ทาสแมวจงฟัง! คุณพร้อมที่จะเลี้ยงแมวจริงหรือ #คุณพร้อมที่จะเลี้ยงแมวจริงหรือ

ทาสแมวจงฟัง! คุณพร้อมที่จะเลี้ยงแมวจริงหรือ

แน่นอนว่ามีจำนวนทาสแมวอยู่ไม่น้อยที่ไม่ได้มีเหมียวของตัวเองอาศัยอยู่ที่บ้านอย่างจริงจัง หลายๆคนคงวางแผนอนาคตว่าอยากจะรับแมวสักตัวเข้ามาในชีวิต แต่จงจำไว้ว่ามีหลายต่อหลายข้อที่ทาสแมวควรจะคำนึงให้ดีเมื่ออยากจะเริ่มเลี้ยงแมว สิ่งต่างๆนั้นจะขึ้นอยู่กับ life style การดำเนินชีวิตและรวมไปถึงสภาพแวดล้อมทั้งในและนอกบ้าน การเลี้ยงแมวให้แมวมีความสุขและสุขภาพดีย่อมขึ้นอยู่กับปัจจัยเหล่านั้นที่เราเลือกให้น้องๆค่ะ เรามาดูกันดีกว่าว่าเพื่อนๆพร้อมที่จะเลี้ยงแมวจริงรึเปล่า

Life style บ่งบอกว่าคุณพร้อมที่จะเลี้ยงแมวจริงหรือ

1.คุณมีเวลาดูแลน้องเหมียวจริงหรือเปล่า : เมื่อคุณรับลูกแมวมาเลี้ยง แน่นอนว่าคุณต้องพิศวาสน้องแมวน้อยเอามากๆอย่างแน่นอน เพราะความซุกซนและร่าเริงจะเติมสีสันให้กับบ้านของทาสแมวอย่างเหลือล้น แต่สุดท้ายแล้วเจ้าลูกแมวก็ต้องเติบโตกลายเป็นแมวโตในสักวัน ให้คุณคำนึงเสมอว่านั้นคือความสัมพันธ์ระยะยาว จริงอยู่ที่หลายๆคนเข้าใจว่าแมวเลี้ยงง่ายกว่าน้องหมาค่อนข้างมาก แต่จริงๆแล้วเจ้าเหมียวก็ต้องการความเอาใจใส่และความรักค่อนข้างมากนะคะ ทุกอย่างที่เราเลือกให้เค้าส่งผลต่อสุขภาพจิตและสุขภาพใจของแมวของเราเสมอค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการสั่งสอน เลี้ยงดู และเลือกอาหารที่เหมาะสมกับช่วงวัยของพวกเค้า ไม่ว่าจะเป็นแมวพันธุ์ดีมีใบเพ็ดหรือแมวที่รับมาจากศูนย์ช่วยชีวิต หรือแมวประกาศหาบ้านฟรีต่างๆ

แมวบางตัวที่คุณรับมาอาจจะเจอเหตุการณ์ไม่ดีฝังใจน้องๆ ต้องศึกษาดูนิสัยและการใช้ชีวิตของน้องๆให้ดี เพื่อที่เราจะได้เข้าใจเค้า และดูแลกันไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่แน่นอนว่าหากคุณเริ่มเลี้ยงตั้งแต่เป็นลูกแมวเล็กๆ ก่อนจะเข้าสัปดาห์ที่ 8 มันจะยังเป็นแค่แมวน้อยไร้เดียงสา ยังไม่รู้จักการเข้าสังคม เพราะฉะนั้นเป็นช่วงเวลาที่เราต้องเอาใจใส่เป็นพิเศษ แทบจะต้องนั่งเฝ้า ป้อนน้ำป้อนนม และฝึกให้พวกมันรู้จักเล่นเพื่อที่จะเข้าสังคมได้อีกด้วย

2.แน่ใจหรือเปล่าว่าแมวเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณ : แมวอาจจะทำให้ไลฟ์สไตล์ของคุณเปลี่ยนไปค่อนข้างมาก เพราะต้องมีอีกหนึ่งชีวิตอาศัยอยู่กับคุณในทุกๆวัน ถึงแม้กิจวัตรบางอย่างของคุณอาจเปลี่ยนไม่ได้ เช่นการทำงาน การออกไปเจอสังคม การไปเที่ยว และอื่นๆอีกมากมาย ข้อนี้จึงควรคำนึงให้มาก ว่าคุณพร้อมที่จะเลี้ยงแมวจริงมั้ย คุณจะปรับเปลี่ยนเวลาบางส่วนเพื่อเค้าได้หรือเปล่าหากคุณรับแมวเข้ามาอยู่ในบ้านนั่นเองค่ะ

3.ถามตัวเองให้ดี : มีหลายๆข้อที่ควรจะตกลงและถามตัวเองให้จบเสียก่อนที่จะเริ่มเลี้ยงแมวค่ะ คุณมีลูกหลานหรือเด็กเล็กในบ้านมั้ย? ข้อนี้สำคัญมากๆเพราะแมวบางพันธุ์อาจจะไม่เหมาะสำหรับเด็กนักเพราะการเล่นไม่รู้อิโหน่อิเหน่อาจจะทำให้แมวเจ็บตัวและข่วนลูกๆของคุณโดยไม่ได้ตั้งใจได้ค่ะ

หรืออีกข้อสำคัญคือคุณมีสัตว์เลี้ยงตัวอื่นอีกหรือเปล่า หากมีสุนัขมันจะทำร้ายแมวที่คุณเพิ่งรับมาไหม หากมีหนูหรือนก  จะโดนแมวกินตอนมันโตตและล่าเก่งหรือเปล่า และข้อสุดท้ายคือ เวลาและเงินซัพพอร์ทของคุณเพียงพอหรือไม่? ให้คำนึงเสมอว่าแมวต้องการการดูแลเอาใจใส่ การให้อาหาร การอยู่เล่นด้วย ที่สำคัญคือการพาไปพบหมอ และฉีดวัคซีนป้องกันโรคพื้นฐาน หากป่วยขึ้นมาน้องๆจะทรมานระยะยาวเอาได้ ให้ถามคำถามเหล่านี้กับตัวเองให้ดีค่ะ เพราะจะส่งผลถึงเวลาในชีวิต ไลฟ์สไตล์ที่ปรับเปลี่ยน ปละการเลือกประเภทแมวที่เหมาะสมกับบ้านของคุณอีกด้วย

ความปลอดภัยในบ้านบ่งบอกได้ว่า คุณพร้อมที่จะเลี้ยงแมวไหม

บ้านเป็นเสาหลักของเจ้าเหมียว หลังจากที่คุณย้ายน้องๆเข้ามาที่บ้านใหม่ของเค้าแล้ว เค้าจะต้องสำรวจไม่หยุดแน่ๆ ปล่อยให้เค้าสำรวจและสังเกตดูว่าเค้าจะไม่ไปตรงจุดที่ทำให้เกิดอันตรายใดๆ ที่สำคัญคือเราควรจะมีพื้นที่เงียบๆให้แมวหลับพักผ่อนอย่างสบายใจในระหว่างวัน

มีหลายๆสิ่งที่อาจทำให้เกิดอันตรายกับแมวได้นะคะ เช่นสายไฟต่างๆ เพราะเค้าอาจจะแทะและไฟชอตได้ ทั้งสารเคมีที่ใช้ในครัวเรือนควรเก็บให้มิดชิด ระเบียงหรือบันได ช่วงที่เป็นลูกแมวอาจจะต้องปิดกั้นไม่ให้เล่นจนพลัดตก และพืชที่เลี้ยงค่ะ มีพืชหลายชนิดที่ส่งผลเสียกับสุขภาพแมวหากมันไปแทะเล็มเข้านะคะ ลองมองภาพรวมจากสิ่งเหล่านี้และพิจารณากับตัวเองอีกทีก่อนที่จะตัดสินใจเลี้ยง เพราะคุณต้องรับผิดชอบทั้งชีวิตของน้องแมวด้วยนะคะ เท่านี้คงตอบตัวเองได้แล้วว่า คุณพร้อมที่จะเลี้ยงแมวรึเปล่าน้า

#ทาสแมวจงฟัง #คุณพร้อมที่จะเลี้ยงแมวจริงหรือ #เจ้าเหมียว