“Frogfish” ปลากบนักล่าแห่งท้องทะเล

“Frogfish” ปลากบนักล่าแห่งท้องทะเล

แค่เห็นชื่อปลาในหัวข้อที่ว่า “Frogfish” ใครต่อใครก็อาจจะคิดว่าเจ้าปลาชนิดนี้คือตัวเดียวกับปลาตีนที่เราเห็นตามป่าชายเลนหรือน้ำกร่อยใช่หรือไม่? ซึ่งก็อาจจะถูกแค่บางส่วนเพราะปลา Frogfish สามารถมีครีบที่เดินได้ตามพื้นดินใต้ท้องทะเลจริงแบบปลามีครีบเดินได้หรือปลาตีน เพียงแต่ว่ามันสามารถอยู่ได้แค่ในน้ำลึกและไม่สามารถอยู่ในน้ำตื้นหรือน้ำกร่อยได้ ไม่เช่นนั้นสุขภาพของมันก็อาจจะไม่แข็งแรงเท่าที่ควรด้วยภูมิคุ้มกันที่ไม่มากพอเท่าไหร่ นอกจากนี้ลักษณะตัวของเจ้าปลา Frogfish ก็ยังมีความน่าสนใจในสีสันและลำตัวที่มากกว่าพวกปลาตีนอื่นซึ่งเรามักจะเห็นลำตัวเรียวเล็ก ออกสีดำหรือสีเทาเป็นหลัก แต่สำหรับเจ้าปลากบเมื่อเราเห็นก็อาจจะตกใจในทีแรกเพราะนึกว่าเป็นปลาปักเป้าทำให้แอบกลัวแต่พอรู้ว่าไม่ใช่ก็ย่อมจะอยากเข้าไปเช็กอินกับน้องปลาสวย ๆ ชนิดนี้มากเลย เรามารู้จักกับน้องปลาสวยที่เดินได้อย่างน้องปลากบให้มากขึ้นกันดีกว่าก่อนวางแพลนไปเจอตัวจริงที่ทะเล ทำความรู้จักกับ “Frogfish” “Frogfish” หรือ “ปลากบ” เป็นปลาขนาดเล็กในตระกูล Batrachoididae ที่มีครีบหลายครีบลักษณะแฉก ๆ ดูโดดเด่นสวยงามซึ่งลวดลายมักจะเป็นสีดำและมีลำตัวเป็นสีพื้นอ่อน ๆ ในโทนอุ่นอย่างสีน้ำตาลอ่อน สีเนื้อ สีส้ม หรือสีเหลืองสามารถเปลี่ยนสีได้เมื่อนานไป ลำตัวอวบอ้วนและมักมีใบหน้าที่ดูมึน ๆ แต่เห็นอย่างนี้มันกลับเป็นปลาทะเลที่มีความแข็งแรงมากและใช้สีกับหนามที่เอาออกมาบริเวณลำตัวในการพรางเข้ากับธรรมชาติต่าง ๆ ในใต้ท้องทะเลได้เนียนมากด้วย ซึ่งเราสามารถพบปลา Frogfish ได้ในมหาสมุทร ทะเลเขตร้อน และกึ่งเขตร้อนเกือบทั้งหมดทั่วโลก ยกเว้นในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเท่านั้นที่ไม่มี การดำรงชีวิตของ “Frogfish” “Frogfish” มักอาศัยอยู่ตามพื้นมหาสมุทรรอบ ๆ แนวปะการังหรือโขดหินที่ความลึกสูงสุด 100 เมตรซึ่งไม่ห่างจากชายฝั่งมากทำให้เราสามารถพบเห็นมันเมื่อไปทำกิจกรรมดำน้ำลึกได้ และมักซ่อนตัวอยู่ตามปากกองหินแนวปะการังและพรางตัวอยู่ตามดอกไม้ทะเลโดยการผุดหนามขนาดยาวที่มีในตัวออกมาพรางให้สัตว์น้ำหรือสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ คิดว่ามันไม่ใช่ปลาในการปกป้องตัวมันจากนักล่าที่มันไม่สามารถทำอะไรได้ นอกจากซ่อนและปิดบังตัวตนเท่านั้นซึ่งนั่นหมายถึงความตาย และอีกกรณีก็เพื่อล่อให้เหยื่อว่ายมาติดกับดักใกล้ […]

“Cystisoma” เหล่าสัตว์น้ำขนาดจิ๋วราวเครือญาติกุ้งตัวใสสุดแปลก

“Cystisoma” เหล่าสัตว์น้ำขนาดจิ๋วราวเครือญาติกุ้งตัวใสสุดแปลก

ใต้ทะเลยังมีสิ่งลี้ลับให้เราได้ค้นหาอีกเยอะ มีทั้งสัตว์ทะเลที่ลำตัวแปลก สัตว์ทะเลสีสันสดใสราวกับการ์ตูนที่ไม่คิดว่าในโลกของเราจะมีจริง หรือแม้แต่สัตว์ที่มีลำตัวใสล่องลอยอยู่ในน้ำลึกจนหลายคนคิดว่าเป็นวิญญาณ! ก็ยังมีนะจะบอกให้ ซึ่งก่อนหน้านี้เราเคยพูดถึงปลาที่มีลำตัวใสจนเห็นก้างมาแล้ว ในวันนี้เองก็ยังมีสัตว์ตัวใสที่แปลกกว่าปลาที่เคยมาแนะนำอีกนะ และไม่ได้มีน้อยด้วยในทะเล แต่มันมีมากกว่าที่คุณคิดจนต้องเรียกโดยรวมว่า “พวกสัตว์น้ำประเภท Cystisoma” ซึ่งมีลักษณะคล้ายกุ้ง กั้ง ปูที่เราเห็นตามทะเลในชีวิตประจำวันมากจนอาจทำให้คิดว่าหากไม่เป็นวิญญาณสัตว์ทะเลก็ต้องเป็นกุ้ง กั้ง ปูสายพันธุ์ใหม่ที่น่าตื่นตาตื่นใจแน่นอน ซึ่งความจริงแล้วมันมีความแตกต่างกันมาก แต่จะแตกต่างกันอย่างไร? แล้วทำไมเราถึงไม่ค่อยพบกับพวกสัตว์ใส ๆ อย่าง Cystisoma ออกมาให้เห็นเลย? มันมีชีวิตอย่างไรกันแน่? เราจะมาอธิบายกัน ทำความรู้จักกับ “Cystisoma” “Cystisoma” เป็นสัตว์น้ำขนาดเล็กมากแอมฟิพอดในกลุ่ม Hyperid ซึ่งจัดอยู่ในสัตว์กุ้ง กั้ง ปู แต่มันก็ไม่ถือว่าเป็นชนิดเดียวกับสัตว์ทั้งสามชนิดเพราะมีคุณสมบัติและลักษณะตัวที่หากมองดูใกล้ ๆ จะเห็นถึงความแตกต่างของลำตัวที่นอกจากจะโปร่งแสงเมื่ออยู่ในน้ำลึกจนกลายเป็นสัตว์ตัวใสได้แล้วก็ยังมีดวงตาลักษณะยาวใหญ่โตมากถึง 1 ใน 3 ของความยาวลำตัวพวกมันที่ขนาด 7 นิ้วด้วย ไม่ได้ตากลมเหมือนกุ้ง กั้ง และปู และยิ่งมืดเราก็ยิ่งเห็นเซลล์รวมถึงตาที่อยู่ภายในร่างกายพวก Cystisoma ที่เปล่งแสงประกายสีแดงส้มออกมาได้ชัดเจนยิ่งขึ้นทำให้ดูเหมือนสัตว์วิเศษที่ค้นพบได้ยากภายใต้ระดับความลึก 2,500 เมตรของมหาสมุทรทุกแห่งบนโลกของเรา การดำรงชีวิตของ “Cystisoma” “Cystisoma” มักอาศัยอยู่ในส่วนที่มืดของมหาสมุทร โดยเวลาที่ออกมาหาอาหาร […]

“หนอนมองโกเลีย” กรดเดือดมรณะ ไส้เดือนยักษ์สุดอันตราย

“หนอนมองโกเลีย” กรดเดือดมรณะ ไส้เดือนยักษ์สุดอันตราย

หากคุณเคยดูภาพยนตร์แนวผจญภัยเอาชีวิตรอดแบบแฟนตาซีในป่าหรือในโลกยุคดึกดำบรรพ์ก็คงจะมีภาพคุ้นตากับเจ้าหนอนยักษ์ชนิดหนึ่งที่มีลักษณะเหมือนงูอนาคอนดา แต่ไม่มีตา มีแต่ปากที่อ้าแล้วเห็นฟันแหลมคมอยู่ทั่วทุกพื้นที่ด้านนอกซึ่งมองแล้วน่าขนลุกจนตัวเอกของเราต้องวิ่งหนีไม่ให้มันเลื้อยตามมาเขมือบทันได้ คุณอาจจะหัวเราะและมองว่ามันเป็นแค่เรื่องราวหลอกเด็กให้โลกเราดูมีความน่าตื่นเต้นไปวัน ๆ แต่ในความจริงแล้วรู้หรือไม่ว่าเรื่องที่คุณกำลังตลกอยู่นั้นมันคือเรื่องจริง หนอนยักษ์ที่มีแต่ปากกับฟันมากมายที่สามารถฆ่าเหยื่อไม่ให้เหลือซากมีจริงในโลกของเรา! มันถูกเรียกว่า “หนอนมองโกเลีย” แม้ตัวมันจริง ๆ จะไม่ได้ใหญ่ยักษ์เหมือนในภาพยนตร์และมนุษย์ก็ตัวใหญ่กว่ามันเสียอีก แต่สำหรับสัตว์อื่นแล้ว มันก็ยังน่ากลัวและตัวใหญ่จนไม่มีใครกล้าเข้าใกล้เจ้าหนอนนี้อยู่ดี เรื่องราวของเจ้าหนอนมองโกเลียตัวจริงกับหนอนมองโกเลียในภายนตร์จะน่าค้นหาแตกต่างกันอย่างไรมาอ่านกันเลย ทำความรู้จักกับ “หนอนมองโกเลีย” “หนอนมองโกเลีย” หรือชื่อเรียกสุดน่ากลัวที่ชาวถิ่นเรียกกันส่วนใหญ่ว่า “Mongolian Death Worm” บ้างก็เรียกว่า ” Allghoi ” เป็นหนอนที่มีลักษณะหัวเหมือนตะขาบ มีหนวด ไร้ตา ส่วนหัวใหญ่มีแต่ปากที่อ้าเป็นวงกลมเห็นฟันแหลมคมเล็ก ๆ ที่พร้อมเขมือบสิ่งมีชีวิตที่เล็กกว่ามันได้ทุกวินาที อีกทั้งด้วยลำตัวสีแดงที่ยาว 0.6 – 1.5 เมตร และร่างกายแข็งแรงทำให้มันสามารถเลื้อยไล่ล่าสัตว์ได้อย่างรวดเร็วไม่ต่างจากงู ในอดีตมีชาวบ้านในแถบทะเลทรายโกบีที่พบเห็นมันและเล่าขานถึงลักษณะที่น่ากลัวจนหนอนมองโกเลียถูกนำไปจัดอยู่ในหมวดหมู่สัตว์ประหลาดในตำนาน การดำรงชีวิตของ “หนอนมองโกเลีย” “หนอนมองโกเลีย” มักชอบอยู่อาศัยใต้ผืนทะเลทรายเพื่อซ่อนและอำพรางตัวจากสัตว์ที่ใหญ่กว่าและเป็นนักพุ่งจู่โจมจากใต้ดินแบบเงียบ ๆ น่ากลัวและฉลาดใช่ย่อย โดยหนอนมองโกเลียมีความสามารถพิเศษในการพ่นพิษกรดกำมะถันสีเหลืองและกระแสไฟฟ้าใส่เหยื่อผ่านปากทำให้เหยื่อแสบร้อนและชาไร้เรี่ยวแรงจนหมดลมหายใจในที่สุดทันทีที่กระโจนขึ้นมาจากใต้ผืนทรายก่อนจะกัดกินเหยื่ออย่างรวดเร็ว แต่หากสัตว์เลือดอุ่นที่มีขนาดใหญ่เดินตามแถบที่อยู่อาศัยบางครั้งพวกมันก็จะทำตัวคล้ายปรสิตโดยการเข้าไปอาศัยอยู่ในลำไส้ของพวกวัวควาย และฤดูที่พวกมันมักจะออกมาให้เห็นกันมากจะเป็นฤดูฝน แต่ปัจจุบันก็ยังไม่เคยมีใครได้เห็นหนอนมองโกเลียเต็มตาเสียที ถือเป็นสัตว์หายากมากในปัจจุบัน อาหารสุดโปรดของ “หนอนมองโกเลีย” “หนอนมองโกเลีย” มีอาหารสุดโปรดที่พวกมันชอบกันมาก คือ […]

“หนอนผีเสื้อ Calleta Silkmoth” สัตว์สวยมีหนามแห่งอเมริกา

“หนอนผีเสื้อ Calleta Silkmoth” สัตว์สวยมีหนามแห่งอเมริกา

กลับมาพบกับช่วงเวลาอันแสนพิเศษของหนอนที่มีความสวยน่ารักอีกแล้วสำหรับวันนี้เราก็ได้ถือโอกาสมาแนะนำหนอนของทวีปอเมริกาที่แม้จะไม่ใช่หนอนที่สวยที่สุด แต่ก็มีคุณสมบัติพิเศษมากมายบนลำตัวที่น่าดึงดูดใจชวนให้อยากมองอย่างน่าอัศจรรย์ ซึ่งหนอนผีเสื้อที่เราจะมาแนะนำนี้ก็คือ  “หนอนผีเสื้อ Calleta Silkmoth” ที่เป็นหนอนผีเสื้อสวยอยู่ในประเภทของมอดสีรุ้งที่มีความงดงามมากที่สุดอีกสายพันธุ์หนึ่งในอเมริกาด้วย ซึ่งบทความก่อนเราก็ได้มาแนะนำหนอนผีเสื้อสวย ๆ ไปแล้ว เลยถือโอกาสแนะนำตัวอ่อนผีเสื้อบ้างดีกว่า เพราะผีเสื้อพันธุ์นี้แค่ตอนที่เป็นหนอนก็ฉายแววความสวยมาตั้งแต่แรกเริ่ม ซึ่งจะเป็นความงดงามในลักษณะใดแล้วน่ารู้จักกับชีวิตตอนเป็นหนอนผีเสื้อของ  Calleta Silkmoth แค่ไหนก็ต้องมาอ่านกันในบทความนี้เลยดีกว่า บางทีอาจจะทำให้การมาเที่ยวป่าทางแถบอเมริกาของคุณน่าตื่นเต้นกว่าที่คิดไว้มากเลยก็ได้ ทำความรู้จักกับ “หนอนผีเสื้อ Calleta Silkmoth” “หนอนผีเสื้อ Calleta Silkmoth” เป็นหนอนตัวเล็ก ๆ ที่โตมาจะกลายเป็นผีเสื้อกลางคืน Calleta Silkmoth ลำตัวป้อมมีหลากหลายสีตั้งแต่สีเหลือง สีเขียว สีเนื้อ และมีสองสีตัดกับลายของมันที่เป็นสีดำ มีหนามอ่อน ๆ ตามลำตัวทั่วทำให้หากคนไทยอย่างเรามองแล้วอาจตกใจคิดว่าเป็นตัวบุ้งได้ เพียงแค่มันจะมีความโดดเด่นของตัวที่นูนโป่งเป็นจุดสีสันเข้มตัดกับสีตัวบริเวณที่ขนหนามอ่อนโผล่ทำให้คล้ายกับสัตว์ตัวปล้องน่าสนใจและสวยงามมาก คุณสามารถพบมันได้ทางแถบตะวันตกเฉียงใต้ของอเมริกา การดำรงชีวิตของ “หนอนผีเสื้อ Calleta Silkmoth” “หนอนผีเสื้อ Calleta Silkmoth” มักจะชอบอาศัยอยู่ตามก้านใบไม้สีเขียวและใบไม้ใหญ่ที่ใบเฉียงเพราะจะทำให้มันสามารถพรางตัวจากนักล่าได้เป็นอย่างดี บางครั้งคุณอาจจะเจอมันอยู่ตามบ้านของคุณก็ได้หากบ้านของคุณอยู่ในตะวันตกเฉียงใต้ของอเมริกาตามชานเมืองขนาดเล็กที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยแหล่งน้ำและป่าไม้ที่มีอากาศบริสุทธิ์ มันเลือกที่จะอพยพมาอยู่ใกล้คนหากเกิดเหตุฉุกเฉิน ดีกว่าการที่จะอยู่ในจุดที่ป่าไม้น้อยและต้องเจอกับแมลงนักล่า อาหารสุดโปรดของ “หนอนผีเสื้อ Calleta Silkmoth” “หนอนผีเสื้อ Calleta […]

“หนอนบรูดแซคแถบเขียว” ปรสิตผู้สิงสู่หอยทาก

“หนอนบรูดแซคแถบเขียว” ปรสิตผู้สิงสู่หอยทาก

คุณอาจจะเคยเห็นซอมบี้ในร่างมนุษย์มาแล้วหลายต่อหลายครั้งทั้งในชีวิตจริงที่เกิดจากยาซอมบี้ซึ่งทำให้คนที่ได้รับไม่มีสติและเกิดความคลั่งกับในหนังต่างประเทศมากมายที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสจนแม้แต่คนที่รักก็ยังถูกกัดจนกลายเป็นซอมบี้ได้ แต่สำหรับในวันนี้เราจะพาทุกคนมาดูซอมบี้ในร่างของสัตว์กันบ้างซึ่งในชีวิตจริงบอกเลยว่าน่าระทึกไม่แพ้ในหนังที่ดู แถมยังมีความน่าพิศวงด้วย เพราะสัตว์ซอมบี้ที่กำลังเป็นที่น่าจับตามองอยู่ตอนนี้ก็คือ “หนอนบรูดแซคแถบเขียว” สัตว์ที่ได้ชื่อว่าเป็นปรสิตสุดลึกลับที่เข้ามาสิงสู่หอยทากธรรมดาที่ทำให้ไม่ต่างจากผีดิบนั่นเอง แต่เจ้าสัตว์ซอมบี้ตัวนี้จะมีความน่าพิศวงให้เราได้ค้นหาอย่างไรบ้าง แล้วมันมีที่มาที่ไปกับความเป็นอยู่อย่างไร อันตรายต่อเราหรือไม่มาอ่านกันในบทความนี้ได้เลย! ทำความรู้จักกับ “หนอนบรูดแซคแถบเขียว” “หนอนบรูดแซคแถบเขียว” หรือ “The Green-Banded Broodsac” เป็นหนอนตัวแบนท้องถิ่นของทวีปยุโรปและอเมริกาเหนือชนิดหนึ่ง มักจะอยู่ตามป่าเขาและไร่สวนอากาศหนาวเย็น มีใสออกสีน้ำตาลอ่อน ๆ และบริเวณศีรษะจะเป็นสีเขียวใบไม้อ่อน โดยปกติหนอนบรูดแซคแถบเขียวอาศัยอยู่ภายในทางเดินอาหารของนก คอยดูดซับสารอาหารของนกอยู่อย่างเงียบเชียบในแบบที่อีกฝ่ายได้ประโยชน์ – อีกฝ่ายเสียประโยชน์ แต่มันก็ต้องการสารอาหารแค่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น และสำหรับคนมันก็ไม่ทำร้ายใครใด ๆ ด้วยถือเป็นนักล่าที่มันเองก็หวาดกลัว แต่กับหอยทากทั่วไป มันก็ไม่ต่างกับมัจจุราชที่ทำให้เหยื่อหลงกลกินไข่ของมันก่อนจะทำการปล่อยลงมาพร้อมมูลนกจนชีวิตเข้าหาความตายในที่สุดเมื่อไข่ของหนอนบรูดแซคแถบเขียวฟักตัวในท้องและได้เข้าไปมีผลต่ออวัยวะกับเซลล์ต่าง ๆ ของทากตัวนั้นที่เปลี่ยนไปจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของทากไปเลย การดำรงชีวิตของ “หนอนบรูดแซคแถบเขียว” “หนอนบรูดแซคแถบเขียว” เมื่อลูกหนอนบรูดแซคแถบเขียวออกมาจากไข่ก็จะเติบโตและกลายเป็นส่วนหนึ่งของทากอย่างสมบูรณ์จนเรียกได้ว่าทำให้มุมมองกับการดำรงชีวิตของทากเปลี่ยนไป มีแต่ตัว ทว่าใจและจิตสำนึกเป็นของหนอนตัวนี้ไปเสียแล้ว อย่างที่เราสังเกตได้ง่าย ๆ ว่า ทากส่วนใหญ่มักจะหลบซ่อนตัวจากสิ่งมีชีวิตและอยู่ในที่อับชื้น หากแต่เมื่อใดที่คุณเห็นมันอยู่บนยอดกิ่งไม้และเผชิญหน้ากับแสงแดดได้นั่นหมายความว่า ทากตัวนั้นถูกหนอนบรูดแซคแถบเขียวสิงสู่แล้วเป็นที่เรียบร้อย เพราะหนอนบรูดแซคแถบเขียวจะทำให้ทากสูญเสียการรับแสงไปและมีลำตัวที่อ้วนหนามากกว่าทากปกติจึงต้องการแสงแดดกลางแจ้งมาก แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะเก่งกาจ ตรงกันข้ามก็ไม่แตกต่างจากกรรมที่มันทำไว้กับทากเจ้าของร่างที่มันอาจได้ใช้ร่างผู้อื่นแล้วก็จริง แต่สุดท้ายเมื่อมีข้อจำกัดต้องใช้ชีวิตอยู่ในที่แจ้งส่วนใหญ่ร่างนั้นก็จะถูกนกโฉบไปกินเป็นอาหารจนจบวงจรชีวิตของทั้งเจ้าทากและหนอนบรูดแซคแถบเขียวอยู่ดี ทว่าแม้ตัวมันจะตาย แต่มันก็ยังมีการขยายพันธุ์หนอนบรูดแซคแถบเขียวตัวอื่น ๆ อยู่ในท้องของเจ้านกตัวนั้นได้ นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเรามักพบปรสิตตัวนี้อาศัยในท้องนกเยอะ และวนลูปวัฏจักรอาหารอยู่แบบนี้จนกว่าจะถึงวันโลกดับ […]

“อินทรีทะเลแอฟริกา” นกผู้สง่างามสืบทอดเชื้อสายโบราณ

“อินทรีทะเลแอฟริกา” นกผู้สง่างามสืบทอดเชื้อสายโบราณ

แม้ว่าโลกของเราจะมีนกอินทรีอยู่ทั่วไปในโลกจนแทบไม่เป็นที่น่าแปลกใจเวลามองเห็นเท่าไหร่ แต่ไม่ว่าใครเมื่อเห็นนกอินทรีตัวจริงก็ย่อมต้องเกิดอาการใจเต้นด้วยความตื่นเต้นกันไปหมดทุกครั้ง ด้วยนกอินทรีย์นั้นเป็นนกที่มีสีสันสวยงามของขนคอสีขาวและตัวกับปีกส่วนล่างที่เป็นสีน้ำตาลสวยงาม ดวงตาคมกริบราวกับกริชที่เงางาม และมีจงอยปากที่โค้งแหลมลงมาสวยงาม เวลากางปีกที่นี่ดูสง่างามราวกับเทพที่ปกครองโลกเหนือพื้นพิภพอย่างใดอย่างนั้นเลย ยิ่งเป็น “อินทรีทะเลแอฟริกา” ด้วยแล้วล่ะก็ถือเป็นต้นกำเนิดความงดงามของอินทรีในตำนานหรือนิทานพื้นบ้านหลายต่อหลายเรื่องที่เล่าขานกันมาซึ่งใครต่อใครก็นึกว่าอยู่ในแดนยุโรปแต่ที่จริงคือ “ทวีปแอฟริกา”นี่เอง เมื่อรู้เช่นนี้แล้ววันนี้ทำไมเราไม่ลองมารู้ลึกถึงเรื่องราวที่น่าค้นหาของอินทรีทะเลแอฟริกากันให้มากขึ้นล่ะ แล้วคุณจะรู้สึกว่าโลกของมันช่างยิ่งใหญ่สมกับที่ถูกเล่าขานจริง ทำความรู้จักกับ “อินทรีทะเลแอฟริกา” “อินทรีทะเลแอฟริกา” เป็นนกอินทรีในตระกูล Haliaeetus ที่จัดอยู่ในหนึ่งชนิดของอินทรีทะเลที่มีการกระจายพันธุ์ออกย่อยถึง 8 ชนิด ได้แก่ นกออก, อินทรีทะเลแซนฟอร์ด, อินทรีกินปลาแอฟริกา, อินทรีกินปลามาดากัสการ์, อินทรีทะเลหัวนวล, อินทรีหางขาว, อินทรีหัวขาว และอินทรีทะเลสเตลเลอร์ ซึ่งน้ำหนักของอินทรีทะเลแอฟริกาจะมีตั้งแต่ 2 กิโลกรัมจนถึง 3.6 กิโลกรัมเลย แต่ความพิเศษของอินทรีทะเลแอฟริกานั้นคือชาวโลกเชื่อว่า มันคือลูกหลานโดยตรงในเชื้อสายของอินทรีทะเลโบราณยุคดึกดำบรรพ์ที่มีวิถีชีวิตและลักษณะลำตัวพิเศษบางส่วนที่เหมือนกัน และมีความพิเศษของกรงเล็บที่ทรงพลังในการกำจัดเหยื่อที่มีผิวลื่นจนถึงเหยื่อที่มีน้ำหนักมากได้ ด้วยความกล้าหาญมันจึงกลายเป็นนกประจำชาติของนามิเบีย, แซมเบีย และซิมบับเวด้วย การดำรงชีวิตของ “อินทรีทะเลแอฟริกา” “อินทรีทะเลแอฟริกา” มักชอบใช้ชีวิตอยู่ตามต้นไม้บริเวณชายฝั่งทะเลที่สูงหรือตามแนวหินผาเพราะลักษณะนิสัยของอินทรีทะเลแอฟริกาจะชอบอยู่กับพื้นที่ลมเข้าได้ตลอดและช่วยให้มันรู้สึกมีพลังในการดำเนินชีวิตได้ดี แต่เมื่อใดที่หิว อินทรีทะเลแอฟริกาก็จะบินออกไปนอกชายฝั่งเหนือผืนทะเลและเมื่อสายตาอันยาวและว่องไวของมันเห็นปลาที่อยู่ใกล้ผิวน้ำก็จะบินดิ่งไปโฉบด้วยกรงเล็บอย่างรวดเร็วและจับกินทันที แต่หากเป็นปลาที่มีน้ำหนักมากก็จะพาขึ้นกลับไปยังชายฝั่งและเอาไว้บนต้นไม้ให้เหยื่อค่อย ๆ อ่อนแรงหนีแล้วจึงกินภายหลัง นอกจากนี้หากมันเห็นว่ามีนกตัวใดอยู่ใกล้เคียง อินทรีทะเลแอฟริกาก็สามารถบินไปไล่ล่าจับกินได้เช่นเดียวกัน อาหารสุดโปรดของ “อินทรีทะเลแอฟริกา” “อินทรีทะเลแอฟริกา” มีอาหารสุดโปรดที่พวกมันชื่นชอบ […]

“Royal Flycatcher” นกจิ๋วจับแมลงที่มีผมดุจราชินีผู้งดงาม

“Royal Flycatcher” นกจิ๋วจับแมลงที่มีผมดุจราชินีผู้งดงาม

เวลาที่คุณวางแพลนจะเดินไปชมโซนนกในสวนสัตว์ คุณคิดว่าจะเดินไปดูนกชนิดใดก่อนดี? แน่นอนว่าใคร ๆ ต่างก็ต้องบอกเหมือนกันว่า “ฉันจะเดินไปดูนกยูง” นั่นก็เพราะหากให้เทียบกับนกตัวอื่นที่แม้จะเป็นนกแปลกหรือนกจากต่างแดน แต่เราก็มักจะเห็นว่านกยูงคือราชินีของหมู่มวลนกทุกชนิดในสวนสัตว์กันแทบทุกแห่ง เวลาที่นกตัวนี้รำแพนหางกางออกมาก็จะดูสวยงามโดดเด่นราวกับมีใครเอาพัดที่แต่งแต้มไปด้วยลวดลายศิลปะมาไว้บนหางของมันเลย หากพูดถึงนกที่มีการรำแพนขนในส่วนของร่างกายที่สวยก็น่าจะมีแค่นกยูงเท่านั้น แต่ความจริงแล้วโลกของเรายังมีนกอีกหลายชนิดที่สามารถรำแพนขนตามส่วนเฉพาะของร่างกายได้งดงามมีเอกลักษณ์โดดเด่นแตกต่างกัน ไม่ใช่แค่เพียงนกยูงเท่านั้น ซึ่งวันนี้เราก็ถือโอกาสนำนกอีกชนิดหนึ่งที่มีขนส่วนของผมที่สวยงามไม่แพ้นกยูงเลยแม้จะตัวเล็กกว่าหลายเท่า คือ “นก Royal Flycatcher” ทำความรู้จักกับ “นก Royal Flycatcher” “นก Royal Flycatcher” เป็นนกจับแมลงสีน้ำตาลขนาดเล็กประมาณ 16 เซนติเมตร อยู่ในสกุลของ Onychorhynchus พบได้ในป่าดิบชื้นของทวีปอเมริกาใต้ โดยส่วนใหญ่จะอยู่ทางเวเนซุเอลา โคลัมเบีย เอกวาดอร์ เปรู โบลิเวีย บราซิล กาอานา และซูรีนามซึ่งมีสภาพแวดล้อมธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ มีความโดดเด่นที่ทำให้นักเดินป่าต่างก็ต้องหลงใหล คือ ขนบนหัวที่แผ่ออกมาคล้ายหางนกยูงที่รำแพนกว้างใหญ่ลักษณะโค้งคล้ายพัดสีส้มแดงซึ่งอลังการมากหากเทียบกับขนาดตัวมัน แต่บางตัวก็มีสีเหลืองสดใสตามแต่เพศของมันซึ่งอาจเรียกมันว่า “ผมที่แสนงดงาม”ก็ได้ ซึ่งนก Royal Flycatcher ก็ได้ใช้สีสันอันสดใสของขนรำแพนพิเศษในการดึงดูดเพศตรงข้ามในฤดูผสมพันธุ์ซึ่งจะมีการเข้าใกล้กันเป็นพิเศษ และชูมากกว่าฤดูกาลอื่น ทำให้ขนบนหัวที่โดดเด่นของมันถูกนำมาเป็นแนวคิดสร้างสรรค์ออกแบบศิลปะของเครื่องประดับแฟชั่นประดับศีรษะแบบไฮโซมากมายตั้งแต่อดีตจนถึงตอนนี้ จนนก Royal Flycatcher ได้ฉายาว่า “นกราชินีแห่งแฟชั่น” การดำรงชีวิตของ […]

“Resplendent Quetzal” นกสวยที่ราวกับหลุดออกมาจากเทพนิยายจีน

“Resplendent Quetzal” นกสวยที่ราวกับหลุดออกมาจากเทพนิยายจีน

หากย้อนไปถึงสมัยก่อนที่จักรพรรดิจีนเรืองอำนาจมาก ผู้คนจากดินแดนใดก็ย่อมมีความเกรงกลัวต่อบารมีของจักรพรรดิจีนทุกพระองค์ที่แม้ว่าจะมีการรุกรานบ่อยครั้งก็ยังวางแผนได้ดีจนชนะมามากและยังเป็นนักปกครองที่ดีด้วย แต่แน่นอนว่ายิ่งจักรพรรดิทุกพระองค์มีพระราชกรณียกิจเยอะมากแค่ไหนก็ยิ่งทำให้รู้สึกไม่ต่างจากการอยู่ภายใต้การแบกรับความกดดันของหลายชีวิตที่ขึ้นอยู่กับตัวเองเพียงคนเดียวเช่นกัน กิจกรรมยางว่างของจักรพรรดิจีนโดยหลักจึงมีอยู่ 2 กิจกรรม คือ หากไม่นั่งจิบชาในสวนกับพระมเหสี พระสนม คนในราชวงศ์ หรือขุนนางที่ใกล้ชิดสนิทสนมกับตัวเองก็มักจะไปชมนกที่เลี้ยงเสมอ เพราะเสียงของนกไม่ต่างจากเสียงดนตรีที่ทำให้ใจสบายและเหมือนมีเพื่อนที่ไม่มีพิษมีภัยอยู่ข้างกายตลอดเวลา จึงไม่แปลกที่ “นก”จะกลายเป็นสัตว์ที่ใคร ๆ ต่างก็ต้องการนำมาถวายแก่จักรพรรดิและนกแต่ละชนิดก็มักจะเป็นนกหายากสวยงามหรือมีราคาสูง ซึ่งหนึ่งในนกที่เราเคยเห็นกันตามในหนังจีนที่เกี่ยวกับราชวงศ์หรือในเทพนิยายจีนที่วาดกันออกมาก็มีนกตัวหนึ่งที่งดงามดุจฑูตจากสวรรค์ มีหางพลิ้วงามราวกับชายกระโปรงของหญิงสาวที่มีเสน่ห์ลึกลับด้วย คุณอาจคิดว่ามันไม่มีจริง แต่โลกเรานั้นกลับมีนกนี้จริง ๆ ทุกคนเรียกกันว่า “นก Resplendent Quetzal” ทำความรู้จักกับ “นก Resplendent Quetzal” “นก Resplendent Quetzal” เป็นนกขนาดเล็กในวงศ์โทรกอน อาศัยอยู่ตามป่าเขตร้อนบนเขาสูงตามแถบอเมริกากลางและเชียปัส ประเทศเม็กซิโก มีลักษณะลำตัวยาว 36 – 40 เซนติเมตร ขนของนกชนิดนี้ส่วนใหญ่แล้วเป็นสีเขียว แต่บางตัวก็ออกสีเขียวทอง สีน้ำเงิน สีม่วงก็มี และความโดดเด่นที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือขนหางของนก Resplendent Quetzal ยังมีความยาวมากถึง 86 เซนติเมตรเลยด้วยจึงมีความแปลกแหวกแนวจากนกชนิดอื่น ๆ จนไม่ใช่เพียงแค่ในตำนานจีนที่บอกเล่าภาพสวยของนกรูปร่างนี้ แต่ชาวกัวเตมาลายังยกย่องให้นก Resplendent Quetzal […]

“มดบูลด็อก” มดเลือดร้อนที่ล้มสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ได้เพียงแค่ไม่กี่นาที

“มดบูลด็อก” มดเลือดร้อนที่ล้มสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ได้เพียงแค่ไม่กี่นาที

“ผู้ที่แข็งแกร่งกว่าย่อมได้เปรียบผู้ที่อ่อนแอกว่า” คำคำนี้ไม่ได้จำกัดว่าจะต้องใช้กับสิ่งมีชีวิตที่ใหญ่กว่าสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กเท่านั้น เพราะในโลกของเรานี้ยังมีคนหลายคนที่แม้จะตัวเล็กกว่าคนที่มีร่างใหญ่แต่หากเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้มาก็ยังสามารถล้มเขาได้ เช่นเดียวกันกับสัตว์ที่บางชนิดแม้จะตัวเล็กมากแต่ทักษะและคุณสมบัติที่ติดตัวมันมาบางทีอาจจะเป็นเพชฌฆาตที่สังหารสัตว์ขนาดใหญ่ได้เพียงไม่กี่นาทีเลย อย่างที่ไม่คาดคิดมาก่อน ซึ่งสัตว์ตัวเล็กที่แข็งแกร่งและอันตรายกับสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่จนน่าตกใจมากที่สุดอีกชนิดหนึ่งของโลกก็คือ “มดบูลด็อก” มดที่สามารถทำให้สิ่งมีชีวิตบาดเจ็บจนถึงแก่ความตายได้ภายในเวลาไม่นานเลย แม้จะตัวจิ๋วก็ตาม แค่ได้ยินแบบนี้ก็ขนลุกจนอยากรู้แล้วว่ามันมีความพิเศษอะไรที่ทำให้กลายเป็นเพชฌฆาตเงียบได้ ต้องมาอ่านกันในบทความนี้เลย ทำความรู้จักกับ “มดบูลด็อก” “มดบูลด็อก” เป็นมดสีน้ำตาลแดงเข้มดาร์ก ๆ บ้างก็มีสีน้ำตาลปนดำอยู่ในมดตระกูล Myrmecia มีขนาดตัวที่ใหญ่โต ตั้งแต่ 14 ถึง 23 มิลลิเมตร กระจายพันธุ์อยู่ในออสเตรเลีย พบมากสุดในรัฐทางตะวันออกของออสเตรเลียจำนวนมาก ความโดดเด่นภายนอกที่น่ากลัวของมัน คือ ขากรรไกรแข็งแรงที่มีความกว้างยาว กัดได้เจ็บปวดเกินบรรยายและเมื่อกัดใครแล้วมันก็จะใช้เหล็กในพุ่งเข้าจู่โจมเนื้อของผู้นั้นอย่างรวดเร็วหลายต่อหลายครั้ง จนอีกฝ่ายยังไม่รู้ตัวเลย อีกทั้งพิษจากเหล็กในของมดบูลด็อกก็รุนแรงมากจนสามารถจัดการกับคนคนหนึ่งหรือสัตว์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเล็กและใหญ่ได้ภายใน 15 นาทีเท่านั้น พิษจะแล่นตามร่างกายจนเสียชีวิตได้ ค่อนข้างมีนิสัยดุร้าย มองแต่ความปลอดภัยของตัวเอง และคิดว่าทุกสิ่งมีชีวิตคือศัตรูของมันจึงไม่ควรอยู่ใกล้มากหากเจอ แม้แต่กับผึ้งหรือแตนที่มีพิษแรง มดบูลด็อกก็สามารถจัดการได้จนเหลือแต่กระดูกเลย การดำรงชีวิตของ “มดบูลด็อก” “มดบูลด็อก” มักจะอยู่อาศัยตามชั้นใต้ดินของจอมปลวกเพื่อหลบหนีจากอากาศที่แห้งแล้งของออสเตรเลียภายนอกมาอยู่ในพื้นที่มีความชื้นของดินและความเย็นสบายที่เต็มไปด้วยแร่ธาตุอาหารอุดมสมบูรณ์ช่วยเสริมร่างกายตัวอ่อนของมันได้เป็นอย่างดี และมักจะพบเจอแมลงจำนวนมากซึ่งมันสามารถจับแมลงเป็นเหยื่อและกักตุนให้ลูกของมันได้ และมักจะออกหาอาหารในช่วงกลางวันตามป่าไม้ และตามบ้านเรือนใกล้สวนป่าที่มีแมลงหรือกลิ่นน้ำหวาน ซึ่งหากพบว่ามีสิ่งมีชีวิตใดทำท่าจะคุกคามหรือเข้ามาใกล้เกินไป มันก็จะส่งสัญญาณลับไปให้ฝูงมดบูลด็อกที่อยู่ไม่ห่างกันรีบพุ่งเข้ามาจู่โจมสิ่งมีชีวิตนั้นพร้อมกันในทันทีอย่างน่าตกใจก่อนจะรีบหนีกลับไปหาลูกมันที่รัง อาหารสุดโปรดของ “มดบูลด็อก” “มดบูลด็อก” หากเป็นลูกตัวอ่อนของมันก็จะให้กินแมลงที่มีขนาดเล็ก แต่หากเป็นมดบูลด็อกที่ตัวโตแล้วก็จะออกมาหาอาหารบนพื้นดินและตามต้นไม้ […]

“Brittle Star” ปลาดาวหนวดยาวสุดแปลก

“Brittle Star” ปลาดาวหนวดยาวสุดแปลก

หลายคนน่าจะเคยพบเห็นปลาดาวกันมานักต่อนักแล้วตามชายหาดหรือเวลาที่เราไปดำน้ำกันก็จะพบเห็นสิ่งมีชีวิตลักษณะมีหนวด 5 แฉกที่สีสันแตกต่างกันไปเช่นเดียวกับลวดลายที่มีความขรุขระทำให้มีเอกลักษณ์งดงามเป็นของตัวเองเป็นหนึ่งในสิ่งที่ทำให้ท้องทะเลสวยงามมาก แต่หากจะพูดถึงปลาดาวที่มีหนวดยาวมากจนเกินความยาวของนิ้วมนุษย์ใคร ๆ ก็อาจจะขำขันตลกเฮฮาได้ด้วยเพราะพวกเขาไม่เคยเห็นปลาดาวประเภทนี้เลย เท่าที่เคยเจอมาแม้ปลาดาวจะมีหนวดใหญ่ก็จริง แต่หนวดของพวกมันก็จะหนาและสั้นแบบดาว ไม่ใช่ปลาหมึกสักหน่อย แต่หากคุณได้รู้จักกับ “Brittle Star” ปลาดาวหนวดยาวสุดแปลกก็อาจจะสงสัยว่าสรุปมันคือปลาดาวจริงหรือมันคือปลาหมึกกันแน่ วันนี้เราจะมาแนะนำโลกของเจ้าปลาดาว Brittle Star ให้คุณได้รู้จักกันว่าทำไมมันจึงมีความแตกต่างจากปลาดาวทั่วไป? แล้วชีวิตของมันจะเข้ากับปลาดาวอื่น ๆ ได้ไหม หรือต้องเหงาอยู่ตัวเดียว? ทำความรู้จักกับปลาดาว “Brittle Star” ปลาดาว “Brittle Star” หรือ “Ophiuroids” เป็นปลาดาวเปราะประเภทในไฟลัมเอไคโนเดอร์มาตาที่กำเนิดมาตั้งแต่ห้าร้อยล้านปีก่อนแล้ว ถือว่าเป็นสัตว์น้ำดึกดำบรรพ์ชนิดหนึ่งซึ่งมีหนวด 5 แฉกยาวคล้ายงูขนาด 60 เซนติเมตรและบริเวณหนวดก็ยังมีขนมากมายคล้ายหนามล้อมรอบด้วย เพื่อใช้คลานไปตามท้องทะเล ซึ่งด้วยความยาวนี้เองทำให้มันสามารถยกตัวคลานได้ไกลและเร็วกว่าปลาดาวทั่วไปที่เราเคยเห็นกันมา เราสามารถพบปลาดาว Brittle St ได้ตามทะเลเขตร้อนและมหาสมุทรแถบขั้วโลกได้ทั่วไปในความลึกระดับ 200 เมตร แต่ด้วยความที่มันไม่ค่อยชอบออกมาให้คนเห็น โดยซ่อนตัวตามโขดหิน แนวปะการังใต้ทะเล และมีตัวที่เล็กแต่ขายาวจึงพรางตาผู้คนให้นึกว่าเป็นหินหรือพืชที่งอกมีรากติดตามพื้นทะเลได้ การดำรงชีวิตของปลาดาว “Brittle Star” แม้ปลาดาว “Brittle Star” จะสามารถมีชีวิตอยู่ได้เพียง 5 […]

“Albino Sea Turtle” เต่าทะเลเผือกหายากของแดนจิงโจ้

“Albino Sea Turtle” เต่าทะเลเผือกหายากของแดนจิงโจ้

หากจะพูดถึงทวีปหนึ่งที่ไม่ได้ใหญ่มาก มีสภาพเป็นแค่เกาะที่เล็กกว่าหลายทวีปจนหลายคนแทบมองข้าม ใคร ๆ ก็น่าจะนึกถึง “ทวีปออสเตรเลีย” ที่มีประเทศเพียงแค่ 4 ประเทศเท่านั้น แต่จะมีกี่คนกันที่ได้สำรวจถึงสภาพแวดล้อมและความหลากหลายของพันธุ์สัตว์แปลก ๆ ที่นี่อย่างลึกซึ้งจนรู้ว่าทวีปออสเตรเลียแม้จะเล็กมาก แต่ก็เป็นทวีปที่มีสัตว์แปลกน่าค้นหาเยอะมากเช่นกัน โดยเฉพาะในประเทศออสเตรเลียที่ได้ชื่อว่าเป็น “แดนจิงโจ้” แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าที่นี่จะมีเฉพาะจิงโจ้ให้คุณได้มาชม ไหน ๆ มาเยี่ยมชมสัตว์ประจำประเทศแล้ว วันต่อมามีเวลาก็ขึ้นเรือมาดำน้ำชมสัตว์สุดแปลกหายากอย่าง “Albino Sea Turtle” เต่าทะเลเผือกน่ารักที่พร้อมจะพาทุกคนมายิ้มให้กับโลกใต้บาดาลอย่างมีเสน่ห์ในแบบที่ไม่เหมือนใครดูสิ แล้วคุณจะตื่นตาตื่นใจยิ่งกว่าเต่าอื่นที่เคยพบเห็นในชีวิตประจำวันมาก แต่หากอยากรู้ก่อนว่าเต่านี้มีความน่าสนใจด้านใดบ้าง เราจะมาบอกเล่าให้รู้กัน! ทำความรู้จักกับ “Albino Sea Turtle” “Albino Sea Turtle” หรือที่เรียกกันว่า “เต่าทะเลเผือก” พบได้มากบริเวณทะเลของทวีปออสเตรเลีย และมีอยู่ตามเอเชียใต้บางส่วน มีความโดดเด่นในลักษณะลำตัวของมันที่เป็นสีขาวเผือกทั้งตัวรวมถึงกระดองด้วย แต่บางตัวก็มีความพิเศษของกระบองที่เป็นสีน้ำตาลเหลืองลายงาม ทำให้สามารถเห็นลวดลายธรรมชาติบนตัวของมันได้อย่างชัดเจนสวยงาม ด้วยมีสาเหตุมาจากความผิดปกติของพันธุกรรมที่เรียกว่า “albinism” ซึ่งเป็นภาวะที่ทำให้เต่ามีการสูญเสียเม็ดสีที่สมบูรณ์แบบแตกต่างจากเต่าทั่วไปที่จะมีภาวะพันธุกรรม “Leucism” ซึ่งจะมีสีคล้ำจนถึงดำจึงมีน้อยมากที่เต่าในโลกจะเป็นสีนวลหรือสีขาวเผือกเหมือนเต่า Albino Sea Turtle ซึ่งกลายเป็นสัตว์อนุรักษ์หายากและมีแนวโน้มว่าจะถูกล่าจนสูญพันธุ์มากขึ้น การดำรงชีวิตของ “Albino Sea Turtle” “Albino […]

“ไก่หิมาลัย” นกขนงามในภูเขาสูงระดับโลกสุดน่าค้นหา

“ไก่หิมาลัย” นกขนงามในภูเขาสูงระดับโลกสุดน่าค้นหา

เมื่อกล่าวถึง “ไก่ฟ้า” ไม่ว่าใครก็ต้องรู้อยู่แล้วว่ามันเป็นสัตว์ปีกที่มีปีกงดงามกว่าไก่ชนิดอื่น ๆ ซึ่งไทยเราก็มีไก่ฟ้าอยู่หลากหลายประเภท แต่ไม่ยักเคยเห็นว่าจะมีไก่ฟ้าที่ขนเงางามเป็นลวดลายไล่ระดับสีลงมาแบบตัดกันขนาดในภาพมาก่อน แค่เห็นก็เกิดความรู้สึกหลงใหลในตัวไก่ฟ้านี้จนอยากรู้แล้วว่ามันคือไก่ฟ้าอะไร ช่างดูมีเสน่ห์น่าค้นหาเสียจริง แล้วสามารถหาเจ้าไก่ฟ้านี้ตามสวนสัตว์ที่ไหนบ้าง ทุกอย่างที่คุณอยากรู้เกี่ยวกับ “ไก่หิมาลัย” เราจะมาบอกกันในวันนี้ล่ะ แต่อาจจะต้องเสียใจหน่อยนะคะ เพราะเมืองไทยเราไม่มีเจ้าไก่ฟ้านี้หรอก หากอยากไปเห็นไก่ฟ้าตัวจริงต้องบินข้ามน้ำข้ามทะเลกันเลย บอกแล้วว่าของสวยของงามดี ๆ มักจะอยู่ไกลให้เราต้องข้ามผ่านอุปสรรคไปเพื่อตามหามัน แต่ก็คุ้มค่ามากหากจะได้เห็นไก่หิมาลัยที่ราวกับเดินออกมาจากในภาพวาดสีน้ำขนาดนี้ ทำความรู้จักกับ “ไก่หิมาลัย” “ไก่หิมาลัย” หรือ “Impeyan monal” เป็นไก่ฟ้าขนาดใหญ่ ลำตัวโตเต็มวัยจะอยู่ที่ประมาณ 70 เซนติเมตร โดยตัวผู้จะมีขนสีงดงามหลากสีตัดกันตามที่คุณเห็นในภาพ แต่สำหรับตัวเมียจะมีขนออกสีน้ำตาลเหมือนไก่ฟ้าทั่วไปทำให้ไก่หิมาลัยเพศผู้ถูกขนานนามว่าเป็น “เจ้าชายผู้สง่างามแห่งหิมาลัย”เลยก็ว่าได้ เพราะไก่ฟ้าชนิดนี้พบได้มากตามป่าบริเวณเทือกเขาหิมาลัยในระดับความสูง 2,100 – 4,500 เมตรตั้งแต่อัฟกานิสถานและปากีสถานไปจนถึงเทือกเขาหิมาลัยในอินเดียเนปาลทิเบตตอนใต้และภูฏาน โดยไก่หิมาลัยมักจะหลบซ่อนตัวอยู่บริเวณพุ่มไม้เตี้ยเสมอ ซึ่งด้วยความงดงามกว่าสัตว์ชนิดอื่นนี้เองทำให้กลายเป็นนกประจำประเทศเนปาลและเป็นนกประจำรัฐอุตตราขัณฑ์ ประเทศอินเดียที่ใคร ๆ ก็ต้องมาชมด้วย การดำรงชีวิตของ “ไก่หิมาลัย” “ไก่หิมาลัย” มักจะออกหากินในช่วงเช้าและมีที่อยู่อาศัยบริเวณต้นโอ๊คซึ่งบริเวณโดยรอบที่ถูกใจไก่หิมาลัยมากที่สุด คือบริเวณที่มีสภาพเป็นป่าสนสลับเนินหญ้าโล่งมีอากาศหนาวเย็นจนถึงอบอุ่น รวมถึงหน้าผาและทุ่งหญ้าอัลไพน์ ด้วยพวกมันสามารถอดทนต่อความหนาวเหน็บจากหิมะและขุดหาอาหารได้เรื่อย ๆ จากพื้นดินและตามป่าเพื่อให้ได้รากพืชและเหยื่อที่ไม่มีกระดูกสันหลังมาแบ่งปันกันเป็นฝูง แต่หากเป็นช่วงฤดูร้อนเดือนเมษายนถึงสิงหาคม ไก่หิมาลัยก็จะผสมพันธุ์กันโดยการร้องเรียกคู่เกี้ยวกันจนตั้งท้องมีลูก แต่ความเสี่ยง คือ […]

“งูหลามพม่า” งูหลามยักษ์ที่ใหญ่ที่สุดของโลก

“งูหลามพม่า” งูหลามยักษ์ที่ใหญ่ที่สุดของโลก

งูไม่ว่าจะเป็นงูที่มีขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ก็ย่อมที่จะน่ากลัวทั้งนั้น เพราะมันเป็นสัตว์ป่าที่มีพิษมีภัยและค่อนข้างเจ้าเล่ห์ มักแอบซุ่มเงียบเพื่อรอเวลาที่จะได้จู่โจมเมื่อถึงโอกาส ดูอย่างงูอนาคอนด้าที่ใคร ๆ ต่างก็พูดกันว่าน่ากลัวที่สุดก็ย่อมจะมีงูที่น่ากลังมากกว่าอนาคอนด้าซึ่งเรายังไม่เคยได้ค้นพบอีกเชื่อสิ แต่หากพูดถึงงูไม่มีพิษก็มีงูเหลือมซึ่งเราไว้ใจมันได้ แต่หากทำให้มันขัดใจก็อาจรัดง่ายเหมือนกัน เพราะงูเหลือมส่วนใหญ่นั้นจะมีขนาดที่ใหญ่มากจนเรียกได้ว่าใหญ่กว่าคนจนรัดตัวได้เร็วมากเลยหากไม่ระวังให้ดี แต่ถึงจะน่ากลัวอย่างไร การได้สำรวจงูที่ใหญ่ที่สุดก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจสำหรับระบบนิเวศทางธรรมชาติในโลกของเราตามพื้นที่ต่าง ๆ ซึ่งมีความพิศวงน่าค้นหาอีกเยอะ ยิ่งค้นหาก็ยิ่งค้นพบงูแปลกที่น่าดู โดยวันนี้เราก็จะถือโอกาสนำเรื่องราวของ “งูหลามพม่า” งูเหลือมยักษ์ที่ใหญ่ที่สุดของโลกมาบอกเล่าให้พวกคุณได้รู้จักกัน ทำความรู้จักกับ “งูหลามพม่า” “งูหลามพม่า” เป็นงูหลามสายพันธุ์ของประเทศเมียนมาร์ที่จัดอยู่ในวงศ์ของงูเหลือม ไม่มีพิษ มีขนาดลำตัวความยาว 5 เมตรซึ่งถือว่าใหญ่ที่สุดในกลุ่มสายพันธุ์งูหลามที่กระจายอยู่ตามประเทศต่าง ๆ โดยเฉพาะในอเมริกา อุปนิสัยชอบความเป็นส่วนตัว มีความเชื่องกับมนุษย์ และไม่ดุร้าย แต่ก็ไม่ควรทำให้เขาขัดใจ ลำตัวของงูหลามพม่าจะมีความอ้วนป้อม หางสั้น และมีขีดที่บนศีรษะเป็นสีขาวคล้าย ลูกศรเป็นจุดโดดเด่นที่ใครเห็นก็จะรู้ว่างูตัวนั้น ๆ คืองูหลาม อีกทั้งยังมีสีสันลวดลายหลากหลายมาก ที่พบได้มากคือ ลายสีดำ ลายสีน้ำตาล และลายสีเหลือง ซึ่งผู้คนก็ได้นำมาเป็นสัตว์เลี้ยงภายใต้การขออนุญาตทางกฎหมายด้วย ไทยเราเองก็มีการจัดแสดงงูหลามพม่าในสวนสัตว์ในกรุงเทพมหานครหลายแห่งที่มีขนาดใหญ่เหมือนกัน การดำรงชีวิตของ “งูหลามพม่า” “งูหลามพม่า” มักชอบซ่อนตัวอยู่ในบริเวณที่ให้ความอบอุ่น ไม่สุงสิงกับใคร ซึ่งเราจะพบมันได้ตามทุ่งหญ้าที่ขึ้นสูงและตามต้นไม้ใหญ่ ๆ งูหลามพม่าชื่นชอบการนอนมาก แต่เมื่อถึงเวลาก็จะออกหาอาหารไล่ล่าแบบรวดเร็วและเงียบเชียบ สามารถแฝงกายตามต้นไม้พุ่มไม้ได้เป็นอย่างดี อาหารสุดโปรดของ […]

จะเป็นอย่างไรหากบ้านของคุณไม่มี “สุนัข” กับ “แมว”

จะเป็นอย่างไรหากบ้านของคุณไม่มี “สุนัข” กับ “แมว”

ในยุคสมัยใหม่ที่ผู้คนมีภาระหน้าที่ในการงานของตัวเองและมีเรื่องราวที่ต้องจัดการในชีวิตประจำวันมากมายทำให้แม้แต่การพักผ่อนในเวลาว่างยังเป็นเรื่องที่ยาก แล้วจะให้หาภาระมาเพิ่มโดยการเลี้ยง “สุนัข” กับ “แมว”มาด้วยแล้วเนี่ยนะ บอกเลยว่ายาก! ไม่ใช่ยากธรรมดาแต่ยากมาก ถามหน่อยว่าใครเล่าจะเลี้ยงพวกเขาหากไม่ใช่เจ้านายที่รับเขามาอย่างเราเอง ต้องให้อาหารทุกมื้อและอาบน้ำให้ด้วย แบบนี้เสียเวลาเรามากเลย ไม่จำเป็นต้องเลี้ยงก็ยังได้ เพราะเราก็ไม่มีเวลาเล่นกับเขาเท่าไหร่ แม้ในใจลึก ๆ ก็อยากจะเลี้ยงให้มีเพื่อนแก้เหงา แต่ในเมื่อไม่มีเวลาให้เขาก็อย่าเอาเขามาให้ลำบากเลย ทว่ารู้หรือไม่ว่าคุณจะเกิดปัญหาในการใช้ชีวิตอยู่บ้านได้หากไม่มี “สุนัข” กับ “แมว” เพราะพวกเขาไม่ใช่เพียงแค่เพื่อนเล่น แต่เป็นสมาชิกสำคัญในครอบครัวที่จะทำให้คุณใช้ชีวิตอยู่อย่างมีความสุขและไร้ความเดือดร้อนในเวลาฉุกเฉินได้ มีเหตุผลอะไรที่เราควรเลี้ยงพวกเขา มาดูกันเลยดีกว่า เหตุผลที่ควรเลี้ยง “สุนัข” สุนัข เป็นสัตว์ที่มีประสาทสัมผัสการรับรู้ที่ว่องไว ทั้งจมูกที่ดมกลิ่นในระยะไกลได้ ลิ้นที่รับรสได้ดี รู้ถึงสิ่งที่เป็นอันตรายต่อตัวมัน และหูที่ได้ยินเสียงอย่างชาญฉลาด รับรู้ได้ว่าเสียงรถ เสียงฝีเท้า หรือเสียงที่ผิดแปลกมาจากทิศทางใด เป็นเสียงของสิ่งมีชีวิตใด และยังจดจำเสียงการกระทำของเจ้านายทุกคนในบ้านได้เป็นอย่างดี ใครมาร้ายมาดี สุนัขสามารถตรวจจับได้หมดจนเจ้าของบ้านอาจจะสงสัยว่าสำหรับแขกบางคนที่มาเยือนในบ้านทำไมสุนัขจึงดูมีท่าทางเชื่อง ใจดี และทำตัวน่าเอ็นดู แต่กลับกันในบางโอกาสหากแขกบางคนมาที่บ้านกลับเห่าเสียงดังและทำท่าจะจู่โจม มันสามารถรับรู้ได้ว่าใครคิดดีคิดร้ายกับเจ้านายมัน ตั้งแต่การดมกลิ่นและดวงตาของบุคคลนั้น ในขณะที่เราซึ่งเป็นเจ้าของบ้านยังไม่รู้ตัวเลย นอกจากนี้สุนัขยังเป็นยามเฝ้าบ้านชั้นดี หากพบสิ่งผิดปกติก็จะเห่าให้เจ้าของบ้านรับรู้ อีกทั้งช่วยจัดการกับสิ่งมีชีวิตอันตรายไม่ว่าจะเป็นสัตว์มีพิษ สัตว์แปลกปลอมที่ไม่น่าไว้ใจ และขโมยด้วย หากไม่มีสุนัขก็จะเป็นอันตรายต่อการอยู่บ้านที่เงียบสงบของคุณได้ เพราะคุณจะเสียเกราะพิเศษดี ๆ ที่ปกป้องคุณและทรัพย์สินอีกชั้นหนึ่งไปเลย เหตุผลที่ควรเลี้ยง […]

ค้นเรื่องราว “แทสมาเนียเดวิล” หนูตัวเล็ก แต่กรามนักล่าสุดน่ากลัว

ค้นเรื่องราว “แทสมาเนียเดวิล” หนูตัวเล็ก แต่กรามนักล่าสุดน่ากลัว

วันนี้มาถึงช่วงคำถามลองความรู้ สัตว์อะไรเอ่ยมองไปมองมาแล้วเหมือนหมีควาย หน้าตาดุดัน แต่ตัวเล็กนิดเดียว? ตอบกันได้มั้ยเอ่ย หากตอบไม่ได้เราจะเฉลยแล้วนะ สัตว์ตัวนั้นคือ “แทสมาเนียเดวิล” แต่เจ้าสัตว์ป่าตัวนี้ไม่ใช่หมีแต่อย่างใด มันคือหนูไงทุกคน ทว่าพอได้รู้แบบนี้แล้วก็อย่าได้เข้าไปใกล้มันนะ หากเป็นไปได้จงหลีกเลี่ยงจากเจ้าหนูแทสมาเนียเดวิลให้มากที่สุดเลยถ้าไม่เจอฟันแหลมคมของมันจู่โจมจนได้รับบาดแผลฉกรรจ์อย่างที่คุณเองก็คาดไม่ถึง เชื่อว่าหลายคนยังคงไม่รู้จักนิสัยของแทสมาเนียเดวิลดี เพราะประเทศเราไม่มีสัตว์ชนิดนี้อาศัยอยู่ แต่หากวันใดวันหนึ่งคุณได้ไปเดินป่าที่ต่างประเทศในถิ่นที่เจ้าแทสมาเนียเดวิลอยู่ก็อาจเกิดอันตรายได้จึงควรมารู้จักกับมันก่อนว่าโดยรวมแล้วเจ้าหนูตัวนี้มีความเป็นมาอย่างไร? มีพฤติกรรมเสี่ยงต่อสิ่งมีชีวิตมากแค่ไหน? เพื่อที่เราจะได้จัดการตัวเองเมื่อเห็นมันถูกอย่างคนมีสติ ทำความรู้จักกับ “แทสมาเนียเดวิล” “แทสมาเนียเดวิล” เป็นสัตว์ยุคดึกดำบรรพ์ของเกาะแทสมาเนีย ประเทศออสเตรเลียซึ่งเมื่อ 3,000 ปีก่อนนี้เคยสูญพันธุ์ไปจนหลายคนคิดว่าจะไม่เหลือเสียแล้ว แต่สุดท้ายเจ้าสัตว์แทสมาเนียเดวิลก็ได้ปรากฏตัวขึ้นมาอีกครั้งเป็นกลุ่มใหญ่หลังจากที่ซ่อนตัวมานานเมื่อผู้คนมาเที่ยวน้อยลงจึงทำให้ธรรมชาติป่าไม้บนเกาะได้รับการฟื้นฟูขึ้นอีกครั้ง จนพวกมันออกมาจากที่ซ่อนทำให้เวลานี้แทสมาเนียเดวิลกลายเป็นสัตว์สำคัญของประเทศออสเตรเลียที่ชาวออสซี่หวงแหนในการอนุรักษ์กันมาก โดยความพิเศษของเจ้าหนูขนาดใหญ่ใกล้เคียงกับสุนัขนี้ คือ มันมีกระเป๋าหน้าท้องเหมือนจิ้งโจ้ หูตั้ง และลำตัวมีขนสีดำเงางามและบริเวณลำคอมีลายพาดสีขาวทำให้มีลักษณะคล้ายหมีควายขนาดย่อมมาก ทำให้ผู้คนรู้สึกอัศจรรย์ใจที่ได้เห็นมันมาก การดำรงชีวิตของ “แทสมาเนียเดวิล” “แทสมาเนียเดวิล” มีนิสัยขี้ระแวงในสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ รอบตัวไม่ว่าจะเป็นสัตว์ชนิดอื่นหรือมนุษย์ที่หากเข้าใกล้ทำท่ารุกราน มันก็จะจู่โจมโดยใช้กรามที่ได้ชื่อว่ามีความยาวและใหญ่ที่สุดในโลกเมื่อเทียบกับสัตว์ชนิดอื่นกัดและทิ่มลงไปในจุดสำคัญลึกถึงกระดูกที่แตกออกเป็นเสี่ยง ๆ ของสิ่งมีชีวิตนั้น ๆ ทำให้อีกฝ่ายได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตอย่างง่ายดาย อีกทั้งยังชอบขู่เป็นที่หนึ่งด้วยเห็นตัวเล็กน่ารักแบบนี้ ยิ่งเวลามีลูก มันจะยิ่งหวงลูกของตัวเองมากจนให้ตัวเมียนำลูกใส่ในกระเป๋าหน้าท้องเวลาไปไหนมาไหนจวบจนพวกเขาเริ่มโตขึ้น แต่หากมนุษย์นั้นแค่เดินผ่านหรือไม่ยุ่งกับแทสมาเนียเดวิล พวกมันก็จะไม่ทำอะไร สำหรับมนุษย์แล้ว พวกมันไม่เห็นเป็นศัตรูใด ๆ เหมือนสัตว์ในป่า พวกมันแค่ต่อสู้เมื่อเกิดความจำเป็นในการปกป้องตัวเองเท่านั้น อาหารสุดโปรดของ “แทสมาเนียเดวิล” […]

“หนอนหัวขวาน” สิ่งมีชีวิตที่บอกถึงความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศ

“หนอนหัวขวาน” สิ่งมีชีวิตที่บอกถึงความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศ

ในชีวิตประจำวันคุณเคยเห็นหนอนชนิดใดผ่านตามาบ้าง แน่นอนว่าหลายคนต้องตอบว่าหนอนชาเขียว หนอนผีเสื้อ หนอนกระดอง และหนอนบุ้งอย่างแน่นอน แต่คุณหรือไม่ว่าในโลกเรายังมีหนอนอีกหลายชนิดที่น่าสนใจ แม้รูปร่างมันจะดูน่ากลัวก็ตาม แต่หากได้เรียนรู้ถึงชีวิตและข้อดีของการมีอยู่ในหนอนชนิดต่าง ๆ แล้วล่ะก็คุณอาจจะเริ่มเปลี่ยนใจจากมันก็ได้ เพราะหนอนส่วนใหญ่ก็ไม่ได้มีอันตรายใด ๆ เลย แค่สีสันของมันถูกสร้างสรรค์มาให้เข้ากับความดิบของธรรมชาติมากไปก็เท่านั้น ยิ่ง “หนอนหัวขวาน”แล้วล่ะก็เป็นหนอนสุดแปลกที่เราอยากให้คุณได้รู้จักกันมาก เพราะคนส่วนใหญ่หากบ้านไม่ได้อยู่ใกล้ป่าที่สมบูรณ์มากก็คงไม่เคยพบเห็นกันอย่างแน่นอน และบางคนก็อาจนึกไปเองว่าเป็นสิ่งมีชีวิตจากต่างดาวด้วยซ้ำ ดูจากภาพแล้วนึกว่าหลุดมาจากการ์ตูนแอนิเมชั่นเรื่อง “มหา’ลัย มอนสเตอร์ส” เอาเป็นว่ามาส่องชีวิตของน้องหนอนหัวหวานไปพร้อม ๆ กันเลยดีกว่า ทำความรู้จักกับ “หนอนหัวขวาน” “หนอนหัวขวาน” เป็นหนอนอีกชนิดหนึ่งไม่มีกระดูกสันหลัง ไม่มีระบบหายใจแต่จะใช้การแลกเปลี่ยนก๊าซผ่านผนังลำตัว ลักษณะที่ความแตกต่างจากหนอนทั่วไปอยู่ตรงที่มีลวดลายสีดำคาดอยู่บนลำตัวสีเหลืองอมส้มใส ๆ เป็นทางยาวและความยาวของหนอนหัวขวานก็มากกว่าหนอนชนิดอื่นด้วย นอกจากนี้หัวของหนอนหัวขวานยังมีลักษณะพิเศษที่เป็นคล้านค้อนหรือขวานสีดำเหมือนฉลามหัวค้อนในทะเลเลย เชื่อว่าเป็นสัตว์ดึกดำบรรพ์ที่หายาก อาศัยอยู่ได้ตามแหล่งน้ำจืดในเขตร้อนชื้น เช่น อเมริกาใต้ ออสเตรเลีย หรือป่าใหญ่ต่าง ๆ ในทวีปเอเชียที่มีความชื้นสูง ด้วยเหตุนี้หากพบหนอนหัวขวานอยู่ในป่าใดจึงแสดงให้รู้ได้ว่าป่าแห่งนั้นมีระบบนิเวศที่อุดมสมบูรณ์สูง เหมาะแก่การอนุรักษ์ไว้อย่างเคร่งครัดในยุคสมัยนี้ความเจริญเริ่มเข้าถึงมากขึ้นเรื่อย ๆ อาหารของ “หนอนหัวขวาน” “หนอนหัวขวาน” มีอาหารโปรดคือสัตว์ขนาดเล็กในระบบนิเวศสองชนิดด้วยกัน ได้แก่ หอยทาก และไส้เดือนที่เป็นอาหารสุดโปรดของมันเลย อาหารสัตว์เล็กเหล่านี้จะมีโปรตีนและแร่ธาตุช่วยเสริมพลังงานให้แก่มันสูงและมันก็ค่อนข้างกินจุด้วยเห็นตัวไม่ใหญ่แบบนี้ “หนอนหัวขวาน” มีอันตรายหรือไม่? “หนอนหัวขวาน” […]

“นาร์วาล” วาฬงายาวที่ถูกขนานนามว่า “ยูนิคอร์นแห่งท้องทะเล”

“นาร์วาล” วาฬงายาวที่ถูกขนานนามว่า “ยูนิคอร์นแห่งท้องทะเล”

ในหมู่สัตว์ทะเลสุดน่ารักที่มนุษย์ต่างชื่นชอบกันแล้วนอกจากแมวน้ำที่ทำให้ชีวิตสดใสและมีแต่ความอบอุ่นใจทันทีที่มีโอกาสเห็นแล้ว โลมากับวาฬก็เป็นหนึ่งในสัตว์ทะเลที่ใครมาก็ต้องอยากเห็นกันทั้งนั้น ยิ่งวาฬที่มีปากอ้ากว้างน่าค้นหา ตาเล็กน่ารักและพ่นน้ำได้แล้ว ขนาดตัวก็ยังใหญ่อลังการจนใครเห็นต่างก็กรี๊ดกร๊าดด้วยความหลงใหลจนอยากมอบมินิฮาร์ทให้เจ้าชายแห่งทะเลไปครองทุกครั้งเลย ว่าแล้วก็ขอร้องเพลง “รักก็คือรัก หลงก็คือหลง ถ้าถามชาวประมงก็คงไม่เข้าใจ” แต่ก็อย่างที่เรารู้กันดีว่าวาฬย่อมมีหลากหลายสายพันธุ์ เมื่อวาฬส่วนใหญ่เป็นเหมือนเจ้าชายแล้วก็ต้องมีวาฬที่ลักษณะราศีเหมือนอัศวินผู้พิทักษ์อย่าง “นาร์วาล”ด้วยสิ เชื่อว่าคงมีคนส่วนน้อยที่จะรู้จักกับวาฬชนิดนี้ที่ถูกขนานนามว่า “ยูนิคอร์นแห่งท้องทะเล”จนหากใครได้เห็นก็คงเข้าใจในความหมายนี้อย่างแน่นอน! อยากรู้ว่านาร์วาลน่าสนใจอย่างไรมาดูกันเลย ทำความรู้จักกับ “นาร์วาล” “นาร์วาล” เป็นวาฬมีฟันขนาดกลางลำตัวยาว 6 เมตร และหนัก 1,300 กิโลกรัม อาศัยอยู่ทางน่านน้ำอาร์กติกของประเทศแคนาดา กรีนแลนด์ นอร์เวย์และรัสเซีย ลักษณะตัวเป็นสีขาวท่อนล่าง และบริเวณลำตัวด้านบนจะเป็นลายจุดสีดำ ถูกขนานนามว่า “ยูนิคอร์นแห่งท้องทะเล” ราวกับผู้พิทักษ์ทะเลเมืองหนาว เพราะนาร์วาลตัวผู้ซึ่งเป็นเพศที่กำเนิดส่วนใหญ่ของวาฬพันธุ์นี้มีความโดดเด่นจากฟันกรามบนด้านซ้ายพิเศษที่งอกยาวออกมาถึง 3 เมตรในลักษณะเกลียวที่ทำให้ดูเหมือนงาแหลมคมยื่นออกมาเวลาว่ายน้ำ โดยส่วนพิเศษนี้จะมีความสำคัญของศูนย์รวมเส้นประสาทถึง 10 ล้านเส้น ทำให้สมัยก่อนนาร์วาลมักถูกล่าชาวเอสกีโมและนักเดินเรือเพื่อนำฟันที่มีความแหลมนี้ไปมอบให้กษัตริย์และชนชั้นสูงที่ตัวเองเคารพเป็นของขวัญหรือซื้อขายในราคาสูงลิ่ว แต่เวลานี้ได้มีการอนุรักษ์นาร์วาลอย่างชัดเจน การล่าจึงลดน้อยลงและเริ่มกลายเป็นเพียงอดีตทำให้นาร์วาลไม่ต้องอยู่ด้วยความหวาดระแวงอีกต่อไปแล้ว การดำรงชีวิตของ “นาร์วาล” “นาร์วาล” มีความสามารถพิเศษสามารถใช้ฟันหรืองาของมันเรียกความสนใจให้ตัวเมียว่ายเข้ามาหาได้จากการสันนิษฐานของนักสำรวจ มันมักชอบอาศัยอยู่รวมกันเป็นกลุ่มใหญ่ตั้งแต่ 10 – 100 ตัว โดยหากเป็นช่วงฤดูหนาวก็จะไม่ขึ้นมาบนบกแต่จะอยู่ใต้ทะเลระดับความลึกถึง 1,500 เมตรเป็นเวลา 5 เดือนทีเดียว […]

“Kaprosuchus” จระเข้โบราณที่ไดโนเสาร์ยังต้องกลัว!

“Kaprosuchus” จระเข้โบราณที่ไดโนเสาร์ยังต้องกลัว!

หากย้อนเล่าขานไปถึงยุคก่อนประวัติศาสตร์เมื่อล้านปีก่อนที่ไดโนเสาร์ยังคงอยู่ร่วมกันอย่างผาสุกพ้นจากภัยธรรมชาติ คุณอาจจะคิดว่ากลุ่มสิ่งมีชีวิตที่ครองโลกแสนยิ่งใหญ่อย่างไดโนเสาร์นั้นคงเป็นสัตว์ที่สิ่งมีชีวิตทุกสรรพสิ่งต่างเกรงขามและหวาดกลัวกลัวกันมากอย่างแน่นอน แต่แท้จริงแล้วไม่ใช่กับสัตว์ทุกชนิดที่จะเกรงกลัวไดโนเสาร์และมีพละกำลังที่น้อยกว่าจนต้องก้มหัวให้ เพราะยุคนั้นยังมีสัตว์เลื้อยคลานน่าพิศวงที่เราเรียกมันว่า “Kaprosuchus” เป็นจระเข้ที่หากใครได้ยินก็ย่อมต้องพากันปิดปากแทบไม่ทัน เพราะเจ้าจระเข้พันธุ์นี้เป็นเสมือนบรรพบุรุษของจระเข้ทุกตัวในโลกที่มีความแก่งแยงอยู่ในฐานะศัตรูตัวฉกาจของไดโนเสาร์มาอย่างยาวนานจนเรียกได้ว่าไดโนเสาร์ที่ตัวใหญ่กว่ามันยังต้องเกรงกลัวและแข่งขันผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะในการต่อสู้เป็นประจำเลย ช่างเป็นเรื่องราวใหม่ของสัตว์ขนาดยักษ์อีกชนิดที่น่าศึกษามากใช่ไหมล่ะ งั้นวันนี้เราจะพาคุณมารู้จักกับเจ้าจระเข้ “Kaprosuchus”กันว่ามันมีอะไรน่าสนใจบ้าง ทำความรู้จักกับจระเข้โบราณ “Kaprosuchus” “Kaprosuchus” เป็นจระเข้น้ำจืดยุคโบราณก่อนประวัติศาสตร์ราว 110 ล้านปีก่อนในตระกูล mahajangasuchid crocodyliform อาศัยอยู่ในที่ราบลุ่มและหนองน้ำในมหาทวีปกอนด์วานา มีลำตัวขนาดใหญ่ยาวมากกว่า 6 เมตร และมีส่วนโดดเด่นของร่างกายอยู่ที่ขาของพวกมันซึ่งขาด้านหลังมียาวและยืดหยุ่นกว่าขาด้านหน้าเล็กน้อย ถูกออกแบบมาให้มีความสมดุลกันเพื่อที่จระเข้ Kaprosuchus จะได้สามารถวิ่งจับเหยื่อบนบกได้รวดเร็วถึง 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และว่ายน้ำได้อย่างคล่องแคล่วจึงไม่แปลกหากมันจะวิ่งตามไดโนเสาร์ทันหรืออาจจะวิ่งได้เร็วกว่าจนดักหน้าได้โดยที่อีกฝ่ายไม่ทันตั้งตัวเลยด้วยซ้ำ นอกจากนี้พวกมันยังมีเขี้ยวฟันที่แหลมคมยาวดุจหมูป่าและมีกระดูกที่หนาทนแรงกระแทกได้ดีทำให้บาดเจ็บจากการต่อสู้ยากด้วย การดำรงชีวิตของจระเข้โบราณ “Kaprosuchus” จระเข้โบราณ “Kaprosuchus” มักมีนิสัยชอบล่าไดโนเสาร์ขนาดกลางที่ใหญ่กว่าพวกมันเล็กน้อย แต่หากเป็นไดโนเสาร์ขนาดใหญ่กว่ามันก็ยังสู้ได้ โดยจะใช้ส่วนแข็งของกระดูกหน้าตัวเองพุ่งชนเหยื่อหลังการกระโจนขึ้นมาบนบกให้เสียการทรงตัวก่อนจะงับด้วยเขี้ยวแหลมเพื่อจัดการเจาะทะลุผิวหนังและหักกระดูกของเหยื่อได้ภายในไม่กี่วินาที แต่บางครั้งมันก็จะทำการซุ่มดูเหยื่อก่อน หากเป็นเหยื่อที่อันตราย แต่หากเป็นเหยื่อที่จัดการง่ายก็จะพุ่งโดยไม่ต้องคิดเลย ทว่าเมื่อโลกเข้าสู่ยุคน้ำแข็งทำให้อากาศเปลี่ยนแปลง สัตว์ที่เป็นอาหารเริ่มน้อยลง จระเข้ Kaprosuchus จึงค่อย ๆ สูญพันธุ์และคลายความร้ายกาจลงตามโลกที่เปลี่ยนไปและมีวิวัฒนาการใหม่จนเป็นจระเข้สุดขรึมอย่างที่เราเห็นในปัจจุบัน อาหารสุดโปรดของจระเข้โบราณ “Kaprosuchus” จระเข้โบราณ “Kaprosuchus” มักชอบกินปลาใหญ่และสัตว์เลื้อยคลานเป็นชีวิตจิตใจ ด้วยธรรมชาติของมันจะอยู่กับพวกสัตว์น้ำหรือสัตว์สะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกอยู่แล้ว ส่วนการจู่โจมไดโนเสาร์นั้นก็เป็นเพียงการชิงความเป็นใหญ่ในอาณาเขตและประกาศศักดาในตัวมันเองเท่านั้นเพื่อบ่งบอกว่าผู้ชนะจากสงครามคือผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด รูปภาพประกอบ […]

“แมลงตด” สัตว์เหม็นที่มีอาวุธดีใกล้ตัว

“แมลงตด” สัตว์เหม็นที่มีอาวุธดีใกล้ตัว

เมื่อสัตว์ตัวเล็กย่อมเสียเปรียบศัตรูหรือผู้ที่ตัวใหญ่และมีพละกำลังที่แข็งแกร่งกว่า การที่พวกเขาจะมีความสามารถพิเศษในการป้องกันตัวเองไม่ให้ได้รับบาดเจ็บหรือต้องถูกทารุณโดยใช้ไม้แข็งแบบที่แมลงหรือสัตว์อื่น ๆ ไม่ได้จึงต้องมีเป็นธรรมดาอย่างที่วันนี้เราจะมาพูดถึง “แมลงตด” แมลงพิเศษประเภทหนึ่งที่คุณจะได้รู้ว่าถึงตัวจะเล็ก แต่หัวใจในการต่อสู้โดยปล่อยของเหม็นสมชื่อเรียกแมลงตดนั้นรุนแรงมากเพียงใด แม้แต่คนที่เข้าใกล้ไม่ทันได้ทำอันตรายใด ๆ มันยังไม่ละเว้น ยิ่งเราได้ยินเรื่องของแมลงตดที่บางครั้งมักจะเจอในบ้านได้ง่าย ๆ แล้วล่ะก็ย่อมต้องระวังมากเป็นธรรมดา เพราะหากคุณเผลอไปปัดมันด้วยมือเปล่าหรือเข้าไปเพื่อจะจับมันออกก็อาจถูกเจ้าแมลงตดเล่นงานเข้าอย่างจังแบบฝังใจเลยทีเดียว เหลือไว้พร้อมกับรอบแผลและเพลงที่ติดในหัวร้องว่า “คงไว้เพียงแค่กลิ่นที่ไม่เคยเลือนลาง” เรามาดูกันเถอะว่าฤทธิ์เดชของเจ้าแมลงตดจะเยอะมากเพียงใด ทำความรู้จักกับ “แมลงตด” “แมลงตด” หรือบางคนอาจเรียกว่า “แมลงก้นกระดก” เป็นแมลงปีกแข็งชนิดหนึ่งที่จัดอยู่ในกลุ่มของด้วงดิน มีลำตัวสีน้ำตาลไผ่และลายสีน้ำตาลพาดสลับกัน มักอาศัยอยู่ตามบ้านเรือนที่มีสวนและป่าไม้อุดมสมบูรณ์หรือตามป่า โดยหัวของแมลงตดจะมีขนาดเล็กจนเรียกได้ว่าน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของอกปล้องแรก และส่วนอกกลางนี้ยังเล็กกว่าส่วนท้องด้วย ส่วนปีกคู่หน้าของแมลงตดจะมีความใหญ่โดดเด่นครอบคลุมเกือบทั้งหมดของส่วนท้องและปลายปีก ซึ่งจัดว่าแมลงตดเป็นแมลงอีกชนิดหนึ่งที่มีพิษร้ายแรง เมื่อมันพบเห็นสิ่งมีชีวิตใดไม่ว่าจะมนุษย์หรือสัตว์หากเข้ามาใกล้ก็จะทำการพ่นแก๊สเสียงดังคล้ายตดซึ่งมีสารพิษ quinol  ออกมาทางก้นกระจายออกมาทางอากาศเป็นวงกว้างและรุนแรง มีกลิ่นเหม็นจนทนไม่ไหวและหากผิวหนังของสิ่งมีชีวิตสัมผัสสารดังกล่าวที่อยู่ในอากาศก็จะทำให้ผิวหนังมีอาการปวดแสบปวดร้อนซึ่งหากไม่ได้ล้างออกในทันทีทันใดก็จะไหม้ได้ง่าย ๆ อีกทั้งตดของพวกมันยังสามารถปล่อยออกมาได้มากถึง  500 ครั้งต่อวินาทีเลยด้วย การดำรงชีวิตของ “แมลงตด” “แมลงตด” ตามธรรมชาติแล้วพวกมันมักอาศัยอยู่ตามดินบริเวณใกล้กับแอ่งน้ำหรือตามพงหญ้าที่มีความชื้นสูงและในช่วงฤดูฝน แมลงตดก็จะวางไข่อยู่ในโพรงใต้ดิน กองหิน หรือใต้เปลือกไม้เป็นกลุ่มขนาดใหญ่เพื่อหลบซ่อนลูกของพวกมันจะสัตว์หรือแมลงอื่น ซึ่งแมลงตดมีประโยชน์ในด้านการรักษาระบบนิเวศทางธรรมชาติมากแม้จะเห็นว่าฤทธิ์เดชมันร้ายแรงขนาดนี้ แต่มันก็มักจะช่วยกำจัดไข่หนอนผีเสื้อและแมลงอื่นที่จะทำลายพืชผลทางการเกษตรได้ อาหารสุดโปรดของ “แมลงตด” “แมลงตด” มีอาหารสุดโปร่งที่หลากหลายมากโดยเฉพาะแมลง แต่ที่เห็นกินดำรงชีพมากที่สุดก็เป็นวัตถุเน่าเปื่อย ตามธรรมชาติและหนอนเล็ก ๆ ของแมลงที่อาศัยอยู่ในดิน รวมถึงไข่ของแมลงขนาดใหญ่ด้วย […]

เทคนิคการดูแลสัตว์เลี้ยงที่เจ้าของควรรู้ การตรวจสุขภาพประจำปี

เทคนิคการดูแลสัตว์เลี้ยงที่เจ้าของควรรู้ การตรวจสุขภาพประจำปี

สัตว์เลี้ยงก็มีปัญหาด้านสุขภาพได้เช่นเดียวกับคน ดังนั้นเจ้าของควรพาสัตว์เลี้ยงไปตรวจสุขภาพเป็นประจำเพื่อให้สามารถตรวจพบโรคในระยะเริ่มต้นได้ เรามาดูกันดีกว่าว่าการดูแลสัตว์เลี้ยงให้สุขภาพดี ต้องดูแลในเรื่องใดบ้าง 1.พาไปฉีดวัคซีนตามอายุของสัตว์ เนื่องจากสัตว์เลี้ยงในช่วงอายุ 1-3 เดือนแรกจะมีภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอและเสี่ยงต่อการติดเชื้อต่างๆการรีบพาไปตรวจสุขภาพและฉีดวัคซีน ถ่ายพยาธิจึงสำคัญมาก รวมถึงการฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้าเป็นประจำทุกปี ก็จะทำให้สุนัขและแมวปลอดจากโรคร้ายที่อันตรายถึงขั้นทำให้ตายได้ 2.อาบน้ำเป็นประจำ โดยเฉลี่ยสำหรับสุนัขสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ส่วนแมว เดือนละ 1 ครั้ง ทั้งต้องดูแลเรื่องการแปรงขนและการตัดเล็บเพื่อไม่ให้เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคและลดปัญหาโรคผิวหนังเรื้อรังได้ 3.อนามัย ควรหมั่นดูแลและคอยป้องกันเห็บ หมัด จนไปถึงพยาธิให้กับน้องหมาหรือน้องแมว อาจจะลองปรึกษาแพทย์ว่ามีแนวทางการป้องกันและดูแลความสะอาดให้กับสัตว์เลี้ยงของเราอย่างไรบ้าง 4.พาสัตว์เลี้ยงไปเดินเล่น ออกกำลังกาย ว่ายน้ำ จะทำให้ลดความเสี่ยงโรคอ้วนและโรคหัวใจได้ ซึ่งระยะเวลาในการออกกำลังกายควรเหมาะสมตามช่วงอายุและตามช่วงอายุและความแข็งแรงของร่างกายสัตว์แต่ละตัวด้วย 5.ดูแลบริเวณที่อยู่อาศัยของสัตว์ไม่ให้อับชื้น หรือมีน้ำขัง เพราะเป็นแหล่งสะสมของยุง แมลง เชื้อโรค ที่ทำให้เกิดโรคเรื้อรังและเสียชีวิตได้ การดูแลเรื่องอาหาร โภชนาการที่ดีและเหมาะสม ช่วยส่งเสริมให้สัตว์เลี้ยงมีสุขภาพดี อีกทั้งเจ้าของควรรู้อาหารต้องห้ามของสัตว์เลี้ยงที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ เมื่อสุนัขได้กลิ่นหอมๆของอาหารจากห้องครัวทีไรเป็นต้องวิ่งเข้าหาทุกครั้ง และเชื่อว่าเจ้าของทุกคน หากได้หันไปเห็นดวงตากลมๆส่งสัญญาณอ้อนวอนมาเมื่อไหร่ ย่อมต้องใจอ่อนยอมแบ่งอาหารให้ตลอดโดยไม่รู้เลยว่าตัวเองกำลังทำร้ายสุนัขทางอ้อม โดยเฉพาะอาหารชนิดต่างๆเหล่านี้ 1.อาหารเด็ก จริงอยู่ที่อาหารเด็กละเอียดกินง่าย และน่าจะช่วยให้ขับถ่ายสะดวก แต่อย่าลืมว่าในอาหารเด็กบางยี่ห้อมีผงหัวหอมผสมอยู่ หากส่วนผสมดังกล่าวเข้าสู่ร่างกายสุนัข ก็อาจทำให้สุนัขเกิดอาการอ่อนเพลีย เซื่องซึม และหัวใจเต้นเร็ว เพราะเซลล์เม็ดเลือดแดงถูกทำลาย 2.อาหารแมว […]