เทคนิคการดูแลสัตว์เลี้ยงที่เจ้าของควรรู้ การตรวจสุขภาพประจำปี

เทคนิคการดูแลสัตว์เลี้ยงที่เจ้าของควรรู้ การตรวจสุขภาพประจำปี

สัตว์เลี้ยงก็มีปัญหาด้านสุขภาพได้เช่นเดียวกับคน ดังนั้นเจ้าของควรพาสัตว์เลี้ยงไปตรวจสุขภาพเป็นประจำเพื่อให้สามารถตรวจพบโรคในระยะเริ่มต้นได้ เรามาดูกันดีกว่าว่าการดูแลสัตว์เลี้ยงให้สุขภาพดี ต้องดูแลในเรื่องใดบ้าง

1.พาไปฉีดวัคซีนตามอายุของสัตว์ เนื่องจากสัตว์เลี้ยงในช่วงอายุ 1-3 เดือนแรกจะมีภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอและเสี่ยงต่อการติดเชื้อต่างๆการรีบพาไปตรวจสุขภาพและฉีดวัคซีน ถ่ายพยาธิจึงสำคัญมาก รวมถึงการฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้าเป็นประจำทุกปี ก็จะทำให้สุนัขและแมวปลอดจากโรคร้ายที่อันตรายถึงขั้นทำให้ตายได้

2.อาบน้ำเป็นประจำ โดยเฉลี่ยสำหรับสุนัขสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ส่วนแมว เดือนละ 1 ครั้ง ทั้งต้องดูแลเรื่องการแปรงขนและการตัดเล็บเพื่อไม่ให้เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคและลดปัญหาโรคผิวหนังเรื้อรังได้

3.อนามัย ควรหมั่นดูแลและคอยป้องกันเห็บ หมัด จนไปถึงพยาธิให้กับน้องหมาหรือน้องแมว อาจจะลองปรึกษาแพทย์ว่ามีแนวทางการป้องกันและดูแลความสะอาดให้กับสัตว์เลี้ยงของเราอย่างไรบ้าง

4.พาสัตว์เลี้ยงไปเดินเล่น ออกกำลังกาย ว่ายน้ำ จะทำให้ลดความเสี่ยงโรคอ้วนและโรคหัวใจได้ ซึ่งระยะเวลาในการออกกำลังกายควรเหมาะสมตามช่วงอายุและตามช่วงอายุและความแข็งแรงของร่างกายสัตว์แต่ละตัวด้วย

5.ดูแลบริเวณที่อยู่อาศัยของสัตว์ไม่ให้อับชื้น หรือมีน้ำขัง เพราะเป็นแหล่งสะสมของยุง แมลง เชื้อโรค ที่ทำให้เกิดโรคเรื้อรังและเสียชีวิตได้

การดูแลเรื่องอาหาร

โภชนาการที่ดีและเหมาะสม ช่วยส่งเสริมให้สัตว์เลี้ยงมีสุขภาพดี อีกทั้งเจ้าของควรรู้อาหารต้องห้ามของสัตว์เลี้ยงที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ เมื่อสุนัขได้กลิ่นหอมๆของอาหารจากห้องครัวทีไรเป็นต้องวิ่งเข้าหาทุกครั้ง และเชื่อว่าเจ้าของทุกคน หากได้หันไปเห็นดวงตากลมๆส่งสัญญาณอ้อนวอนมาเมื่อไหร่ ย่อมต้องใจอ่อนยอมแบ่งอาหารให้ตลอดโดยไม่รู้เลยว่าตัวเองกำลังทำร้ายสุนัขทางอ้อม โดยเฉพาะอาหารชนิดต่างๆเหล่านี้

1.อาหารเด็ก จริงอยู่ที่อาหารเด็กละเอียดกินง่าย และน่าจะช่วยให้ขับถ่ายสะดวก แต่อย่าลืมว่าในอาหารเด็กบางยี่ห้อมีผงหัวหอมผสมอยู่ หากส่วนผสมดังกล่าวเข้าสู่ร่างกายสุนัข ก็อาจทำให้สุนัขเกิดอาการอ่อนเพลีย เซื่องซึม และหัวใจเต้นเร็ว เพราะเซลล์เม็ดเลือดแดงถูกทำลาย

2.อาหารแมว สำหรับคนที่เลี้ยงแมวกับสุนัขไว้ด้วยกัน ควรจะแบ่งแยกประเภทอาหารระหว่างสัตว์เลี้ยงทั้ง 2 ชนิดให้ชัดเจน เพราะอาหารแมวมีปริมาณของโปรตีนและไขมันมากกว่าที่ร่างกายของสุนัขต้องการ

3.อาหารบูดหรือของเน่าเสีย สำหรับเจ้าของที่เห็นว่าอาหารขึ้นรา บูด หรือเน่าเสียและกำลังจะนำไปให้สุนัขกินละก็แนะนำว่าควรนำไปทิ้งดีกว่า หากไม่อยากเห็นสุนัขท้องเสีย อาเจียน หรือทุกข์ทรมานจากอาการข้างเคียง

4.ไข่ดิบ ในไข่ดิบมีเอนไซม์อะวิดินเจือปนอยู่ ซึ่งเอนไซม์ดังกล่าวลดประสิทธิภาพการดูดซับสารไบโอตินในอาหาร สารจำเป็นตอผิวหนังและขนของสุนัข และเป็นผลให้เกิดอาการขนหลุดร่วง เจริญเติบโตช้ากว่าปกติ และมีปัญหาเรื่องกระดูกตามมา

5.ปลาดิบ สารในปลาดิบเป็นต้นเหตุทำให้สุนัขเกิดอาการเบื่ออาหาร ช็อกหมดสติจนถึงขั้นเสียชีวิต นอกจากนี้ยังทำให้เกิดขาดวิตามินบี 1 ที่มีความจำเป็นต่อการเจริญเติบโตด้วย

ภาพจาก : osdco.net

ภาพจาก : hills.co.th

#เทคนิคการดูแลสัตว์เลี้ยง #สัตว์โลกน่ารัก