หากบ้านไหนเลี้ยงสุนัขไม่ว่าจะเลี้ยงมากน้อยแค่ไหน แต่ถ้าเราเริ่มมีเลี้ยงสุนัขที่อยู่กันมาเป็นเวลานานจนพวกเค้ามีอายุที่มากขึ้นทุกวันจนถึงวัยที่เรียกว่า สุนัขสูงอายุ ก็เหมือนกับคนในวัยสูงอายุทุกอย่างก็เริ่มเสื่อมถอยทั้งร่างกายและจิตใจ โดยเฉพาะจิตใจที่มีการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์และความคิด ในหมาบางตัวอาจรวมถึงกิจกรรมที่เคยทำมาด้วย
คนที่เลี้ยงสุนัขจึงต้องใส่ใจในกลุ่มสุนัขสูงอายุเป็นพิเศษเพราะสุนัขอายุพวกนี้ที่อยู่และผูกพันกับเรามานานตั้งแต่เราเริ่มเอาเค้ามาเลี้ยงดูจนมาถึงวันนี้ที่ตัวพวกเค้าฝากชีวิตเอาไว้กับเรา ในแววตาของเค้ามีแต่เราในโลกของเค้า ดังนั้นเรามาดูว่าในการต้องปรับตัวเมื่อมีสุนัขที่สูงอายุเข้ามาอยู่ในครอบครัว จะต้องมีการดูแลสุนัขเหล่านี้อย่างไรบ้าง
1.การเข้าใจในสุนัขสูงอายุ
สุนัขสูงอายุที่มีการเสื่อมถอยในร่างกายทุกส่วนไม่ว่าจะเป็นกระดูก ขา สมอง การทรงตัว การกิน และที่สำคัญคือสายตา สิ่งเหล่านี้อาจมีการทำงานที่ไม่เหมือนเดิม เช่นขาอาจเดินได้ไม่ดีจนทำให้ไม่อยากเดิน หรือ สายตาที่เริ่มเป็นต้อกระจก ทำให้การมองเห็นไม่ชัดเจนจนถึงขั้นตาบอดมองไม่เห็นเลยก็ว่าได้ ดังนั้นสิ่งแรกที่เราควรทำคือ ความเข้าใจ ในสุนัขทุกตัวที่เริ่มเข้าสูงอายุเพราะเมื่อเราเข้าใจแล้วการหาวิธีมาช่วยเหลือ และแก้ไขให้ชีวิตพวกเค้ามีการเป็นอยู่ที่ดีขึ้นตามร่างกายที่เปลี่ยนแปลงไปจะเป็นเรื่องที่ดีสำหรับเราและสุนัขด้วย
2.การให้ความรัก และเวลาเอาใจใส่ที่มากเป็นพิเศษ
เพราะในสุนัขสูงอายุตัวเค้าเองก็เริ่มรู้ตัวเองว่ามีบางอย่างในร่างกายที่ไม่เหมือนเดิม เช่นความคิดช้าบางทีจะทำอะไรยืนงงตรงนั้นนานจนไม่รู้ตัวเอง ตาเริ่มมองไม่เห็นจนเดินชน ถ้าเป็นเราคงรู้สึกขาดความมั่นใจในตัวเองเพิ่มมากขึ้น แต่ในตัวสุนัขเค้าก็มีบางส่วนที่เหมือนเราคือ ขาดความมั่นใจแต่มีส่วนที่เพิ่มเติมมาคือ ความรู้สึกไม่มั่นคงทางจิตใจเพราะเริ่มทำอะไรด้วยตัวเองไม่ได้ แล้วสิ่งที่ตามมา คือ ต้องการอยู่ใกล้เรามากขึ้น ใกล้ชิดกับเรามากขึ้น และต้องการให้เราใส่ใจมากขึ้น ดังนั้นหากเราเข้าใจเริ่มแรกแล้วและยืนในจุดของสุนัขสิ่งที่ทำได้ดีที่สุดในบางครั้งอาจมีความสำคัญมากกว่าอาหารที่มีประโยชน์มากๆ คือ การให้ความรัก จะทำให้สุนัขรู้สึกปลอดภัยและสบายใจ จะนำมาซึ่งความมีสุขภาพดีทางกาย นอนหลับ ไม่กังวล
3.อาหารบำรุงร่างกาย
สิ่งสำคัญที่ตามมาอย่างเลี่ยงไม่ได้คือ ไม่ว่าจะเป็นทั้งมนุษย์หรือสุนัขอาหารจะเป็นสิ่งที่จำเป็นและสำคัญมากๆ สำหรับการเสริมสร้างซ่อมบำรุงให้ร่างกายแข็งแรงและสามารถต่อสู้กับโรคร้ายและความไม่สมบูรณ์ของร่างกายได้ สุนัขสูงอายุก็เช่นเดียวกันการหาอาหารเสริมไม่ว่าจะเป็นเจลเพื่อเพิ่มความอยากอาหารให้สุนัขหรือวิตามินเสริมในส่วนต่างๆที่สุนัขเริ่มมีความบกพร่องทางร่างกายอันเนื่องมาจากความผิดปกติจากวัยที่มากขึ้น สิ่งเหล่านี้อาจกินเสริมได้ให้ครั้งละน้อยๆหรือเว้นช่วงการให้ไม่ควรให้กินบ่อยจนติดต่อกันเป็นระยะเวลานานเกินไป ทุกอย่างมีผลดีถและผลเสียตามมาเสมอ
4.หมั่นพาสุนัขออกไปสูดอากาศ
ไม่ว่าจะเป็นต่างจังหวัดหรือที่ต่างๆที่มีอากาศดีโล่งเราควรที่จะหมั่นพาสุนัขสูงอายุออกไปสูดอากาศเพราะอากาศและกลิ่นธรรมชาติจะช่วยปลุกความตื่นเต้นและการรับรู้ทางกลิ่น จะทำให้สุนัขของเราตื่นตัวในการเปลี่ยนบรรยากาศจากที่นอน นั่งที่บ้านทุกวัน เจอแต่สิ่งเดิมๆทุกวันอะไรที่เดิมๆไม่เปลี่ยนแปลง จะยิ่งทำให้สุนัขของเรามีความเบื่อและเป็นโรคซึมเศร้าในสุนัขได้อย่างไม่รู้ตัว
5.การพูดคุยและมีปฏิสัมพันธ์ร่วมระหว่างเรากับสุนัข
เป็นสิ่งสุดท้ายที่ถือว่าจะมองข้ามไปไม่ได้เลย อาจดูเหมือนไม่น่าจำเป็นหรือสำคัญเท่าไหร่ แต่จริงๆมีความสำคัญลึกๆสำหรับสุนัขสูงอายุ ลองคิดดูว่าสิ่งมีชีวิตนึงอยู่ร่วมห้องหรือบ้านกับเราถึงแม้เรากับเค้าอาจพูดกันคนละภาษา แต่หากไม่มีการยิ้ม การคุย เรียก หรือนั่งคุยไปด้วยดูปฏิกิริยาเค้าไปด้วย เช่นหากเราเรียกชื่อสุนัข เค้าวิ่งมาหา นั่งคุยกันไปลูบตัว ลูบคาง ดูเค้าว่าหันหน้าหนี หรือเคลิ้ม ถ้าหันหน้าหนีเราอาจจะคุยกับเค้าว่า เบื่อแม่เหรอลูก ทำไมล่ะ แม่รักหนูนะ มาเดี๋ยวแม่เกาพุงให้ สิ่งเหล่านี้เหมือนเราพูดกับสุนัขแล้วเค้าจะเข้าใจรู้เหรอว่าต้องการอะไร จริงๆ แล้วสุนัขรับรู้ได้ถึงแม้ว่าบางคำ บางภาษาเค้าอาจไม่เข้าใจแต่อย่างน้อยที่สุดเค้ารับรู้ได้ว่าเรารัก และผูกพันกับเค้าไม่อย่างนั้นเราคงไม่มีเวลามานั่งคุยกับสุนัข นั่งจับลูบคาง เกาหัว สิ่งเหล่านี้เรียกว่าเป็นอาหารทางใจที่มองข้ามไปไม่ได้เลย
#สัตว์โลกน่ารัก #เจ้าตูบ #วิธีดูแลสุนัขสูงอายุ