั่นเองค่ะ เมื่อคุณกลับบ้านมาเจอน้องแมวของเรา จะสังเกตได้เลยค่ะว่าน้องจะรีบเดินตรงดิ่งมาหาเรา แสดงการต้อนรับกลับมาอย่างยินดี ชวนมาเล่นหรือมาคลอเคลียที่ขาของเรา พร้อมกับหางฟูเล็กๆแต่ตั้งตรงขึ้นนั่นเอง – ม้วนหางไว้ระหว่างขาของมัน : เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าแมวของคุณกำลังรู้สึก หวาดกลัว น้องเหมียวจะม้วนหางไว้ที่ระหว่างขาหน้าและขาหลัง เป็นการวางในจุดเพื่อหลบหนีจากความกลัวในใจ คล้ายๆกับสัญชาตญาณของสัตว์อื่นๆเช่น หอยทาก เวลาหดตัวกลับไปในหอย นับเป็นการป้องกันตัวรูปแบบหนึ่งค่ะ ถ้าแมวกำลังทำท่านี้ทันทีที่สภพาแวดล้อมเกิดการเปลี่ยนแปลง มีเสียงดังจากเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน หรืออื่นๆ เพราะน้องกำลังกลัวนั่นเอง เรียกว่าเป็นความกลัวที่แมวไม่รู้จักว่ามันคืออะไร หากเราสังเกตดีๆแล้วเปลี่ยนที่ให้น้องผ่อนคลายขึ้น น้องจะได้ไม่เครียดค่ะ – กระดิกหรือตวัดหางเร็วๆ : หากแมวของคุณกำลังตวัดหางไปมาอย่างรวดเร็ว นั่นก็เพื่อพวกมันจะสามารถสื่อสารด้วยเสียงของหางนั่นแหละ ว่ามันไม่ได้ยินดีที่พบฝ่ายตรงข้าม หรืออาจจะเป็นการโบกธงพร้อมต่อสู้ของแมวได้ค่ะ จริงอยู่ว่าในสุนัขการกระดิกหางนั้นคือการที่กำลังแฮปปี้แต่กับคือตรงกันข้ามอย่างแน่นอน – […]

ทาสแมวจงฟัง! การแนะนำเพื่อนใหม่

ทาสแมวจงฟัง! การแนะนำเพื่อนใหม่

ว่ากันว่าถ้าเราเป็นทาสแมวแล้วนั้น มีน้องแมวตัวเดียวไม่น่าจะพอ เดี๋ยวคงผุดมาเป็นสอง สาม สี่ หรือบางบ้านมีเป็นสิบตัวเลยทีเดียว ซึ่งถ้าน้องๆมาในวัยเด็กพร้อมกันก็จะไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหมคะ แต่พอเป็นแมวโตแล้ว เขาจะมีนิสัยหวงถิ่นของตัวเองมากๆ ทำให้การพบเจอเพื่อนใหม่จะค่อนข้างใช้เวลาทำความรู้จักกันหน่อย เพราะเมื่อมีแมวแปลกหน้ารุกล้ำเข้ามาในถิ่นที่คุ้นเคยแล้ว เจ้าแมวยิ่งจะแสดงความเป็นเจ้าถิ่นมากขึ้น ถ้าเป็นแมวตัวผู้ด้วยแล้วล่ะก็ การมีผู้รุกล้ำเข้ามาในอาณาเขตถือเป็นเรื่องใหญ่มากกกก(ก.ไก่ล้านตัว) สำนวนที่ว่าเสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้นั้นมีอยู่จริงค่ะ ต้องต่อสู้ขับไล่กันจนถึงที่สุด หากคุณอยากเอาแมวตัวใหม่เข้าบ้านมาเลี้ยงเพิ่ม แต่กลัวว่าจะทะเลาะกันกับแมวตัวเก่า เรามีวิธีการแนะนำเพื่อนใหม่ ง่ายๆมาฝากกันค่ะ วิธีการแนะนำเพื่อนใหม่ให้น้องแมวของคุณคุ้นเคยกัน 1.แยกห้องเพื่อให้น้องแมวตัวใหม่ได้ปรับตัวเสียก่อน สิ่งแรกที่ควรจะต้องทำเมื่อนำแมวใหม่เข้ามาในบ้านคือ การแยกห้องค่ะ เพื่อให้แมวตัวใหม่ปรับตัวให้คุ้นชินกับที่อยู่ใหม่ซะก่อน โดยการนำแมวใหม่ไปไว้ในห้อง หรือกรงที่มีขนาดกว้าง รวมถึงเตรียมกระบะทราย น้ำ อาหาร ที่นอน และของเล่นอื่นๆ ไว้ให้ด้วย อาจใช้เวลาปรับตัวประมาณ 1 สัปดาห์ ที่สำคัญอย่าเพิ่งให้แมวใหม่และแมวเก่าเจอหน้ากันในช่วงแรกๆจะดีกว่าค่ะ เพราะแมวตัวเก่าอาจจะมีการขู่ เนื่องจากยังไม่คุ้นกับกลิ่นของแมวตัวใหม่ที่ติดมากับเจ้าของนั่นเองค่ะ 2.ให้น้องแมวทำความคุ้นเคยกับกลิ่นเสียก่อน เมื่อทาสแมวได้ทำการแยกแมวตัวใหม่ไว้ประมาณ 1 สัปดาห์แล้ว ขั้นตอนต่อไปในระหว่างนั้นคือ การทำให้แมวตัวใหม่และแมวตัวเก่าทำความคุ้นเคยกับกลิ่น โดยแปรงขนแมวตัวเก่า และแมวตัวใหม่ด้วยแปรงอันเดียวกัน ให้กินอาหารใกล้ๆ กัน โดยวางชามใส่อาหารไว้คนละด้านของประตู แต่ต้องเฝ้าระวังเล็กน้อยเพราะยังให้เจอหน้ากันไม่ได้ หรือเวลาที่พาแมวตัวใหม่ออกไปข้างนอก ให้นำแมวตัวเก่าเข้าไปสำรวจพื้นที่ในห้องของแมวตัวใหม่ที่แยกไว้ แล้วแมวตัวเก่าจะค่อยๆ ทำความคุ้นเคยกับกลิ่นของแมวตัวใหม่ไปเองเลยล่ะค่ะ […]

ทาสแมวจงฟัง! การทำหมันแมวมีดียังไงนะ

ทาสแมวจงฟัง! การทำหมันแมวมีดียังไงนะ

สวัสดีทาสแมวทุกคนนะค๊า รอบนี้เรามีเรื่องที่เหล่าทาสมือใหม่หลายๆคนค่อนข้างหยิบยกขึ้นมาถกกันเป็นคำถามยอดฮิตเลยก็ว่าได้ค่ะ เรื่องของการ “ทำหมันแมว” หลายๆคนคงจะตั้งใจจะเลี้ยงแมวแบบไม่ได้หวังเจ้าน้องมิ้วตัวน้อยๆ เพราะลำพังตัวแสบที่กว่าจะโตมานี่ก็เล่นเอาเหนื่อยกันมาพอสมควรแล้วใช่ไหมละคะ สำหรับการทำหมันแมวเนี่ย เคยมีความเชื่อกันในหมู่มากนะคะ ว่าควรจะรอให้น้องๆอายุครบหนึ่งปีเสียก่อน ป้องกันการเติบโตไม่เต็มที่เนื่องจากฮอร์โมนที่ยังไม่ได้พัฒนาจนถึงวัยโตเต็มวัย  แต่ปัจจุบันคุณหมอได้ออกมาบอกแล้วนะคะว่าที่จริงแล้วเนี่ย แมวสามารถทำหมันได้ตั้งแต่ยังไม่ครบหนึ่งขวบค่ะโดยเ​ฉพาะถ้าหากเป็นแมวตัวเมีย ก็สามารถพาน้องไปทำหมันตัดมดลูกและรังไข่ได้ตั้งแต่ 4 เดือนขึ้นไปเลยล่ะค่ะ ส่วนน้องตัวผู้นั้นยังมีหมอหลายท่านแนะนำให้รอน้องอายุครบหนึ่งปี หรือพาน้องไปตรวจก็ได้ค่ะ ให้ไข่แมวกลมดิ๊กสุขภาพดี ฮอร์โมนพัฒนาจนโตเต็มวัยเสียก่อน จะได้ไม่ส่งผลเสียต่อการเจริญเติบโตของน้อง แต่ทว่าจริงๆแล้วนั้นเราไม่จำเป็นต้องรอฮีทรอบแรกเลยด้วยซ้ำนะคะ ซึ่งจะเป็นข้อดีมากๆหากทาสแมวอยากจะควบคุมประชากรแมวในบ้านตัวเองให้ทันการณ์ เพราะหลายคนรอไปรอมาจับไม่ทันน้องทับกันซะก่อน…. ข้อดีต่างๆของการทำหมันแมว พูดถึงการทำหมันที่น้องแมวจะต้องเจอนะคะ คือการตัดรังไข่และมดลูกแมวตัวเมียออกไป ส่วนตัวผู้นั้นก็คือการนำลูกอัณฑะและท่อนำอสุจิออกไปนั่นเองค่ะ ซึ่งวิธีผ่าตัดนั้นคุณหมอจำเป็นจะต้องวางยาสลบนะคะ และหลังจากนั้น 1 อาทิตย์ก็ยังคงต้องคอยพาน้องๆไปล้างแผล หากแผลปิดสนิทก็สามารถตัดไหมได้ค่ะ หรือบางท่านอยากให้มีการดูแลอย่างใกล้ชิดก็สามารถฝากที่รพ.สัตว์ได้เลยจนกว่าน้องจะหายนะคะ เพราะเราจะต้องคอยระวังไม่ให้น้องแมวของเราเลียแผล  เนื่องจากอาจจะมีการติดเชื้อเกิดขึ้นได้ค่ะ และหลังจากนั้นค่ะ ข้อดีของการทำหมันของน้องแมวที่เรากำลังจะกล่าวถึงก็จะเกิดขึ้นตามมาอย่างเห็นผลกันแบบทาสแมวงงแน่นอน 1.เป็นผลดีต่อระบบสืบพันธุ์ : การทำหมันเป็นวิธีการคุมกำเนิดที่ดีแล้วชัวร์ที่สุดของน้องแมว แถมยังให้ผลอย่างถาวรอีกด้วย ซึ่งการทำหมันจะช่วยลดโอกาศการติดเชื้อในระบบสืบพันธุ์ของแมวได้อย่างดีเลยล่ะค่ะ เช่น เนื้องอกในเต้านมแมว หรือความผิดปกติของอัณฑะแมวตัวผู้เป็นต้นค่ะ 2.น้องเหมียวจะอ่อนโยนขึ้น : เรียกได้ว่าแมวบ้านไหนดุๆดื้อๆจะเห็นพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของเค้าได้ชัดเจนมากๆค่ะหลังการทำหมัน เพราะฮอร์โมนของน้องๆลดลงมาก ทำให้อารมณ์คงที่ อาการติดสัตว์ ติดสาว อยากหนีเที่ยว หรือการสเปรย์ฉี่ทั่วบ้านของน้องแมวเพื่อบ่งบอกอาณาเขตของตัวเองนั้นจะหายไปทันทีเลยล่ะค่ะ รวมถึงพฤติกรรมที่แสดงอาการก้าวร้าวอย่างเช่นการขู่ และการกัดเจ้าของหรือคนในบ้านของเราจะลดลง แต่จากประสบการณ์ของทาสแมวอย่างเรานั้นที่เจอมา ความชอบเล่นของน้องๆจะไม่หายไปนะคะ แค่จะทำตัวน่ารักขึ้นเยอะม้ากกกก (ก.ไก่แสนตัว) ข้อควรระวังในการทำหมันแมว สำหรับการทำหมันนั้นมีเรื่องหนึ่งที่ต้องระวังให้เป็นพิเศษ คือเรื่องความอ้วนของน้องแมวนั่นเองค่ะ เนื่องจากการทำหมันแมวเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้แมวของเราน้ำหนักเยอะขึ้นและบางตัวอาจจะกินเยอะจนเป็นโรคอ้วนได้ค่ะ เพราะการเผาผลาญของน้องๆจะลดลง แต่ความอยากจะเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว ทำให้ระบบเผาผลาญในร่างกายไม่สัมพันธ์กับการกินของน้องๆ  ควรให้เค้าออกกำลังกายด้วยการเล่นกับเค้า หรือสามารถซื้อลู่วิ่งแมวมาให้เค้าใช้ได้ค่ะ และที่สำคัญคือควรกำหนดและจัดอาหารในปริมาณที่พอเหมาะต่อเค้านะคะ ให้กินเป็นมื้อๆเลยจะดีที่สุดค่ะ หากวางทิ้งไว้ทั้งวันเราอาจไม่ทันระวังว่าเค้าจะกินเยอะน้อยแค่ไหน ยังไงก็อยากฝากให้ทาสแมวทุกคนระวังเรื่องนี้หลังการทำหมันก่อนที่จะได้หมูมาเลี้ยงแทนแมวกันนะค๊าา #ทำหมันแมว #ทาสแมว #ข้อควรระหวังหลังการทำหมันน้องแมว

สัญญาณบอกโรคอ้วนในแมว วิธีสังเกตง่ายๆ แมวของคุณอ้วนเกินไปแล้วหรือยัง !?

สัญญาณบอกโรคอ้วนในแมว วิธีสังเกตง่ายๆ แมวของคุณอ้วนเกินไปแล้วหรือยัง !?

นอกจากน้ำหนักหรือลักษณะทางกายภาพที่สามารถดูได้ด้วยตาเปล่าว่าแมวของคุณนั้นเป็นโรคอ้วนแล้วหรือยัง ก็ยังมีวิธีสังเกตอื่นๆที่จะทำให้บรรเหล่าทาสแมวทั้งหลายรู้ได้ว่าแมวของคุณนั้นกำลังประสบปัญหาโรคอ้วนอยู่เปล่า เพราะสมัยนี้มีขนมแมวออกมาล่อตาล่อใจบรรดาทาสให้ซื้อไปสปอยแมวตัวเองมากมาย ก็อาจจะเป็นสาเหตุทำให้แมวของคุณเป็นโรคอ้วนในที่สุด บทความนี้จะมาบอกวิธีสังเกตว่าแมวของคุณเป็นโรคอ้วนไปแล้วหรือยัง 1.แมวของคุณนอนมากขึ้น ข้อนี้สำหรับบรรดาทาสแมวอาจจะหนักใจเสียหน่อย เพราะปกติแมวก็นอนเยอะอยู่แล้ว แต่อย่าเพิ่งท้อใจไป เพราะว่าโดยปกติแล้วถึงแมวจะนอนเยอะก็จริงแต่เขาจะเปลี่ยนที่นอนค่อนข้างบ่อย และการที่เขามีน้ำหนักเกินจะทำให้เขาเหนื่อยและเพลียได้ง่ายมากขึ้นรวมไปถึงหัวใจที่ทำงานได้แย่ลง ซึ่งอาจจะทำให้เขาเปลี่ยนที่นอนน้อยลง และขลุกอยู่กับที่นอน นอกจากนี้แล้วเขาก็จะหิวง่ายมากขึ้น เพราะฉะนั้นหากคุณสังเกตแล้วพบว่าแมวของคุณวนเวียนอยู่กับการกินและนอนที่มากจนเกิดไป ก็อาจจะแสดงว่าแมวของคุณเข้าข่ายจะเป็นโรคอ้วนแล้ว 2.เหนื่อยง่ายมากขึ้น โดยธรรมชาติของแมวแล้วจะเป็นสัตว์ที่จะใช้พลังงานเยอะแต่ในเวลาอันสั้นๆ เช่นการที่คึกเล่นกับเราแรงๆ สักประมาณ 5 นาทีแล้วก็จะหยุดไป แต่ถ้าน้องเหมียวแสดงอาหารว่าเหนื่อยมากขึ้นหรือเหนื่อยเร็วขึ้นกว่าปกติ คุณอาจจะต้องเตรียมรับมือได้แล้วว่าน้องแมวของคุณอาจจะกำลังเข้าข่ายการเป็นโรคอ้วนแล้ว เพราะฉะนั้นต่อจากนี้เวลาเล่นกับเขาก็ต้องสังเกตุด้วยว่าเขามีอาหารเหนื่อยง่ายหรือเหนื่อยเร็วขึ้นบ้างหรือไม่ 3.ไม่ชอบขึ้นที่สูง หากน้องแมวมีเกณฑ์ว่าจะเข้าข่ายโรคอ้วน จะส่งผลต่อข้อต่อของน้องแมว เพราะฉะนั้นหากน้องแมวของคุณไม่ค่อยจะชอบขึ้นที่สูงๆอย่างที่เคย คุณควรจะต้องกังวลว่าแมวของคุณอาจจะเป็นโรคอ้วน เพราะธรรมชาติของแมวนั้นจะชอบขึ้นที่สูง เพราะว่าจะรู้สึกปลอดภัยรวมไปถึงมีวิสัยทัศน์ที่ดีกว่าการอยู่ข้างล่าง หากแมวของคุณมีการเดินที่ผิดปกติไปและไม่ยอมขึ้นที่สูง ก็อาจจะเป็นเพราะน้ำหนักที่เกิดส่งผลต่อระบบข้อต่อ 4.มีปัญหาผิวหนัง อีกหนึ่งวิธีที่สังเกตได้ง่ายๆ จะเป็นตัววัดว่าแมวของคุณได้รับสารอาหารในปริมาณที่เหมาะสมหรือไม่ หากแมวของคุณได้รับอาหารในปริมาณที่มากเกินไปติดต่อเป็นระยะเวลานานๆ ก็สามารถทำให้ขนของแมวของคุณร่วงมากกว่าปกติก็ได้ นอกจากนี้อาจจะเกิดก้อนขนในระบบทางเดินอาหารอีกด้วย เพราะฉะนั้นทางที่ดีคุณควรดูแลไม่ให้แมวของคุณเป็น โรคอ้วนในแมว เนื่องจากจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคต่างๆมากมายไม่ว่าจะเป็น โรคหัวใจ ตับอ่อนอักเสบ ข้ออักเสบเรื้อรัง โรคผิวหนังเรื้อรัง เบาหวาน เป็นต้น  #แมวอ้วน #โรคอ้วนในแมว

ทาสแมวจงฟัง! การฝึกลูกแมวใช้กระบะทราย

ทาสแมวจงฟัง! การฝึกลูกแมวใช้กระบะทราย

โดยปกติแล้วธรรมชาติของแมวจะเป็นสัตว์ที่รักสะอาดมากๆ และลูกแมวอาจจะได้เรียนรู้การใช้กระบะทรายมาแล้วจากแม่แมวก่อนที่จะย้ายบ้านมาอยู่กับนางทาสอย่างเราๆ แต่สิ่งที่เราควรเตรียมพร้อมก็เป็นเรื่องง่ายมากๆ เพียงแค่ซื้อกระบะทรายขนาดใหญ่พอให้เจ้าลูกแมวหมุนตัวได้สะดวก และไม่สูงจนเกินไป หากทาสคนไหนอยากจะประหยัดก็สามารถใช้กะละมังแทนได้ค่ะ และอย่าลืมเติมทรายครอบคลุมก้นกระบะให้เพียงพอ เพราะเจ้าตัวเล็กบางตัวเขาจะกวาดเขี่ยจนเป็นหลุมเลยล่ะค่ะ แต่ขอให้ทาสแมวทั้งหลายจงจำไว้ว่าอุบัติเหตุอาจเกิดขึ้นได้เสมอ การย้ายบ้านใหม่อาจจะทำให้ลูกแมวตื่นตระหนก รู้สึกผิดที่ผิดทาง ทำให้น้องอาจจะขับถ่ายผิดที่ผิดทางไปบ้าง อย่าทำโทษเขาด้วยการตีนะคะ อาจจะทำให้เขากลัวเราไปเลยค่ะ และเมื่อเขายอมใช้กระบะทราย ให้ชมเชย และบางครั้งก็ให้รางวัลเขาบ้าง เช่น การให้ขนมแมวเลียสูตรลูกแมวที่เขาชอบ ไม่นานทุกอย่างก็จะเข้าที่เองนะคะ การฝึกลูกแมวใช้กระบะทรายนั้นไม่ยาก แค่ต้องใจเย็นๆและอดใจรอเท่านั้นค่ะ 1.เริ่มต้นการฝึกลูกแมวใช้กระบะทราย โดยปกติแล้วการเริ่มต้นการฝึกลูกแมวใช้กระบะทราย คือเราควรจะเตรียมจำนวนกระบะทรายไว้สำหรับแมวในบ้าน ให้มีมากกว่าจำนวนของแมวหนึ่งอันอยู่เสมอ ตัวอย่างเช่น ถ้าทาสมีแมวในบ้านสามตัว ก็ควรมีกระบะทรายสามถึงสี่อัน เพื่อการใช้งานที่สะดวกของน้องแมว และทันทีที่ลูกแมวของทาสทั้งหลายย้ายมาถึงบ้านใหม่ของเขา ให้พาเขาไปดูว่ากระบะทรายตั้งอยู่ตรงไหนก่อนเป็นอย่างแรก ช่วงแรกๆ อาจจะต้องคอยจับตาดูลูกแมวของคูณอย่างใกล้ชิดหน่อยนะคะ และต้องคอยช่วยจับเขาลงไปในนั้นหลังจากกินอาหารเสร็จ หากคุณเห็นเขามาดมฟุดฟิดอยู่รอบๆ เหมือนตามหาอะไรอยู่ หรือทำตัวเหมือนว่าต้องการจะใช้ห้องน้ำแมว ให้รีบพาเจ้าตัวเล็กลงกระบะทรายให้คุ้นชินเลยค่ะ แต่หากเกิดอุบัติเหตุน้องแมวทิ้งบอมบ์ไม่เป็นที่ อย่าเพิ่งดุหรือตีนเขานะคะ อาจจะใช้น้ำเสียงเข้มๆให้เค้ารู้ได้บ้าง แต่อย่าทำให้ตกใจมิฉะนั้นน้องจะยิ่งตื่นบ้านใหม่ไปหลายชั่วโมงค่ะ หลังจากนั้นให้นำทิชชู่ซับมูลแมวตรงที่เค้าปล่อยผิดที่ แล้งนำทิชชู่นั้นเข้าไปวางไว้ในกระบะทราย จับน้องเข้าไปดมๆวางๆบ่อยๆค่ะ สักครู่เดี๋ยวเขาจะชินเอง ยิ่งเขาชินสถานที่มากเท่าไหร่ ความสะดวกใจที่จะใช้กระบะทรายก็จะง่ายขึ้นเท่าตัวค่ะ 2.ทริคหลักๆในการฝึกลูกแมวใช้กระบะทราย วางกระบะทรายไว้ในที่เงียบๆและง่ายต่อการที่ลูกแมวของทาสจะเข้าถึง ถ้าวางห่างเกินไปน้องหาไม่เจอล่ะก็ เป็นเรื่องแน่ๆค่ะ ที่สำคัญคือให้วางห่างจากเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านที่เสียงดังนะคะ แมวจะมีนิสัยกลัวอุปกรณ์เหล่านั้นมากค่ะ […]

คุณเคยสงสัยไหม ? ว่าแมวของเรานั้น เขารักทาสอย่างเราบ้างหรือเปล่า

คุณเคยสงสัยไหม ? ว่าแมวของเรานั้น เขารักทาสอย่างเราบ้างหรือเปล่า

หากคุณเป็นหนึ่งในทาสแมว คุณจะต้องมีหนึ่งข้อสงสัยที่มักจะถามกับตัวเองแน่ๆ ว่าเจ้าแมวของคุณนั้นเคยรักทาสอย่างเราบ้างหรือเปล่านะ บทความนี้จะพาคุณมาหาคำตอบผ่านการดูพฤติกรรมแมว ว่าการแสดงออกแบบไหนของแมวที่เขาจะสื่อว่ารักเจ้าของอย่างเราเหมือนกัน 1.นิสัยของแมว คาบของมาฝาก หากคุณเป็นหนึ่งในคนที่เคยได้รับของฝากจากแมวตัวเอง ไม่ว่าสิ่งมีชีวิตหรือไม่มีชีวิตเหล่านั้นจะน่าผวาดผวาเพียงใด คุณก็อย่าเพิ่งตกใจจนดุหรือตีน้องแมวของคุณจนเกินไป คุณควรจะต้องดีใจว่าความรักของคุณไม่ใช่การไปรักข้างเดียว เพราะพฤติกรรมการคาบพวกสัตว์ตัวเล็กตัวน้อยมาฝากคุณก็เป็นวิธีแสดงความรักอย่างหนึ่ง ของแมว เพราะว่าแมวเป็นสัญชาตญาณสูง การที่เขาล่ามาได้เขาก็อยากจะเอามาอวดให้คุณได้ภูมิใจไปกับเขานั่นเอง 2.แมวของคุณร้องเหมียวๆใส่ โดยปกติแล้วนั้นแมวจะพฤติกรรมการสื่อสารผ่านกลิ่นและท่าทางเป็นส่วนใหญ่ หากคุณสังเกตให้ดีคุณจะพบว่าส่วนใหญ่นั้นเจ้าเหมียวจะส่งเสียงร้องตอนเป็นเด็ก แต่พอโตมาจะไม่ค่อยส่งเสียงร้องมากนัก เพราะการส่งเสียงร้องตอนเด็กๆจะเป็นการเรียกหาแม่ของมัน และถ้าโตขึ้นมาเขาร้องเหมียวๆใส่คุณ ก็แสดงว่าเขาพยามจะสื่อสารกับคุณและพยายามอ้อนคุณนั่นเอง แต่ไม่นับการเถียงในบางครั้งนะ 3.ชอบพันแข้งพันขา หลายๆคนคงรู้ว่าแมวรักก็อาจจะมาจากข้อนี้นี่แหละ เพราะแมวเขาก็ค่อนข้างแสดงพฤติกรรมออกมาชัดเจนว่าติดเรา อยากจะอยู่กับทาสเลยจะไปเดินพันแข้งพันขาให้คุณรำคาญเสียอย่างนั้น แต่ถ้าหากเกิดการสดุดขึ้นมา ก็ขอให้คุณท่องไว้ให้ขึ้นใจว่าแมวของคุณพยายามจะบอกรักคุณอยู่นะ 4.จ้องคุณตาเขม็ง พฤติกรรมนี้ของน้องแมวก็ทำทาสเราหวาดระแวงกันไปหลายที ว่าน้องเขาวางแผนจะทำอะไรกับเราหรือว่าจ้องเขม็งอยู่ตลอดเวลา แต่คุณคงต้องเปลี่ยนความคิดเสียงใหม่แล้ว ! เพราะว่าจริงๆแล้วน้องเขาแค่มีอาการห่วงใย อยากให้เราอยู่ในสายตาตลอดเวลาเท่านั้นเอง ถ้าไม่รัก เขาจะไม่คอยสังเกตคุณเด็ดขาด เพราะฉะนั้นหากคุณรู้สึกว่าเหมือนมีพลังมืดคอยจับจ้องคุณตลอดเวลาจงดีใจเสียเถอะ เพราะมันเป็นพลังของความรัก 5.นอนแผ่พุง จริงๆแล้วบริเวณนั้นของแมวถือเป็นเขตหวงห้ามของเจ้าตัวเลยเชียวล่ะ เพราะว่าส่วนนี้เป็นจุดที่บอบบางที่สุด ถ้าหากแมวของคุณยอมนอนแผ่ให้คุณจกพุงน้องเล่นก็จงดีใจเสียเถอะ เพราะว่าถ้าเขาไม่รู้สึกปลอดภัยจริงๆเขาจะไม่แสดงพฤติกรรมนี้ออกมาให้คุณเห็นอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นหากคุณเป็น ทาสแมว แล้วล่ะก็จงอ่าน พฤติกรรมของแมว เหล่านี้ให้ออกเพื่อที่จะได้เข้าใจว่า แมวบอกรัก เราอยู่นั่นเอง #ทาสแมว #พฤติกรรมของแมว

ทาสแมวจงฟัง! ได้เวลาอาบน้ำเจ้าเหมียว

ทาสแมวจงฟัง! ได้เวลาอาบน้ำเจ้าเหมียว

ขึ้นชื่อว่าแมวแล้วนั้น เชื่อว่าหลายคนคงจะติดภาพน้องเหมียวกลัวน้ำ เจอน้ำละวิ่งแจ้นไปถึงหลังหมู่บ้าน แต่เดี๋ยวก่อนค่ะทาส จริงๆแล้วแมวเนี่ยเราสามารถฝึกอาบน้ำให้เค้าได้นะคะ โดยเฉพาะถ้าเรารับมาเลี้ยงตั้งแต่เล็กๆแล้วการอาบน้ำเจ้าเหมียวเนี่ยก็ไม่ใช่เรื่องที่ยากเกินตัวนักค่ะ วิธีการอาบน้ำเจ้าเหมียว สำหรับการทำความสะอาดอาบน้ำเจ้าเหมียวหลักๆเนี่ยสามารถทำได้สองแบบนะคะ วิธีแรกง่ายๆเลยคือการใช้แชมพูแบบแห้งค่ะ แชมพูแบบแห้งเนี่ยจะมีลักษณะเป็นสเปรย์ สามารถฉีด ชึ้บๆๆ ใส่น้องแมวของเราแล้วเช็ดด้วยผ้าสะอาดได้เลย ง่ายๆแค่สองขั้นตอนเท่านั้น ส่วนอีกวิธีก็คือการอาบน้ำเหมือนเวลาเราเห็นน้องหมาอาบน้ำนี่แหละค่ะ เพียงแต่เจ้าเหมี่ยวเนี่ยอุณหภูมิเค้าค่อนจะข้างจะตกง่าย ฉะนั้นจะต้องเตรียมน้ำอุ่นๆให้อาบนะคะ โดยทั่วไปแล้วจะนิยมใส่น้ำอุ่นในกะละมัง วางน้องเหมียวลงไปในอ่างหรือกะละมังที่เตรียมไว้แล้วค่อยๆวักน้ำขึ้นมาให้ทั่วตัวของน้องค่ะ ซึ่งเราจะต้องกะอัตราส่วนของแชมพูให้ดีนะคะ อ่านฉลากอย่างถี่ถ้วนแต่ถ้าให้แนะนำเลยเนี่ยควรเลือกสูตร no more tears จำพวกที่ทำให้ลูกแมวอาบได้ด้วยค่ะ เพราะผิวหนังของน้องแมวบางตัวอาจแพ้ง่าย และนำไปสู่การเกาจนเป็นสะเก็ดได้ค่ะ  หลังจากที่เราฟอกแชมพูจนทั่วตัวแล้วให้ล้างด้วยน้ำสะอาดที่อุ่นอีกที สักสองสามรอบก็ดีค่ะให้ฟองหมดเกลี้ยงห้องกันน้องคันนะคะ เมื่อล้างสบู่จนหมดแล้วให้นำผ้าแห้งมาเช็ดตัวจนขนเปียกหมาดๆ จากนั้นให้นำไดร์เป่าผมเนี่ยมาเป่าให้แห้งสนิท แต่นี่คือปัญหาที่ทาสแมวส่วนใหญ่จะเจอหลังอาบน้ำให้เจ้าเหมี่ยวเสร็จเลยล่ะค่ะ เพราะน้องแมวค่อนข้างจะขี้กลัวเสียงเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านทุกชนิด มีทริคง่ายๆคือให้นำสำลีมาอุดหูน้องไว้แล้วค่อยเป่าไดร์ ช่วยลดการดิ้นและตะกุยจนแขนทาสมีรอยยันต์ห้าแถวได้ค่ะ เน้นย้ำว่าการเป่าขนเจ้าเหมี่ยวจะต้องเป่าให้แห้งทุกภาคส่วนนะคะ ซอกหลืบจุ้กกุแร้ของน้องก็ต้องเป่าจนแห้งสนิทค่ะ หากเกิดเชื้อราขึ้นมาแล้วจะเรื่องใหญ่ต้องโดนจับโกนขนทายาไปยาวๆเลยล่ะค่ะ หลังอาบน้ำเจ้าเหมียวควรแปรงขน การแปรงขนเจ้าเหมียวก็เป็นสิ่งที่ดีต่อสุขภาพขนของน้องๆเช่นกันค่ะ เพราะน้องแมวเนี่ยเค้าจะมีช่วงผลัดขนของเค้า หากเราช่วยแปรงขน ขนเจ้าเหมียวจะยิ่งดกฟูและเงางามมากขึ้น อีกทั้งยังลดปริมาณขนที่น้องจะเลียแล้วติดเป็นก้อนในคอจนต้องสำรอกออกมาได้ด้วยนะคะ ซึ่งเวลาแปรงขนเนี่ย อยากให้ทาสทุกคนสังเกตผิวหนังน้องดีๆ ดูแลอย่างใกล้ชิดสม่ำเสมอ ว่ามีเห็บหมัดหรือไม่ เพราะเจ้าแมลงตัวเล็กๆเหล่านั้นสามารถนำโรคผิวหนังมาสู่น้อง และเป็นพาหะนำโรคสู่มนุษย์ทาสอย่างเราได้อีกด้วยค่ะ ขอบคุณภาพจาก Pet AZและTLCNews #ทาสแมว #วิธีอาบน้ำน้องแมว

เลี้ยงแมวเด็กใครว่าง่าย ? มาดูกันวิธีเลี้ยงแมวเด็ก ต้อนรับสมาชิกใหม่เข้าบ้าน

เลี้ยงแมวเด็กใครว่าง่าย มาดูกันวิธีเลี้ยงแมวเด็ก

หากคุณไม่เคยมีปราบการณ์การเลี้ยงแมวเด็กมาก่อน แล้วคิดว่ามันก็ไม่ได้ยากเย็นอะไรแล้วล่ะก็ ขออกตัวค้านเสียตั้งแต่ตรงนี้เลย เพราะว่าแมวเด็กเป็นช่วงที่จะต้องได้รับการดูแลเอาใจใสเป็นพิเศษ แถมเป็นช่วงที่เอาใจยากเสียด้วย บทความนี้จะมาบอกวิธีการรับมือกับแมวเด็ก และวิธีการเลี้ยงแมวเด็กกันว่าควรจะทำอย่างไร วิธีการเลี้ยงลูกแมว เมื่อมีสมาชิกน้องแมวเพิ่มเข้ามาควรทำอย่างไร ? ประเด็นนี้ถือเป็นประเด็นที่สำคัญมากๆ ประเด็นหนึ่งเพราะว่าลูกแมวมักจะร้องเรียกหาความปลอดภัยอยู่เสมอๆ เพราะฉะนั้นไม่แปลกหากเขาจะชอบร้องเหมียวๆอยู่ตลอดเวลา คุณจะต้องมีความอดทนไม่ไปทำร้ายเขาเมื่อเขาร้องมากจนเกินไป และที่สำคัญก็คือ แมวเด็ก เป็นแมวที่หิวบ่อย เพราะฉะนั้นคุณควรจัดสรรมื้ออาหารในแต่ละมื้อของเขาใน เลี้ยงลูกแมว ต้องอาศัยความอดทนสูง ประเด็นนี้ถือเป็นประเด็นที่สำคัญมากๆ ประเด็นหนึ่งเพราะว่าลูกแมวมักจะร้องเรียกหาความปลอดภัยอยู่เสมอๆ เพราะฉะนั้นไม่แปลกหากเขาจะชอบร้องเหมียวๆอยู่ตลอดเวลา คุณจะต้องมีความอดทนไม่ไปทำร้ายเขาเมื่อเขาร้องมากจนเกินไป และที่สำคัญก็คือ แมวเด็ก เป็นแมวที่หิวบ่อย เพราะฉะนั้นคุณควรจัดสรรมื้ออาหารในแต่ละมื้อของเขาในปริมาณน้อยๆแต่แบ่งเป็นหลายๆมื้อแทน เพราะว่าเมื่อกินเสร็จแล้วเขาก็จะไปเล่น เมื่อเล่นเหนื่อยก็กลับมากินแล้วหลับ เมื่อตื่นมาก็หิวอีก จะเป็นแบบนี้ แล้วคุณก็ต้องพยายามอย่าให้เจ้าแมวเด็กเหล่านี้นอนกลางวันมากจนเกินไป ไม่อย่างนั้นเขาจะตื่นมาเล่นตลอดกลางคืนแล้วจะหาว่าไม่เตือน จะเห็นได้ว่า การดูแลลูกแมว หรือ วิธีการดูแลแมวเด็ก นั้นไม่ได้ยุ่งยากหรือซับซ้อนจนเกินไป แต่คุณจะต้องอาศัยความใส่ใจและความอดทนให้มากพอเท่านั้นเอง #เจ้าเหมียว #วิธีการเลี้ยงแมวเด็ก

ทาสแมวจงฟัง! อาหารที่เป็นพิษต่อน้องแมว

ทาสแมวจงฟัง! อาหารที่เป็นพิษต่อน้องแมว

สิ่งที่ทาสแมวควรระวังที่สุดเลยคือเรื่องอาหารการกินของน้องแมวนะคะ อย่าใจอ่อนถ้าเขามาขอกินอาหารร่วมโต๊ะกับมนุษย์ทาสอย่างเราๆเพราะอาจจะทำให้เสียนิสัยและส่งผลเสียต่อไตของเขาได้ด้วยในระยะยาวค่ะ ที่สำคัญคืออาหารที่คนธรรมดาๆกินอย่างเราหลายๆชนิดนั้น เป็นพิษต่อเจ้าแมวของเรานะคะ ถ้าอยากจะให้น้องแมวมีสุขภาพดีและมีอายุที่ยืนยาวไม่ควรให้อาหารที่เป็นพิษต่อน้องแมวและเป็นอันตรายถึงชีวิตมีดังนี้ค่ะ 1.หัวหอม กระเทียม ข่า ตะไคร้ ในพืชจำพวกนี้จะมีสารเคมีตัวหนึ่งที่ชื่อ N-propyl disulphide ซึ่งสามารถพบได้ในพืชเหล่านี้และสารชนิดนี้ส่งผลร้ายต่อเซลล์เม็ดเลือดแดงของแมว โดยสารจะส่งผลให้เกิดลักษณะอาการที่ชื่อว่า Heinz body anemia และสารตัวนี้จะเข้าไปทำลายเม็ดเลือดแดงของน้องแมวของเรานั่นเองค่ะ เก็บไว้ให้พ้นมือน้องด้วยน้า 2.มะเขือเทศและมันดิบ จากข้อมูลของผลวิจัยต่างชาติ เขาบอกว่ามะเขือกับมันฝรั่ง มีสารพิษตัวหนึ่งที่ชื่อว่า Glycoalkaloid Solanine ซึ่งสารตัวนี้เป็นพิษต่อน้องแมวและมีอันตรายอย่างยิ่ง มันจะทำให้แมวที่รับประทานเข้าเสียชีวิตได้ แค่ชื่อพิษก็ไม่น่าจะรับประทานแล้วละค่ะ ซึ่งเจ้าสารตัวถ้าแยกจากชื่อสารก็คือ Glyco เป็นคาร์โบไฮเดรตโมเลกุลใหญ่ๆ ส่วน Alkaloid หมายถึงสารเคมีอันตรายกลุ่มหนึ่งที่พบมากในสารเสพติดเช่น บุหรี่ กัญชา กระท่อม เป็นต้นค่ะ 3.ช็อกโกแลต ในช็อคโกแลตจะมีสาร Theobromine ซึ่งเป็นสารที่พบในโกโก้ วัตถุดิบในการผลิตช็อกโกแลต น้ำชา และเครื่องดื่มน้ำอัดลมโคคาโคล่า ข้อควรรู้คือ แมวและสุนัขไม่มีกลไกในการย่อยสารตัวนี้นะคะ ถ้าทาสยังให้แมวหรือสุนัขของคุณกิน แล้วมันยังไม่เป็นอะไร แปลว่า คุณโชคดีมาก แต่โดยทั่วไปแล้วน้องๆจะแสดงอาการแพ้ออกมาค่ะ ซึ่งอาการสำหรับหมาแมว ที่แพ้ช็อกโกแลต คือ […]

5 ราคาแมวที่แพงที่สุดในโลก มาดูกันว่าทาสแมวอย่างเราๆจะสู้ราคาไหวหรือเปล่า!?

5 ราคาแมวที่แพงที่สุดในโลก มาดูกันว่าทาสแมวอย่างเราๆจะสู้ราคาไหวหรือเปล่า

ทุกวันเหล่าทาสแมวทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นแมวพันธุ์ไหนเห็นทีทาสแมวอย่างเราๆก็เป็นใจเหลวไปทุกที แต่ก็ต้องมีแมวพันธุ์โปรดกันบ้างแหละนะ บทความนี้จะพาคุณมาดู 5 อันดับแมวที่ราคาแพงที่สุดในโลก แพงจนทาสอย่างเราต้องร้องกรี๊ดกันเลยทีเดียว อันดับที่ 5 Peterbald แมวตัวนี้อาจจะดูคุ้นหน้าคุ้นตากันอยู่สักหน่อย เพราะว่ามีความละหม้ายคล้ายคลึงกับเจ้าแมวไร้ขนอย่าง แมวพันธุ์ Sphynx มาก ซึ่งใครหลายๆคนก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่านอกจากแมวไร้ขนสายพันธุ์สฟิงซ์แล้วจะมีสายพันธุ์อื่นอีกด้วย แต่บอกไว้ก่อนเลยว่า แมวสายพันธุ์ Peterbald นี้จะทั้งแบบที่มีขนและที่ไม่ขน แต่ว่าส่วนใหญ่แล้วนั้นจะไม่มีขน โดยที่ลักษณะเด่นๆของเจ้าแมวราคาแพงตัวนี้ก็คือนิ้วเท้าของมันจะมีลักษณะคล้ายกับตีนเป็ด คือมีความเป็นพังผืด หูใหญ่ลำตัวผอม มีถิ่นกำเนิดอยู่ที่รัสเซีย โดยปัจจุบันมีราคาเฉลี่ยต่อตัว 160,000 บาท อันดับที่ 4 Persian แมวสายพันธุ์ราคาแพงนี้ได้ถูกขนานนามว่าเป็นแมวสายราชินี ก็แน่นอนว่าความสวยของแมวพันธ์นี้ถือว่ากินขาด และแน่นอนว่าเป็นที่ต้องการของตลาดมากๆ จนใครหลายๆคนต้องได้ยินแมวสายพันธุ์เปอร์เซียอยู่บ่อยครั้ง จนต้องแปลกใจว่ากลายเป็นแมวราคาแพงได้อย่างไร ต้องขอบอกเลยว่าสายพันธุ์นี้ในตลาดนั้นมีหลายระดับราคามาก โดยที่ราคาสายพันธุ์นำเข้านั้นจะอยู่ที่ 175,000 บาท อันดับที่ 3 Bengal แมวสายพันธุ์นี้เป็นแมวที่เกิดขึ้นจากฝีมือมนุษย์ ซึ่งใช้เวลาในการผสมพันธุ์ถึง 20 ปีทีเดียวกว่าจะสำเร็จ ซึ่งแมวพันธุ์นี้เป็นสายพันธุ์ที่หายากมากๆ มีลายขนเหมือนเสือเบงกอล เลยเป็นที่มาของชื่อสายพันธุ์นี้ ด้วยความหายากเพราะเจ้า แมวราคาแพง สายพันธุ์นี้ที่เป็นสายพันธุ์แท้ๆมีอยู่น้อยทำให้ราคาพุ่งสูงโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 800,000 บาท กันเลยทีเดียว อันดับที่ 2 Savannah แมวราคาแพง สายพันธุ์นี้เป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่มาจากฝีมือมนุษย์ จากการผสมระหว่างแมวป่าและแมวบ้าน ทำให้เกิดเป็นสายพันธุ์นี้ขึ้นมา โดยที่ลักษณะภายนอกของแมวพันธุ์นี้นั้นจะเป็นเหมือนแมวป่า แต่ลักษณะนิสัยนั้นจะเหมือนแมวบ้าน มีความเฉลียวฉลาด หากใครเลี้ยงแมวพันธุ์นี้ควรมีพื้นที่ให้น้องได้วิ่งเล่นกันด้วย […]

5 สายพันธุ์แมวหายาก แปลกตา แต่ดูน่ารัก ทาสแมวเห็นกันหมดทุกตัวแล้วหรือยัง ?

5 สายพันธุ์แมวหายาก แปลกตา แต่ดูน่ารัก ทาสแมวเห็นกันหมดทุกตัวแล้วหรือยัง สัตว์โลกน่ารัก

แมวหายาก แมวใกล้สูญพันธุ์ ทาสแมวต้องมาดูแมวน่ารักๆ เราก็เห็นกันมาเยอะแล้ว วันนี้เปลี่ยนแนวมาดูแมวสายพันธุ์หายาก แมวที่กำลังจะสูญพันธุ์กันบ้างดีกว่า บางตัวคุณก็อาจจะไม่เคยเห็นด้วยซ้ำ หรือบางตัวคุณก็ไม่เคยรู้ว่ามันมีอยู่จริงๆ บทความนี้จะพามาดู 5 สายพันธุ์แมวที่หายากของโลกกัน 1.Sand Cat แมวพันธุ์นี้ เป็นแมวทรายที่อาศัยอบู่ในทะเลทรายซาฮาร่าแถบตะวันออกหลางไปจนถึงเตอร์กีสถาน แมวสายพันธุ์นี้มีหน้าตาน่าเอ็นดู มีขนฟูฟ่อง ซึ่งถ้าทาสแมวเห็นแล้วอดใจไม่ให้หลงไม่ไหวเป็นแน่แท้ แมวพันธุ์โดยปกติจะหลบซ่อนตัวอยู่ตามหินตามทราย เพื่อรอเวลาล่าเหยื่อนั่นเอง ซึ่งอาหารของแมวพันธุ์นี้ก็จะเป็นพวกสัตว์เลื้อยคลาน แมลง นก ต่างๆ 2.Caracal แมวพันธ์นี้ ทาสแมวอาจจะดูคุ้นหูคุ้นตาใครหลายคน ถูกต้องแล้ว แมวพันธุ์นี้เป็นพันธุ์เดียวกับที่ยูทูปเบอร์ชื่อดังเก๋ไก๋สไลเดอร์เลี้ยงไว้นั่นเอง หรือที่เรารู้จักกันดีในนามของ น้องปลาร้า แมวพันธุ์นี้เป็นแมวที่อายุยืนมากๆสามารถมีอายุอยู่ได้ถึง 20 ปีกันเลยทีเดียว มีลักษณะที่ค่อนข้างเฉาะ ใบหูใหญ่ปลายหูมีพู่ขนสีดำ ขนสีน้ำตาลแดง 3.Asian golden cat แมวป่าพันธุ์นี้เป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่ทาสแมวอย่างพวกเราอาจไม่รู้จัก เพราะเป็นสายพันธุ์ที่หาได้ยากมากๆในตอนนี้ โดยเฉพาะในธรรมชาติ โดยปกติแล้วแมวพันธุ์นี้จะออกเดินทางไกลเพื่อหาอาหาร ซึ่งความไกลนั้นไกลถึง 19 กิโลเมตรกันเลยทีเดียว เป็นแมวที่หน้าตาเหมือนกับเสือมากๆ แมวพันธุ์นี้ก็มีชื่อเรียกภาษาไทยเท่ๆว่า แมวไฟ มีความสามารถพิเศษที่สามารถปรับตัวให้อยู่ได้ในทุกสภาพแวดล้อมของป่า และสามรถปีนป่ายได้อย่างคล่องแคล่ว 4.Rusty-spotted cat แมวเหมียวไซส์เล็กที่ปัจจุบันนั้นแมวพันธุ์นี้เหลือน้อยลงแต่ปัจจุบันกำลังมีตำนวนเพิ่มมากขึ้น […]

มาทำความรู้จักกับ 5 สายพันธุ์ แมวขี้อ้อน มาดูกันว่าจะมีพันธุ์ไหนบ้างนะที่ไม่เมินทาสแมว

มาทำความรู้จักกับ 5 สายพันธุ์ แมวขี้อ้อน มาดูกันว่าจะมีพันธุ์ไหนบ้างนะที่ไม่เมินทาสแมว สัตว์โลกน่าทาสหมา ทาสแมว

แมวขี้อ้อน น่ารัก ไม่ขี้เมิน ถูกใจเหล่าทาสแมว แมว ขึ้นชื่อว่าเป็นสัตว์ที่มีนิสัยเย่อหยิ่งมากในบางครั้ง ชอบเมินบรรดาทาสแมวอย่างเราๆ แต่รู้หรือไม่ว่า ก็ใช่ว่าแมวจะเป็นแบบนั้นทุกตัวไป เพราะว่าก็จะมีแมวบางสายพันธุ์ที่ขึ้นชื่อเรื่องความขี้อ้อน ทำให้บรรดาทาสแมวนี่ใจเหลวไปตามๆกัน จะมีแมวพันธุ์ไหนบ้างที่ขี้อ้อน ไปดูกัน Exotic Shorthair ถึงแม้ว่าหน้าตาของน้อง อาจจะดูเหมือนว่าเบื่อพวกทาสอย่างเราๆเต็มที หน้าเหวี่ยงอยู่ตลอดเวลา แต่รู้หรือไม่ว่าน้องก็มีลักษณะนิสัยน่ารักๆ ต้องการความสนใจจากจากเจ้าของอยู่เสมอ เจ้าแมวพันธุ์นี้เลยเรียกร้องความสนใจเก่ง ชอบอ้อน ชอบการได้รับความเอาใจใส่ เพราะฉะนั้นใครที่อยากเลี้ยงแมวสายพันธุ์นี้ต้องมีเวลาให้กับเจ้าเหมียวสี่ขาตัวนี้ด้วยนะ ไม่อย่างนั้นน้องจะออกอาการหงอยเลยทีเดียว Sphynx เจ้าแมวไร้ขนตัวนี้ ลักษณะนิสัยตรงข้ามกับภาพลักษณ์ของมันเลยก็ว่าได้ เพราะน้องเขามีนิสัยขี้อ้อนเป็นที่หนึ่งเลย ใครต่อใครที่เลี้ยงแมวสายพันธุ์นี้ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าน้องนั้นขี้อ้อนสุดๆ ชอบมาอยู่ใกล้ๆ ต้องการความรักความอบอุ่นจากเราอยู่เสมอ น่ารักมากๆเลยทีเดียวกับนิสัยของเจ้าแมวย่นพันธุ์นี้ Ragdoll แมวพันธุ์นี้เขาว่ากันว่าเป็น หมาในร่างแมว กันเลยทีเดียว เพราะว่านิสัยขี้อ้อน ชอบอยู่กับคน อยากได้รับความสนใจตลอดเวลา ไม่ต่างจากสุนัขที่รอคอยความรักจากเจ้าของเลย นอกจากรูปร่างหน้าตาที่สวยเป็นที่ดึงดูดแล้ว ลักษณะนิสัยของแมวพันธุ์นี้ก็ทำให้หลายๆคนต้องใจเหลว ใจอ่อน อยากเลี้ยงแมวพันธุ์นี้กันไปหมดเลยทีเดียว Scottish Fold จะเรียกว่าขี้อ้อนไหม ก็เรียกได้ไม่เต็มปาก แต่เรียกว่า ชอบอยู่กับคน ดีกว่าสำหรับแมวสายพันธุ์นี้ น้องเหมียวพันธุ์หากเป็นคนแปลกหน้าก็ต้องใช้เวลาในการผูกมิตรเสียหน่อย แต่รับรองว่าถ้าสนิทกันแล้ว เขาจะชอบมาอยู่ด้วยจนคุณรำคาญกันไปข้างหนึ่งเลยก็ว่าได้ […]