ต่างกันแค่ไหน สัตว์ต่างชนิดกันสามารถอยู่รวมกันได้จริงหรือ #สัตว์โลกน่ารัก

ต่างกันแค่ไหน สัตว์ต่างชนิดกันสามารถอยู่รวมกันได้จริงหรือ

สำหรับคนรักสัตว์เลี้ยงอาจไม่จำเป็นที่เราต้องเลี้ยงสัตว์เลี้ยงแค่ชนิดเดียวเท่านั้น แต่เราอาจมีความรัก ชอบ หรือหลงเสน่ห์ในสัตว์หลายๆ ชนิด เช่น สุนัข แมว กระต่าย หนูแก๊สบี้ หรือแม้แต่กระรอก ขอให้เป็นสัตว์เลี้ยงที่อนุญาตให้สามารถเลี้ยงได้ในบ้าน ไม่ใช่สัตว์ป่าเพราะหากเป็นสัตว์ป่าอาจมีเชื้อโรคบางชนิดที่อาจแพร่มาสู่สัตว์เลี้ยงที่อยู่ในบ้านร่วมด้วย

เราคงเห็นแล้วว่ามีอยู่หลายบ้านโดยเฉพาะเราจะเห็นในต่างประเทศเยอะมากที่เลี้ยงสุนัขร่วมกับแมว เลี้ยงกระต่ายยักษ์ร่วมกับสุนัข เลี้ยงหนูแก๊สบี้ร่วมกับสุนัข แต่ส่วนใหญ่สุนัขจะเป็นสัตว์เลี้ยงยืนพื้นที่จะมีในทุกบ้านที่รักสัตว์เลี้ยง ดังนั้นหากเราอยากที่จะเลี้ยงสัตว์หลากหลายชนิดในบ้านเดียวกัน เราควรทำอย่างไรบ้างให้นอกจากสัตว์ทุกตัวได้รับความปลอดภัยซึ่งกันและกันแล้ว ยังทำให้เกิดความสุขกับทุกตัวด้วย

1.ควรรู้ลักษณะนิสัยของสัตว์แต่ละชนิด

โดยเฉพาะสัตว์เลี้ยงที่เราวางแผนว่าจะนำเข้ามาเลี้ยง ถ้าเป็นไปได้ควรศึกษาชนิดของสัตว์ที่เราคิดจะนำมาเลี้ยงด้วยกันให้มีความเข้ากันทั้งนิสัยพื้นฐาน และสายพันธุ์ของสัตว์เอง อย่างเช่น หากเป็นสัตว์ที่ก้าวร้าว เช่นสุนัขพันธุ์พุดเดิ้ล เลี้ยงคู่กับแมวตรงนี้ก็อาจต้องหลีกเลี่ยงเพราะแมวก็อาจมีนิสัยที่ก้าวร้าว ส่วนสุนัขพันธุ์พุดเดิ้ลก็อาจจะเห่า อยู่ไม่สุข อยู่ร่วมบ้านกันอาจก่อให้เกิดความเครียดระหว่างสัตว์ 2 ชนิด แต่ถ้าเป็นขนาดของสัตว์เลี้ยงไม่มีปัญหาเรื่องการอยู่ร่วมบ้านกัน หลักๆ จะต้องดูที่ลักษณะนิสัยภายในมากกว่าว่าพื้นฐานความชอบ นิสัยด้านลบมีอะไรบ้างขัดแย้งกันหรือเปล่า

2.มีขอบเขตพื้นที่อยู่ของสัตว์แต่ละชนิดให้ชัดเจน

หากเป็นสุนัข หรือแมวด้วยกันชนิดเดียวกันอาจไม่จำเป็นเท่าไหร่ แต่ถ้าหากเมื่อไหร่เรานำกระต่ายมาอยู่ร่วมบ้านกับแมว หรือสุนัขอยู่ร่วมบ้านกับแมวในระดับแรกที่เริ่มฝึกความเคยชินกันควรจัดพื้นที่แยกกันให้ชัดเจนเพราะ เราไม่รู้ได้ว่าสัตว์ตัวนั้นๆ หากมีเดินเข้ามาในพื้นที่ของสัตว์อีกประเภทหนึ่งอาจมีกลิ่นหลงเหลืออยู่ซึ่งตรงนั้นกลิ่นคนละพวกเดียวกันอาจทำให้เกิดความเครียด และอาจมีผลให้มีปัญหาภายหลังได้ อย่างง่ายๆ คือหากพื้นที่ไม่พอให้ใช้คอกสัตว์ที่เป็นไม้ หรือพาร์ทิชั้นกั้นเป็นเรื่องราวกลิ่นก็จะอยู่เฉพาะที่ตรงนั้นที่สัตว์ชนิดนั้นอยู่ ตัวเราอาจไม่คิดว่ากลิ่นเป็นเรื่องสำคัญแต่สำหรับสัตว์เลี้ยงที่มีความไวทางจมูกมากๆ อย่างสุนัข หรือแมวก็ตามจะทำให้ได้รับกลิ่นตรงนั้นชัดเจน และมีภาวะต่ออารมณ์สำหรับสัตว์เลี้ยงเราด้วย

3.มีโอกาสสร้างการเรียนรู้ ใกล้ชิดกัน

เป็นเรื่องที่ดีสำหรับการนำสัตว์เลี้ยงต่างชนิดกันมาอยู่ร่วมกันในขณะที่ยังมีอายุน้อยอยู่ ไม่ว่าจะเป็นทั้งหมด หรือตัวใดตัวหนึ่งเพราะส่วนใหญ่สัตว์เลี้ยงตัวใหญ่กว่า หรือที่มีอายุมากกว่าจะไม่ทำร้ายสัตว์ตัวเล็ก หรือที่อยู่ในวัยเล็กๆ อย่างสุนัขที่มีอายุ 5 ขวบกับลูกแมวอายุขวบเดียวก็มักจะไม่เกิดปัญหาอะไรหากเราทำตามข้อดังกล่าวข้างต้นแล้ว และหากมีเวลาที่เราอยู่ด้วยเราอาจเป็นสื่อที่เชื่อมสายสัมพันธุ์สัตว์เลี้ยงต่างชนิดกันมาทำความรู้จักซึ่งกันและกัน มีโอกาสได้อยู่ใกล้กัน เล่นกัน สนิทสนมกันนั่นเป็นสื่อสัญญาณที่ดีในอนาคต

ขอบคุณภาพจาก thevegariherald , th.toluna , sites.google และ coolcrewthai

#สัตว์ต่างชนิดกันอยู่รวมกันได้จริงหรือ #สัตว์โลกน่ารัก #คนรักสัตว์เลี้ยง