เคล็ดลับการเลี้ยงสุนัข วิธีกรูมมิ่งสุนัขเบื้องต้น ดูแลความสะอาดสุนัขต้องทำอะไรบ้าง
สำหรับเรื่อง การดูแลความสะอาดสุนัข เป็นสิ่งที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงไม่ได้ สำหรับบางคนก็อาจจะสะดวกที่จะพาน้องหมาไปตามร้านเพื่อให้อาบน้ำตัดขน แต่บางครั้งก็ไม่สะดวกเพราะราคาแพง ไม่สามารถจะพาไปได้บ่อยๆ แต่ก็ไม่อยากให้สุนัขของตัวเองต้องมอมแมม บทความนี้จะมาบอกเกี่ยวกับ วิธีการกรูมมิ่งสุนัข เบื้องต้น ต้องทำอย่างไรบ้าง รับรองว่าไม่อยากเกินความสามารถอย่างแน่นอน 1.วิธีการกรูมมิ่งสุนัข เบื้องต้น – แปรงขนเสมอ เป็นสิ่งที่คุณจะมองข้ามไปไม่ได้ โดยเฉพาะกับน้องหมาที่มีขนสองชั้นหรือขนยาว เพราะว่าถ้าหากคุณละเลยไม่แปรงขนให้กับสุนัขของคุณ ขนของเขาก็จะพันกันยุ่งเหยิง และอาจจะทำให้เจ็บในอนาคตได้ อีกทั้งการแปรงขนของเขาก็จะทำให้เขารู้สึกสดชื่นอีกด้วย ทั้งนี้ควรแปรงขนของเขาทุกวันเพื่อให้ขนที่หลุดร่วงของเขาออกมา และยังทำให้ขนของเขาดูเป็นระเบียบน่ามองมากยิ่งขึ้นอีกด้วย เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมเพลินๆที่คุณสามารถทำให้กับน้องหมาของคุณได้ 2.วิธีการกรูมมิ่งสุนัข เบื้องต้น – อาบน้ำให้เขาอย่างเป็นประจำ สำหรับข้อนี้ดูเหมือนจะเป็นข้อปฏิบัติที่ดูไม่ได้ยุ่งยากอะไร แต่จริงๆแล้วก็มีข้อควรระวังอยู่หลายจุดเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการเลือกแชมพู ที่ไม่ควรเป็นแชมพูที่ก่อให้เกิดการระคายผิวหนังของเขา และเวลาที่อาบน้ำเสร็จก็ต้องมั่นใจว่าเป่าให้แห้งอีกด้วย เพื่อป้องกันการเกิดเชื้อรา ในสุนัขบางตัวที่มีขนหนา ยิ่งต้องเป่าให้แห้งเลย นอกจากนี้ก่อนที่จะอาบน้ำให้กับเขา คุณควรทำการหวีหรือแปรงขนเขาให้เรียบร้อยก่อน ไม่ค่อยปล่อยให้มันพันกันตอนอาบน้ำ เพราะจะทำให้น้องเจ็บ และไม่สามารถทำความสะอาดได้อย่างทั่วถึงได้ 3.วิธีการกรูมมิ่งสุนัข เบื้องต้น – การเช็ดรอบดวงตา เห็นแบบนี้ ขั้นตอนการเช็ดรอบดวงตาก็ไม่ได้สำคัญแค่กับน้องแมวเท่านั้น ยังสำคัญสำหรับน้องหมาด้วยเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะหากคุณอยู่ในพื้นที่ๆมีมลภาวะเยอะๆ เวลาที่เขาออกไปเดินเล่นข้างนอกคุณควรทำความสะอาดรอบๆดวงตาให้เขาด้วย เพื่อให้มีสิ่งสกปรกมาสะสมอยู่รอบๆดวงตาของน้อง และป้องกันการตกค้างของมลภาวะอีกด้วย เพราะดวงตาเป็นอวัยวะที่สำคัญมากๆของน้องหมา ไม่ควรมองข้ามอย่างเด็ดขาด […]
วิธีรักษาเห็บหมัดจากสุนัขที่คุณรัก
จะทำอย่างไรดีเมื่อเจ้าสุนัขที่แสนน่ารักของคุณถูกเห็บหมัดเล่นงานจนสะบักสะบอมไปหมด แน่นอนว่าหลายคนก็ถึงขั้นรักสุนัขมากจนพามันเข้ามาอยู่ในบ้านด้วยเพื่อเป็นเพื่อคลายเหงา แต่คงไม่ดีแน่หากมันจะพาเห็บและหมัดเข้ามาเซย์ฮัลโหลกับคุณจนเพิ่มปริมาณมากขึ้น นอกจากเจ้าสุนัขลูกรักของคุณจะไม่ปลอดภัยแล้ว แม้แต่ตัวคุณเองก็อาจโดนเห็บกัดจนเกิดผื่นและตุ่มเจ็บ ๆ คัน ๆ ทรมานได้ วันนี้เราจึงจะมาแนะนำวิธีรักษาเห็บหมัดจากสุนัขที่คุณรักให้มีขนสวย สะอาด และน่ากอดกันค่ะ รักษาเห็บหมัดโดยอาบน้ำให้สุนัขที่คุณรัก นับเป็นวิธีเบสิกที่ทุกคนย่อมนึกถึงเป็นอย่างแรกในการกำจัดเห็บหมัดออกจากสุนัขที่คุณรักโดยการฟอกสบู่เหลวและแชมพูที่มีฤทธิ์ในการกำจัดเห็บหมัดให้ออกจากสุนัขโดยตรงและอาบด้วยน้ำสะอาด อีกทั้งยังต้องมีการบำรุงโดยใช้ครีมทาตบท้ายเพื่อให้ขนของสุนัขคุณมีความเงางาม สวย และนุ่ม นอกจากจะทำให้เห็บหมัดหลุดออกแล้ว ยังทำให้ตัวของสุนัขแสนรักหอมน่ากอดอีกต่างหาก แต่หากเห็บหมัดเยอะก็อาจจะใช้เวลานานหน่อยนะคะ รักษาเห็บหมัดโดยให้กินยากำจัดเห็บหมัด สมัยนี้วิธีนิยมรูปแบบใหม่ในการกำจัดเห็บหมัดออกจากน้องสุนัขแสนรักก็คือ การให้มันกินยากำจัดเห็บหมัดซึ่งยาที่ได้ผลดีที่สุดและช่วยกำจัดเห็บหมัดออกจากสุนัขได้ไวที่สุดก็คือ “Bravecto” เป็นยาเคี้ยวชนิดก้อนใหญ่ สีน้ำตาลในแผงเดียว ราคาจะค่อนข้างสูงประมาณ 500 บาท แต่รับประทานเพียงไม่กี่วันหมัดและเห็บจะหลุดออกจนหมดแน่นอน อีกทั้งคุณยังสามารถหักแบ่งครึ่งให้สุนัขตัวอื่นกินด้วยได้ใน 1 ก้อน ใช้ได้กับสุนัขจำนวน 3 ตัวเลย แต่หากให้กิน 1 ก้อน ตัวเดียวก็จะออกฤทธิ์ได้ดีกว่า และนอกจากจะฆ่าเห็บหมัดได้แล้ว ยาตัวนี้ยังมีฤทธิ์รักษาโรคขี้เรื้อนในสุนัขได้อีกด้วย รักษาเห็บหมัดโดยตัดขนสุนัข การตัดขนสุนัขให้สั้นลงจะทำให้เห็บหมัดขึ้นมาเกาะได้น้อยมากขึ้นเพราะมีพื้นที่ไม่มากพอ อีกทั้งยังช่วยให้คุณสามารถหาเห็บหมัดเจอได้ง่าย ๆ ในเวลาอาบน้ำและกำจัดอีกด้วย เพราะอย่างนี้สุนัขที่ไม่ได้รับการตัดขนและปล่อยให้ยาวฟุ้งตามธรรมชาติจึงมีเห็บหมัดเยอะ คนรุ่นเก่ายังคงละเลยในเรื่องการตัดขนสุนัขและคิดแค่ว่ามันเป็นแฟชั่นที่วัยรุ่นตัดเพื่อให้เกิดความสวยงามของขนเท่านั้น แต่ความจริงแล้วมันเป็นการป้องกันเห็บหมัดจากสุนัขแสนรักของคุณได้ดีมากทีเดียว ไม่ควรละเลยนะจะบอกให้ ขอบคุณภาพจาก viovet #วิธีรักษาเห็บหมัดจากสุนัข #การกำจัดเห็บหมัด […]
เคล็ดลับการเลี้ยงสุนัข เทคนิคการเลี้ยงลูกสุนัขแรกเกิด เลี้ยงอย่างไรให้เขาแข็งแรง
การเลี้ยงสุนัข ไม่ใช่เรื่องยากก็จริง แต่การที่เราต้องมา เลี้ยงสุนัขแรกเกิด เป็นเรื่องที่ท้าทายหลายๆคนไม่ใช่น้อย เพราะว่าด้วยลักษณะนิสัยบางอย่างของ สุนัขเด็ก ที่มีความแตกต่างจากสุนัขโต แน่นอนว่าวิธีการเลี้ยงก็จะต้องต่างกันออกไปด้วย บทความนี้เลยจะมาแนะนำ วิธีการเลี้ยงสุนัขเด็ก สุนัขแรกเกิด เลี้ยงแบบไหนเขาจะมีสุขภาพที่แข็งแรง 1.ดุแลสุนัขเด็ก ต้องใส่ใจเรื่องความสะอาด ประเด็นนี้เป็นประเด็นที่สำคัญมากๆ เพราะว่าในช่วงแรกเกิดนั้นสุนัขเด็กจะยังไม่มีภูมิคุ้มกันมากนัก เพราะฉะนั้นจึงสามารถเสี่ยงที่จะติดเชื้อหรือเป็นโรคต่างๆได้ง่ายมากๆ เขาจะยังอ่อนแอมากๆในช่วงเวลานี้ เพราะฉะนั้นแล้วเจ้าของควรจะต้องทำการดูแลอย่างใกล้ชิด รวมไปถึงหมั่นทำความสะอาดบริเวณที่ลูกสุนัขต้องอาศัยอยู่เพื่อป้องกันไม่ให้เขาเป็นโรค หรือป่วยไปนั่นเอง 2.ดูแลสุนัขเด็ก สารอาหารเป็นเรื่องสำคัญ ในช่วยเดือนแรกเป็นช่วงที่ลูกสุนัขจะต้องการนมแม่มากๆ เพราะฉะนั้นแล้วคุณควรดูแลเรื่องอาหารของแม่สุนัขเพื่อให้มั่นใจว่าเขาจะได้รับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการที่สูงและเพียงพอ เพื่อไม่ให้เขาต้องขาดสารอาหารไป แล้วอย่าลืมที่จะคอยหมั่นสังเกตในเรื่องน้ำหนักของลูกสุนัขด้วย ว่ามีตัวไหนที่โตช้ากว่าตัวอื่นเป็นพิเศษหรือไม่ เพราะนั่นหมายความว่าเขาอาจจะได้รับสารอาหารที่ไม่เพียงพอก็เป็นได้ ทางที่ดีคุณควรชั่งน้ำหนักเอาไว้บ้าง เพื่อทำการเปรียบเทียบและจะสามารถเห็นถึงการเจริญเติบโตของเขาได้มากยิ่งขึ้น 3.ดูแลสุนัขเด็ก พาไปเข้าสังคม เรื่องนี้เป็นสิ่งที่จะทำให้คุณสามารถปลูกฝังนิสัยของสุนัขของคุณได้ โดยที่ลูกสุนัขที่มีอายุตั้งแต่หนึ่งเดือนขึ้นไป เขาพร้อมที่จะไปทำความรู้จัก หรือทำความคุ้นเคยกับสิ่งมีชีวิตอื่นๆแล้ว คุณสามารถพาเขาออกไปเจอผู้คน เล่นกัยลูกสุนัขตัวอื่น หรือพาไปเจอสิ่งมีชีวิตอื่นๆ เพื่อให้เขาคุ้นเคย และเกิดความเคยชินเมื่อเห็นสิ่งมีชีวิตที่นอกจากเขาแลละคุณ เพราะตรงจุดนี้จะสามารถปลูกฝังให้เขาไม่กลายเป็นสุนัขที่ก้าวร้าว หรือไม่น่ารักได้ เป็นการเริ่มต้นทำให้เขามีพฤติกรรมดีๆที่เป็นมิตรกับผู้อื่น 4.ดูแลสุนัข ต้องให้ความอบอุ่น คุณจะสังเกตได้ว่าลูกสุนัขนั้นมักจะต้องการความอบอุ่น หากในคอกนั้นมีลูกสุนัขไม่เยอะคุณสามารถให้ความอบอุ่นด้วยการเปิดโคมไฟเพื่อสร้างความอบอุ่นให้แก่เขาได้ แต่ถ้าเขาเริ่มโตคุณอาจจะต้องเว้นระยะห่างมากยิ่งขึ้น เพื่อไม่ให้เขารู้สึกร้อนจนเกิดไป แล้วถ้ายิ่งลูกสุนัขของคุณเป็นลูกสุนัขตัวเดียว ก็ยิ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆที่คุณจะต้องดูแลให้เขาได้รับความอบอุ่นอยู่ที่เพียวพอ อาจจะดูเป็น […]
วิธีควบคุมน้ำหนักสุนัขให้ได้ผลและมีความสุขด้วยกัน
ปัญหาแก้ไม่ตกสำหรับผู้เลี้ยงสุนัขที่ต้องเจอกับภาวะสุนัขของตัวเองที่มีพฤติกรรมการกินเท่าไหร่ก็ไม่อิ่ม อีกทั้งเมื่อจะควบคุมอาหารก็เกิดปัญหากับสุนัขที่ไม่เข้าใจและมีการตอบสนองที่อาจจะไม่น่ารัก เช่น อารมณ์หงุดหงิด กัดข้าวของ ดื้อ รบเร้า รวมถึงการอาเจียนเนื่องจากเคยกินปริมาณอาหารที่มากมาก่อนหน้านั้น สิ่งสำคัญไม่ได้อยู่ที่การควบคุมน้ำหนักสุนัขเพียงอย่างเดียวแต่ต้องควบคู่กับความสุขระหว่างผู้เลี้ยง และตัวสุนัขเองด้วย 1.ค่อยเป็นค่อยไป เมื่อเราคิดจะลดปริมาณอาหาร จำกัดอาหาร หรือควบคุมอาหารให้สุนัขของเราอันเนื่องจากปัญหาความอ้วนที่มากเกินไป ซึ่งโรคอ้วนในสุนัขก็มีผลร้ายไม่ต่างไปจากโรคอ้วนที่เกิดขึ้นกับมนุษย์ การค่อยๆ ลดปริมาณอาหารแบบทีละนิดจะเป็นข้อดีตรงที่ไม่ทำให้สุนัขรู้สึกได้ และไม่เกิดความเครียดในสุนัข การลดปริมาณอาหารหากให้เป็นอาหารเม็ดอาจค่อยๆ ลดจากที่ให้เต็มชามนำออกไป 3-4 เม็ด ในทุกมื้อให้ทำยาวเป็นอาทิตย์ และอาทิตย์ถัดไปนำออกไปอีก 3-4 เม็ด ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนครบเดือนจากที่ให้ 3 มื้อในบางบ้านลดเหลือ 2 มื้อทำไป 2 เดือนเพื่อให้สุนัขอยู่ตัวและไม่เกิดความโหย เพราะในสุนัขบางพันธุ์ที่ต้องใช้พลังหรือบ้าพลังอาจต้องใช้เวลาในการคุมอาหาร 1-2 เดือน จึงค่อยลดปริมาณอาหารมากกว่านั้น 2.นำผลไม้ หรือขนมที่มีประโยชน์เข้ามาเสริม ในกรณีที่ต้องลดมื้ออาหารสุนัขสำหรับบางบ้าน เช่นเคยให้กิน 3 มื้อต้องการลดให้เหลือ 2 มื้อ และวันละมื้อในที่สุด การเลือกให้กินผลไม้เล็กๆ น้อยๆ บ้างหากสุนัขบ้านนั้นเคยชินในการกินผลไม้มาก่อน หรือผู้เลี้ยงอาจหาเวลาในการทำขนม หรืออาหารเสริมมาแทนมื้ออาหารที่ลดออกไป ซึ่งมีสอนทางคลิปมากมายไม่ว่าจะเป็นฟักทอง กล้วย ไข่ […]
เมื่ออยากเลี้ยงสัตว์ที่หลากหลายชนิด ควรเตรียมตัวอย่างไร
ในแต่ละบ้านอาจมีความหลงใหล หรือชอบสัตว์เลี้ยงที่แตกต่างชนิดกันไปรวมถึงสมาชิกในบ้าน ที่อาจมีความต้องการเลี้ยงสัตว์ที่หลากหลายชนิดเช่นกัน การที่จะนำสัตว์เลี้ยงแต่ละตัว หรือหลากหลากชนิดเข้ามาเลี้ยงร่วมกันในบ้าน จะต้องมีการดูแล หรือเตรียมตัว วางแผนเรื่องอะไรบ้าง ที่จะช่วยเรื่องความปลอดภัย และคุณภาพการอยู่ในที่อยู่อาศัยร่วมกันระหว่างเจ้าของ และสัตว์เลี้ยงแต่ละตัวอย่างมีความสุขร่วมกัน 1.รู้ลักษณะนิสัย และการกินอยู่ของสัตว์ชนิดที่เราจะนำมาเลี้ยง ข้อนี้เป็นเรื่องสำคัญมากที่สุด สำหรับการพิจารณาสัตว์เลี้ยงแต่ละชนิดมาเลี้ยงร่วมกันในบ้าน (สถานที่อยู่อาศัยเดียวกัน) โดยเฉพาะผู้เลี้ยงที่มีพื้นที่อยู่อาศัยที่จำกัด หรือพื้นที่อยู่อาศัยที่ไม่ได้กว้างมาก การเลือกสัตว์เลี้ยงที่จะมาอยู่ร่วมกันไม่ควรมีลักษณะนิสัยที่ขัดแย้งกันมาก หรือมีการกินอยู่ที่ขัดแย้งกันมาก ตัวอย่างที่จะเห็นได้ชัดเจนสำหรับเมืองนอกที่มีข่าวว่า บางครอบครัวนำเอาหมูแคระมาเลี้ยงไว้ที่บ้าน และหากบ้านนั้นมีเลี้ยงสุนัข หรือแมวที่ต้องอยู่ร่วมกับหมูแคระด้วยแล้ว ลักษณะนิสัยของแมวคือ ในบางครั้งต้องการที่จะมีความเป็นส่วนตัว หรือสุนัขที่ต้องการความรักจากเจ้าของมาก ต้องการเวลาจากเจ้าของมาก หากต้องอยู่ร่วมกับหมูแคระที่มีลักษณะนิสัยที่ชอบเดิน ขุดคุ้ยไปทั่วบ้าน ตัวใหญ่ ปัญหาที่จะเจอจะตกอยู่ที่สุนัข หรือแมวที่ต้องอยู่ร่วมกับหมูแคระ เพราะหากมีสัตว์ที่นำมาเลี้ยงมีความขัดแย้งในพื้นฐานนิสัยกันมากเกินไป ก็อาจทำให้การอยู่ร่วมกันมีปัญหา หรือมีความสุขได้น้อย 2.สัตว์ที่เป็นคู่ศัตรูกันสามารถอยู่ร่วมกันได้ หากฝึกฝนตั้งแต่แรก อย่างที่คนบอกกันจนเรารับรู้ว่าเป็นสัตว์ที่ถือว่าเป็นคู่อริกันอย่างเช่น สุนัขกับแมว แมวกับปลาทองที่เลี้ยงในตู้ปลา แมวกับหนูแกสบี้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราสามารถแก้ได้ด้วยการสร้างความผูกพันตั้งแต่วัยเด็ก หรือตั้งแต่แรกที่ได้เจอกัน (วิธีที่ดีที่สุดคือ รับมาตั้งแต่อายุยังน้อยทั้งคู่ และให้ปรับตัวคุ้นเคยกันตั้งแต่เด็ก) เป็นตัวอย่างเช่น สุนัขกับแมว ที่หากเรารับมาเลี้ยงตั้งแต่เด็ก หรือตั้งแต่เริ่มเข้ามาในบ้าน และเห็นหน้ากันครั้งแรกให้ทำความคุ้นเคยกัน ดมกลิ่น และมีโอกาสอยู่ใกล้กันตลอดในช่วงแรก (ที่เจ้าของต้องอยู่ดูแลใกล้ๆ) […]
5 เคล็ดลับที่ช่วยให้สุนัขอายุยืนยาว
สำหรับคนเลี้ยงสุนัขในตอนแรกที่เราเริ่มเลี้ยงสุนัขหรือแม้กระทั่งสัตว์เลี้ยงอื่นๆ ในช่วงเวลาที่สัตว์เลี้ยงของเรามีอายุที่ยังน้อยอยู่ความแข็งแรงของร่างกายก็ยังมีประสิทธิภาพอยู่ในระดับที่ไม่น่าเป็นห่วง แต่ในบางครอบครัวที่ประสบกับช่วงเวลาที่สุนัขหรือสัตว์เลี้ยงเราเริ่มอายุมากขึ้นเข้าสู่วัยชราไม่ว่าจะเป็นโรคภัยต่างๆก็เข้ามา จนในวันนี้บทความจะพูดถึงการเตรียมการณ์เริ่มแรกตั้งแต่เรานำสุนัขรวมถึงสัตว์เลี้ยงทุกประเภทเข้ามาเลี้ยงอย่างไรให้เป็นการปูพื้นฐานเพื่อให้สัตว์เลี้ยงของเรามีสุขภาพที่ดี และแข็งแรงอย่างมีรากฐานที่มั่นคงเพื่อเตรียมไปถึงตอนที่เข้าสู่ช่วงวัยที่อายุมากขึ้นได้ 1.อาหารที่กินเพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงทางด้านร่างกาย เจ้าของควรศึกษาอาหารหลักที่ควรให้กับสัตว์เลี้ยงของเราไม่ว่าจะเป็นสุนัข แมว นก กระต่าย หรือสัตว์เลี้ยงอื่นๆ ว่าอาหารที่เราให้เป็นหลักควรให้เป็นอาหารแบบไหน และควรมีอาหารเสริมอะไรบ้างเพราะอาหารถือว่ามีปัจจัยสำคัญต่อร่างกายของสัตว์เลี้ยง 2.หมั่นพาออกไปเที่ยวนอกสถานที่ หรือที่ๆสร้างความตื่นตาตื่นใจ การพาสัตว์เลี้ยงพาออกนอกสถานที่เพื่อเป็นการเปลี่ยนสถานที่แปลกใหม่ให้ทั้งกับเรา สมาชิกในครอบครัวและสัตว์เลี้ยงถือว่าเป็นการใช้เวลาที่ดีร่วมกัน และการพาสัตว์เลี้ยงได้ออกนอกสถานที่โดยเฉพาะที่ๆมีกลิ่นของต้นไม้ ทะเล ลม กลิ่นหญ้าให้กับสัตว์เลี้ยงของเราถือว่าเป็นการเพิ่มความแข็งแรงทางจิตใจ ได้รับอากาศบริสุทธิ์ช่วยเสริมให้ร่างกายแข็งแรงไปด้วย อาจพาออกต่างจังหวัดบ้างเดือนละครั้งเป็นอย่างน้อย 3.ความอบอุ่นทางใจ อาหารใจก็มีส่วนสำคัญ เรื่องสำคัญที่สุดนอกจากอาหารที่กินเพื่อบำรุงทางร่างกายเรื่องอาหารทางใจก็มีส่วนสำคัญไม่น้อยกว่ากัน อย่างสุนัขบางตัวไม่จำเป็นต้องกินมากมายแต่เรื่องความรัก การเอาใจใส่เป็นเรื่องสำคัญมากๆ โดยเฉพาะสุนัขที่เป็นพันธุ์เล็กที่อารมณ์จะอ่อนไหวมาก ขี้เหงา คิดมาก น้อยใจ ดังนั้นหากมีเวลาในแต่ละวันหาเวลามาเล่นหรือพูดคุยกับสัตว์เลี้ยงที่บ้านเพื่อสร้างความสนิทสนม ใกล้ชิด การเข้าใจกันมากขึ้น 4.สร้างความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัว เรื่องนี้จะเน้นพิเศษสำหรับบ้านที่มีการมีสัตว์เลี้ยงก่อนหน้าภายหลังมีลูกหรือสมาชิกตัวเล็กเพิ่มขึ้นมา จุดเล็กๆจุดนี้อาจสร้างความห่างของสัตว์เลี้ยงและสมาชิกในครอบครัวได้โดยลืมและหันไปให้ความรัก ใส่ใจกับเด็กที่เพิ่งคลอดเป็นพิเศษ เป็นไปได้พยายามให้สัตว์เลี้ยงในบ้านมีส่วนร่วมในกิจกรรมในครอบครัว มีส่วนร่วมกับการพูดคุยสำหรับสมาชิกในบ้าน หรือแม้แต่ทำกิจกรรมใดๆ ออกเที่ยว เดินเล่นให้สัตว์เลี้ยงเสมือนเป็นหนึ่งในสมาชิกในบ้านจะช่วยให้สุขภาพจิตของสัตว์เลี้ยงเราแข็งแรง ได้รับการเติมเต็มด้วยความรักมากขึ้น 5.ช่วงเวลาอาหารเป็นเวลาสำคัญของครอบครัว มีหลายครอบครัวที่ถึงเวลาอาหารค่ำ หรืออาหารเย็นที่กินพร้อมหน้าพร้อมตากันแล้วจะต้องมีสัตว์เลี้ยงอย่างสุนัข หรือแมวที่ให้อาหารกินพร้อมกันกับสมาชิกในครอบครัวด้วย ช่วงเวลากินข้าวถือว่าเป็นเวลาสำคัญที่แสดงความเป็นส่วนหนึ่งส่วนเดียวกันหากสมาชิกทุกคนในครอบครัวนั่งกินข้าวที่โต๊ะแต่สุนัขรอกินอยู่ข้างๆ สัตว์เลี้ยงจะมีความรู้สึกที่เหมือนโดนละความสนใจทิ้งให้อยู่ตัวเดียว ดังนั้นการให้กินอาหารพร้อมกันอาจไม่ต้องอยู่บนโต๊ะเดียวกัน สุนัขก็จะมีชามอาหารที่พื้นส่วนตัวแต่กินพร้อมกันกับสมาชิกในครอบครัวเป็นความรู้สึกเล็กๆที่ไม่ควรมองข้ามา ขอบคุณภาพจาก guideposts […]
หลักพื้นฐานที่ไม่ควรมองข้ามเพื่อช่วยให้สุนัขมีอายุยืนยาวพร้อมสุขภาพแข็งแรง
เรารักใครก็อยากจะให้คนนั้นอยู่กับเราไปนานๆ พร้อมสุขภาพที่แข็งแรงไปด้วยกันไม่เว้นแม้แต่สุนัข ที่เป็นทั้งเพื่อน ลูกคนโปรด หรือพี่ (สำหรับสุนัขที่ได้รับการเลี้ยงพร้อมกับเด็กที่โตมาด้วยกัน) การนำสุนัขมาเลี้ยงในส่วนของผู้ที่มีความรักสุนัขจะเปรียบสุนัขเสมือนสมาชิกคนหนึ่งในบ้าน ในครอบครัว ที่มีให้ทั้งความรัก และความเอ็นดูรวมถึงความน่ารัก ขี้อ้อนของเหล่าสุนัขหลากหลายสายพันธุ์ก็เหมือนเป็นการส่งต่อความรักซึ่งกันและกัน การที่เรารักสุนัข และเลี้ยงสุนัขอย่างดีที่สุด ในบางครั้งเราก็ลืมความสำคัญบางอย่างที่เราควรใส่ใจสัตว์เลี้ยงของเรา ซึ่งโดยหลักๆ แล้วมีไม่กี่อย่างที่ควรใส่ใจเพื่อให้สัตว์เลี้ยง หรือสุนัขของเราอยู่กับเราได้นานๆ ด้วยสุขภาพที่แข็งแรงไปตลอด 1.ใส่ใจเรื่องอาหาร อาหาร ถือว่าเป็นคีย์เวิร์ดที่สำคัญทีเดียวสำหรับสุขภาพของสุนัข ทางเลือกของอาหารสำหรับสุนัขในปัจจุบันจึงมีมากมาย ขึ้นอยู่ที่การพิจารณาในส่วนของตัวเจ้าของสุนัข และตัวสุนัขเองว่านอกจากประโยชน์จากอาหารที่จะได้แล้ว ตัวสุนัขยังมีความต้องการที่จะกินด้วยหรือไม่ และเจ้าของมีความสะดวกแค่ไหนในการที่จะทำให้สุนัขกินได้ตลอด อาหารบาร์ฟ (อาหารเนื้อสัตว์ ไข่ดิบ) ตรงนี้ค่อยๆ เป็นที่นิยมมากขึ้นใน 1-2 ปีที่ผ่านมา เพราะมีการพูดถึงในเรื่องการให้สุนัขได้กินอาหารที่เป็นเนื้อสัตว์ดิบเพื่อให้พวกเขากลับคืนสู่ความเป็นธรรมชาติดั้งเดิมที่ สัตว์เหล่านี้จะมีการดำรงชีวิตในการกินอาหารดิบมานาน ประโยชน์คือ การย่อยง่าย ได้รับสารอาหารที่สมบูรณ์ แต่สิ่งที่น่าห่วงคือ ต้องสรรหาจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ และสะอาดมากๆ เพราะเป็นเนื้อสัตว์ที่ติดโรคระบาดเมื่อสุนัขกินเข้าไปก็อาจเกิดปัญหาได้ ดังนั้นจึงเป็นสิ่งที่ควรพิจารณาอย่างยิ่งสำหรับเจ้าของว่าควรหรือไม่ และมีความสะดวกในการเลือกหาหรือไม่ เพราะในกรณ๊ที่ซื้อเนื้อสัตว์สดมาเกิน 1 วันและแช่ช่องแข็งก็หมายถึงความไม่สดของเนื้อสัตว์ การแช่เย็นไม่ว่าจะเป็นอุณหภูมิที่ติดลบแค่ไหนก็อาจเกิดเชื้อโรคขึ้นในเนื้อสัตว์ได้ อาหารเม็ด หรืออาหารที่ทำเองสายคลีน อีกทางเลือกหนึ่งคือ อาหารเม็ดสำหรับสุนัขที่เราเห็นหลากหลายแบรนด์ไม่ว่าจะเป็นระดับราคาธรรมดา จนถึงระดับพรีเมี่ยม และมีการเพิ่มตัวเลือกมากขึ้นสำหรับสุนัขสายพันธุ์เล็ก พันธุ์ใหญ่ […]
เคล็ดลับการเลี้ยงสุนัข อาหารบำรุงข้อสุนัข หมดปัญหากวนใจ เรื่อง โรคข้อในสุนัข
หากสุนัขที่คุณเลี้ยงเริ่มมีท่าทีที่เปลี่ยนไป มีการเคลื่อนไหวที่ช้าลง ดูอ่อนแรง ไม่กระฉับกระเฉง มีความลังเลในการกระโดด สุนัขของคุณอาจจะมีอาการเจ็บปวดจากการเป็น โรคข้อในสุนัข ก็เป็นได้ ซึ่งโรคข้อนี้จะทำให้ได้น้องหมาของคุณอยู่ในความเจ็บปวด และเกิดความหงุดหงิด เพราะฉะนั้นแล้วบทความนี้มี มีอาหารสำหรับการบำรุงข้อสุนัข มาฝากกัน อาหารบำรุงข้อสุนัข – ผักใบเขียว หลายๆคนอาจจะลังเลที่จะให้น้องหมาได้กินผัก ขอบอกเลยว่าสุนัขเป็นสัตว์ที่สามารกินผักได้ แต่ผักบางชนิดก็ควรที่จะต้องหลีกเลี่ยง แต่ผักบางชนิดก็ดีต่อสุขภาพของเขาอย่างเช่น ผักคะน้า ผักโขม ผักเหล่านี้จะมีสารต้านอนุมูลอิสระ ลดอาการอักเสบ เพราะฉะนั้นหากสุนัขของคุณไม่มีปัญหาเรื่องการขับถ่าย ขอแนะนำว่าให้คุณลองทำอาหารสุนัขจากผักเหล่านี้ดู อาหารบำรุงข้อสุนัข – หอยแมลงภู่ สำหรับอาหารชนิดนี้ขอบอกเลยว่าอาจจะดูเป็นอาหารที่หลายๆคนคิดว่าไม่เหมาะกับการเป็นอาหารสุนัขสักเท่าไร แต่ว่าหอยแมลงภู่นั้นเป็นอาหารชั้นดีสำหรับน้องหมาที่กำลังจะต้องเจอกับอาการเจ็บปวดโรคข้ออักเสบ เพราะว่าเจ้าหอยแมลงภู่นั้นจะมีกลูโคซามีน คอรดรอยติน กรดไฮยาลูรอนนิก ซึ่งสารเหล่านี้จะเป็นสารที่บำรุงข้อของน้องหมา และยังมีโอเมก้า 3 ที่จะมาช่วยในเรื่องของอาการอักเสบอีกด้วย อาหารบำรุงข้อ – ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ กลุ่มผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ เป็นกลุ่มผลไม้ที่จะมีน้ำตาลน้อยกว่าผลไม้ทั่วไป และมีสารที่ต้านการอักเสบอยู่สูง มีวิตามินและแร่ธาตุหลากหลายชนิดด้วยกันเพราะฉะนั้นหากคุณกำลังหาของว่างที่จะช่วยลดอาการอักเสบในข้อของน้องหมาแล้ว ลองแช่ผลไม้เหล่านี้แล้วเอามาให้เขากินดู เพราะจะช่วยเพิ่มความสดชื่นและยังดีต่อสุขภาพข้อของพวกเขาอีกด้วย นอกจากสรรพคุณที่จะมาเยียวเรื่องการอักเสบแล้วก็ยังสามารถทำให้ร่างกายมีภูมิต้านทานที่แข็งแรงมากขึ้นอีกด้วย อาหารบำรุงข้อ – ปลาแซลมอน ปลาแซลมอนเป็นปลาที่อุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งดีต่อสุนัขอยู่แล้ว ช่วยป้องกันและลดอาการอักเสบ […]
เทคนิคการเลี้ยงสุนัข 4 ข้อควรรู้ให้ทันสัญชาตญาณของสุนัข
ถึงแม้น้องหมาจะเป็นสัตว์เลี้ยงที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดให้กับมนุษย์ แต่ถถึงอย่างไรก็ตามเขาก็ยังคงเป็นสัตว์ตัวหนึ่ง เพราะฉะนั้นแล้ว สัญชาตญาณสุนัข ของเขานั้นก็จะยังมีอยู่ บทความนี้จะพาคุณมารู้จักกับสัญชาตญาณสัตว์เลี้ยงแสนรักของคุณ มาดูกันว่า นิสัยสุนัข แบบไหนที่คุณควรจะต้องรู้เอาไว้ สัญชาตญาณสุนัข – การทักทายด้วยการดม คุณอาจจะเห็นอยู่บ่อยๆว่าสุนัขของคุณนั้นชอบที่จะเดินเข้ามาดมก้นของคุณ หรือดมด้นสุนัขตัวอื่น นั่นคือวิธีการทักทายของเขา สัญชาตญาณนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับสุนัขแปลกหน้าและสุนัขที่คุ้นเคย เพราะว่าในแต่ละตัวนั้นจะมีกลิ่นเฉพาะที่แตกต่างกันออกไป อีกทั้งในบางกรณีก็สามารถดมเพื่อตรวจสอบพฤติกรรมหลังจากออกไปข้างนอกมาได้อีกด้วย สัญชาตญาณสุนัข – การขึ้นขี่เพื่อแสดงอำนาจที่เหนือกว่า หลายๆคนอาจจะเกิดการเข้าใจผิดเมื่อสุนัขนั้นพยายามที่จะขึ้นขี่สุนัขตัวอื่น รวมไปถึงเจ้าของหรือสิ่งของในบางครั้ง นั่นไม่ได้หมายความว่าน้องหมาของคุณเกิดอารมณ์ทางเพศเสมอไป เพราะว่าจริงๆแล้วท่าทางแบบนั้นก็เป็นหนึ่งในสัญชาตญาณของสุนัขที่พยายามจะข่มอีกฝ่ายนั่นเอง เขาพยายามแสดงความเป็นเจ้าของ และวางท่าทีการอยู่เหนือกว่าอีกฝ่าย เพราะฉะนั้นแล้วเวลาเห็นเขาขึ้นไปขี่สุนัขตัวอื่น หรือสิ่งของ ก็อย่าเพิ่งไปด่วนตัดสินว่าน้องหมาของคุณอยากจะผสมพันธุ์เพียงอย่างเดียว สัญชาตญาณสุนัข – น้องหมาตัวผู้มักแย่งอำนาจกันเอง สำหรับคนเลี้ยงน้องหมาที่มีตัวผู้เยอะ อาจจะเจอกับเหตุการณ์นี้อยู่บ่อยๆ เพราะว่าหมาตัวผู้เวลาอยู่ด้วยกันนั้นเขามักจะแสดงอาการเพื่อแย่งชิงอำนาจต่อกัน หรือในบางครั้งก็เป็นการแย่งตัวเมีย คุณจะสังเกตได้ว่าลักษณะพฤติกรรมแบบนี้มักจะเกิดขึ้นกับหมาตัวผู้และหมาตัวผู้ น้อยมากที่จะเกิดขึ้นระหว่างหมาตัวเมียและหมาตัวผู้ สำหรับเจ้าของคนไหนที่กำลังหนักใจอยู่กับปัญหานี้ ขอแนะนำว่าให้พาน้องหมาของคุณไปทำหมัน เพราะว่าจะลดความก้าวร้าวและอารมณ์ทางเพศลงได้ สัญชาตญาณสุนัข – เชื่อฟังผู้นำหรือจ่าฝูง ข้อนี้หลายๆคนคงทราบกันดีอยู่แล้วว่าน้องหมานั้นจะมีลักษณะพฤติกรรมที่เชื่อฟังจ่าฝูงของพวกเขา เพราะฉะนั้นแล้ว หากคุณเป็นเจ้าของน้องหมาที่ไม่ต้องการจะมาเจอกับปัญหาน้องหมาเอาแต่ใจและไม่เชื่อฟังคำสั่งคุณทีหลัง คุณควรฝึกให้น้องหมาของคุณเข้าใจว่าคุณคือจ่าฝูงตั้งแต่แรกๆ เพื่อให้ง่ายต่อการควบคุมพฤ๖กรรมของเขาให้เชื่อฟังคำสั่งของคุณ เป็นหนึ่ง สัญชาตญาณสุนัขพื้นฐาน ที่คุณต้องรู้ก่อนที่จะเลี้ยงน้องหมาเลยทีเดียวสำหรับข้อนี้ #เทคนิคการเลี้ยงสุนัข #นิสัยสุนัข […]
สำคัญแค่ไหนที่เราและสัตว์เลี้ยงต้องเรียนรู้ซึ่งกันและกัน
หากเราพูดถึงสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะสัตว์เลี้ยงที่แสนรู้อย่าง สุนัข แล้วนั้นเราทุกคนต่างมองเห็นว่าเมื่อนำสัตว์เลี้ยงไม่ว่าจะเป็นสัตว์เลี้ยงชนิดไหนเราต่างคาดหวังถึงเรื่องความสุข การเห็น ได้สัมผัสสัตว์เลี้ยงเหล่านั้นแล้วช่วยให้หายเหนื่อย และคลายเครียด แต่มีเรื่องหนึ่งที่เราไม่ควรมองข้ามคือ เมื่อเราอยู่ร่วมกันอย่างใกล้ชิดในบ้านหลังเดียวกันนั้น การเรียนรู้ในความเป็นตัวของตนของแต่ละฝ่ายเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะการเรียนรู้ ปรับตัว และเข้าใจไม่ใช่หน้าที่ของสัตว์เลี้ยงเพียงอย่างเดียว แต่หากเดินเข้ามาหากันคนละครึ่งทาง หันมาทำการเรียนรู้ เข้าใจ จะทำให้มีผลดีมากขึ้นทั้งในเรื่องการอยู่ร่วมกันจนถึงความปลอดภัยของสัตว์เลี้ยง และการเรียนรู้ซึ่งกันและกันจะทำให้เกิดความสุขมากกว่าอย่างที่เราไม่คาดคิดทีเดียว 1.มองออกว่าเวลา และจังหวะไหนที่อีกฝ่ายต้องการอะไร สิ่งเหล่านี้อาจจะไม่ได้มาง่ายๆ หรือภายในเดือนเดียวทั้งตัวเรา และสัตว์เลี้ยงจะมองออก หรือเข้าใจกันว่าอีกฝ่ายอารมณ์ไหน แต่เมื่อผ่านการค่อยๆ เรียนรู้ซึ่งกันและกันแล้วจะทำให้การมองเห็นว่า ช่วงเวลานี้ประกอบกับจังหวะนี้อีกฝ่ายต้องการอะไรอย่างเช่น ช่วงเวลาเที่ยง บ่ายๆ ที่อากาศอบอ้าวสัตว์เลี้ยงส่วนใหญ่มักจะชอบที่จะใช้เวลาช่วงนี้ในการนอนหลับ พักผ่อน ไม่ว่าจะเป็นการเปิดแอร์ พัดลม หรือให้อยู่ในที่ๆ มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก มีลมพัด เหมือนกับการที่หลังจากสุนัขกินข้าวอิ่มส่วนใหญ่ก็มักจะนั่งย่อยอาหาร หรือนอนหลับพัก และสุนัขเมื่อเห็นเราทำกิจกรรมอะไรเดิมๆ ทุกวันก็จะเรียนรู้ว่าช่วงเวลานี้คือ ห้ามรบกวน หรือเข้ามาเล่นได้ 2.ป้องกันสิ่งที่คาดไม่ถึง เรื่องนี้อาจจะต้องเป็นฝ่ายเจ้าของที่เน้นเป็นหลักในการเรียนรู้สัตว์เลี้ยงว่ามีลักษณะนิสัยอย่างไร เมื่ออยู่ในสถานการณ์แบบไหนจะเกิดอะไรขึ้นอย่างเช่น สุนัขตัวนี้มีนิสัยที่เวลาอยู่หน้าบ้านตัวเดียวจะพยายามเปิดประตูรั้วเพื่อวิ่งเล่นนอกบ้าน หรือเมื่อสุนัข 2 ตัวนี้อยู่กันลำพังจะมีเรื่องทำร้ายกัน เพราะสิ่งเหล่านี้หากเราเรียนรู้ สังเกต จะช่วยได้อย่างมากสำหรับการป้องกันเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นในแบบไม่คาดคิด ป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้นให้กับสัตว์เลี้ยงของเรา 3.ลดการเกิดปัญหา […]
วิธีไหนช่วยให้สุนัขต่างนิสัยอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข
สำหรับสายรักสุนัขมีคนบอกกันว่าอย่าได้คิดเลี้ยงเพราะถ้าได้เริ่มเลี้ยงแล้วจะค่อยๆ เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เราจะเห็นได้จากหลายคนที่เลี้ยงไปได้แค่เดือนสองเดือนกลับมาอีกทีสุนัขเพิ่มมากขึ้นอีก 2-3 ตัวเป็นอย่างน้อย และสิ่งที่มาพร้อมกับสุนัขที่อยู่กันพร้อมหลายตัวคือ บุคลิก นิสัยของสุนัขที่แตกต่างกันจะทำให้เกิดการาเข้ากันไม่ได้สำหรับสุนัขบางตัว อย่างเช่น สุนัขตัวที่ก้าวร้าวแสดงตัวเป็นจ่าฝูงคุมทุกตัว หรือเสมือนตัวเองเป็นเจ้าของบ้านอยากเป็นตัวที่เจ้าของรักที่สุด หวงเจ้าของ ปัญหาที่เห็นได้บ่อยๆคือ เมื่อให้อาหาร หรือให้ความใส่ใจ เล่นหรือมีกิจกรรมใดๆ ด้วยจะต้องให้ความสำคัญสุนัขตัวนี้มาก่อน ในทางกลับกันสุนัขบางตัวก็ขี้น้อยใจ และเจียมเนื้อเจียมตัวจะเป็นตัวหลักที่โดนรังแก และต้องพาตัวเองอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยในบ้านโดยการอยู่ให้ห่างจากเจ้าของเพื่อไม่ให้มีปัญหา หรือเป็นสุนัขที่เดินมากินอาหารเป็นตัวหลังๆ ไม่ค่อยได้ร่วมเล่นกิจกรรมทั้งกับเจ้าของ และสุนัขด้วยกันเอง ซึ่งปัญหาเหล่านี้ถ้าเราที่เป็นเจ้าของ และถือว่าเป็นจ่าฝูงของทุกตัวแก้ไขได้จะช่วยให้ทุกคน และทุกตัวอยู่ร่วมกันในบ้านอย่างมีความสุข 1.เรียนรู้นิสัยพื้นฐานสุนัขแต่ละตัว ก่อนอื่นที่เราจะแก้ไขปัญหาความต่างของนิสัยสุนัขเราต้องรู้ก่อนว่าสุนัขแต่ละตัวของเรามีลักษณะเด่นอะไรบ้าง นิสัยด้อยคืออะไรบ้าง สิ่งเหล่านี้จะทำให้เรารู้ลึกลงไปว่าสุนัขตัวไหนที่มีนิสัยพื้นฐานที่ตรงข้ามอาจมีสิทธิที่จะมีความเข้ากันไม่ด้า 2.เร้าสถานการณ์ให้เกิดขึ้น เมื่อผ่านขั้นตอนแรกที่เราสังเกต และรับรู้ว่าสุนัขแต่ละตัวมีนิสัยเด่นอะไรบ้าง นิสัยด้อยอะไรบ้าง เมื่อรู้แล้วเราตั้งใจทำให้สถานการณ์ปัญหานั้นเกิดขึ้นต่อหน้าเราเพื่อที่เราจะแก้ปัญหาตรงนั้นได้ตรงจุด และตรงกับเหตุการณ์นั้นทันที ยกตัวอย่างเช่น มีสุนัข 2 ตัวที่ไม่ถูกกันเป็นลักษณะนิสัยที่ตรงข้ามกัน สุนัขตัวแรกมีนิสัยก้าวร้าว ต้องการเป็นที่หนึ่ง ต้องการเป็นจ่าฝูงและถือว่าตัวเองเป็นเจ้าของบ้านตัวเดียว กับอีกตัวที่เจียมเนื้อเจียมตัว ไม่สู้ สิ่งที่ทำได้คือ เราเร่งให้เกิดสถานการณ์ปัญหาโดยที่อยู่ใกล้ๆ โดยการเดินมาให้อาหารสุนัขตัวที่ไม่สู้ และคิดว่าอีกตัวที่มีปัญหาต้องเดินมารังแก และแย่งอาหารกิน เมื่อเราอยู่ใกล้ๆ แสดงให้เห็นว่าไม่สามารถทำแบบนี้ได้โดยการปรามด้วยเสียงหากไม่ฟังใช้วิธีแสดงสัญลักษณ์ทางมือ ยกฝ่ามือเป็นท่าห้าม พร้อมเสียงดุ เข้ม […]
เคล็ดลับการเลี้ยงสุนัข 4 สิ่งที่ควรระวังสำหรับการเลี้ยงหมาในหน้าฝน
ในบางครั้งเราเองก็ต้องยอมรับว่าในฤดูที่แตกต่างกันออกไปนั้นก็ส่งผลต่อการเลี้ยงสุนัขที่ต่างกันออกไปด้วย เพราะว่าหากเราสังเกตดีๆไม่ว่าจะเป็น หน้าร้อน หน้าฝน หรือ หน้าหนาว พฤติกรรมทั้งของเราและของน้องหมาเองก็ดีก็จะค่อนข้างแตกต่างกัน เพราะฉะนั้นการดูแลทั้ง สุขภาพร่างกาย และ สุขภาพจิตใจ ของสุนัขถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ บทความนี้จะพาคุณมาดูว่าใน ฤดูฝน หรือ หน้าฝน มีข้อควรระวังเรื่องไหนบ้างในการเลี้ยงสุนัข 1.เลี้ยงสุนัข ในหน้าฝน ข้อควรระวัง – ความชื้น แน่นอนว่าในหน้าฝนนั้นความชื้อที่สุนัขจะได้พบจะมีมากเป็นพิเศษ และเจ้าความชื้นนี้ก็ไม่ใช่เพื่อนที่ดีนักสำหรับสุนัข หากคุณปล่อยสุนัขให้ไปตากฝนหรือเล่นน้ำบ่อยๆ หรือปล่อยให้อยู่ในที่อับชื้นมีน้ำขัง แน่นอนว่ามันจะส่งผลต่อสุขภาพผิวหนังของน้องหมาของคุณอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นในช่วงหน้าฝนนี้คุณก็ควรที่จะต้องระวังเรื่องเหล่านี้มากเป็นพิเศษเสียหน่อบ 2.เลี้ยงสุนัข ในหน้าฝน ข้อควรระวัง – สัตว์และเห็ดอันตราย ในช่วงหน้าฝนสิ่งที่คุณต้องคอยจับตามองเลยก็คือพวกสัตว์มีพิษที่มักจะมากับฝน ไม่ว่าจะเป็น ตะขาบ แมงป่อง งู หรือสัตว์อื่นๆ ที่จะออกมาอย่างชุกชุมในช่วงนี้ เพราะสัตว์บางชนิดไม่ได้แค่ทำให้สัตว์ของคุณได้รับบาดเจ็บเพียงเท่านั้น แต่อันตรายถึงชีวิตเลยก็มี เช่นเดียวกับเห็ดราต่างๆที่จะขึ้นมาในช่วงนี้ก็เป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วง คุณต้องคอยดูไม่ให้สัตว์เลี้ยงของคุณไปกินมันเข้า 3.เลี้ยงสุนัข ในหน้าฝน ข้อควรระวัง – ท้องฟ้าที่มืดครึ้ม คุณรู้หรือไม่ว่าสัตว์เองก็มีการรับรู้ต่อสภาพอากาศที่เปลี่ยนไปเช่นกัน และในช่วงหน้าฝนนี้อาจจะทำให้ระบบเผาผลาญของน้องหมาของคุณทำงานได้แย่ลง ซึ่งจะส่งผลให้น้องหมาของคุณอาจจะไม่สบายตัวและหงุดหงิดได้ ในช่วงนี้คุณควรดูแลเขาอย่างใกล้ชิด เพราะเขาอาจจะอยู่ในช่วงที่มีความอ่อนไหวมากๆนั่นเอง 4.เลี้ยงสุนัข […]
เคล็ดลับการเลี้ยงสุนัข สิ่งที่เราเข้าใจผิดมาตลอดเกี่ยวกับพฤติกรรมของสุนัข
ในบางครั้งเราก็มักจะมีความเชื่อบางอย่างที่ฝังตัวมาตั้งแต่เรายังเป็นเด็กๆ ซึ่งความเชื่อเหล่านั้นก็ไม่ได้ผิดหรือร้ายแรงอะไร แต่ว่าเป็นเหมือนการเข้าใจผิดมากกว่า บทความนี้จะมาแก้ไข ความเข้าใจผิดๆเกี่ยวกับพฤติกรรมของสุนัข มาฝากกัน มาดูกันว่าจริงๆแล้วที่เขาทำพฤติกรรมแบบนี้มันมีสาเหตุมาจากอะไร แล้วอย่างไรเป็นความเชื่อที่ผิดๆกันนะ 1.พฤติกรรมสุนัขที่คนเลี้ยงมักเข้าใจผิด – หมาหอนเพราะเห็นผี จริงๆแล้ว ความเข้าใจนี้เป็นความเข้าใจที่ผิด เพราะมีหลักฐานออกมายืนยันว่าที่จริงแล้วนั้นเวลาที่น้องหมาเราหอน โดยเฉพาะในตอนกลางคืน นอกจากจะขึ้นอยู่กับสายพันธ์แล้ว ก็ยังมีสาเหตุมาจากการที่น้องหมาจะหอนสื่อสารกันเพราะในช่วงเวลากลางคืนเป็นช่วงเวลาที่เงียบสงบ น้องหมามีอิสระมากกว่าในช่วงกลางวัน นอกจากนี้เราจะต้องทำความเข้าใจก่อนว่าน้องหมาของเรานั้นจะมีการได้ยินที่ชัดกว่าของมนุษย์ เพราะฉะนั้นแล้วหากมีเสียงบางอย่างที่มากวนใจเขาในเวลากลางคืนเขาก็อาจจะส่งเสียงหอนออกมาได้ แต่ในฐานะที่เป็นคนไทยอย่างเรา มันก็ยากอยู่พอสมควรที่จะลบล้างความเชื่อนี้ เพราะบางทีน้องหมาก็หอนเสียจนเจ้าของขนลุกเกลียวไปตามๆกัน 2.พฤติกรรมสุนัขที่คนเลี้ยงมักเข้าใจผิด – น้องหมาขึ้นขี่คร่อมของแล้วอยากจะผสมพันธุ์ จริงๆแล้วข้อนี้ก็ไม่ถือว่าเป็นความเข้าใจผิดเสียทีเดียว แต่ก็ไม่ใช่แบบนั้นเสมอไป เพราะถ้าเราสังเกตดูดีๆ ลักษณะอาการแบบนี้ก็สามารถเกิดขึ้นได้ตั้งแต่น้องหมายังอายุน้อยๆ ซึ่งแน่นอนว่าเขายังไม่มีอาการที่อยากจะผสมพันธุ์อย่างแน่นอน หรือในบางกรณีที่เกิดขึ้นกับเพศเมีย ก็จะเป็นในลักษณะเดียวกัน เพราะว่าท่านี้อาจจะไปคล้ายคลึงกับท่าผสมพันธุ์ของสุนัข ซึ่งถ้าเจ้าของจะเกิดอาหารเข้าใจผิดก็ไม่แปลกอะไร มีความเป็นไปได้ส่วนหนึ่ง แต่ว่าจริงๆแล้วท่าน้ยังหมายถึงการแสดงอำนาจว่าน้องหมาเขาเป็นใหญ่กว่าอีกสิ่งหนึ่งด้วยเช่นกัน 3.พฤติกรรมสุนัขที่คนเลี้ยงมักเข้าใจผิด – เดินตามผู้ใหญ่หมาไม่กัด ร้อยทั้งร้อยถ้าเป็นคนไทย คุณก็จะต้องเคยได้ยินสำนวนนี้มาอย่างแน่นอน แต่ความจริงแล้วนั้นเราเองต่างก็รู้ดีว่ามันไม่ใช่อย่างนั้น จะเด็กจะผู้ใหญ่หมาก็สามารถกัดได้ทั้งนั้น แต่ข้อสงสัยก็อาจจะไปตกอยู่ที่แล้วทำมู้ใหญ่ถึงโดนกัดน้อยกว่าเด็ก ส่วนหนึ่งก็อาจจะมาจากทักษะการป้องกันตัวที่ผู้ใหญ่ย่อมมีมากกว่าเด็กเป็นเรื่องปกติ อีกหนึ่งปัจจัยหนึ่งก็คือ เด็กจะแสดงอาการหวาดกลัวให้สุนัขเห็นได้มากกว่าผู้ใหญ่ เพราะสุนัขจะสามารถรับรู้ได้ว่าใครที่กลัวหรือไม่กลัวเขา เพราะฉะนั้นแล้วจึงเป็นสาเหตุแห่ง การเข้าใจพฤติกรรมสุนัขแบบผิดๆ นั่นเอง #พฤติกรรมของสุนัข #เคล็ดลับการเลี้ยงสุนัข #เจ้าตูบ
เคล็ดลับการเลี้ยงสุนัข 4 วิธีรับมือกับกลิ่นตัวสุนัข ไม่อยากให้สุนัขตัวเหม็น ต้องทำอย่างไร
เรื่องกลิ่นตัวกับสุนัขเป็นเรื่องที่อาจจะหลีกเลี่ยงได้อยาก แต่ก็ใช่ว่าจะไม่สามารถจัดการได้เลย แต่เจ้าของสุนัขจะต้องทำความเข้าใจก่อนว่าสุนัขบางสายพันธุ์นั้นก็มีสิทธิ์ที่จะมีกลิ่นตัวได้ง่ายกว่าสายพันธุ์บางพวก เช่นประเภทที่มีขนยาว หรือหูพับลงมา เพราะฉะนั้นแล้วเจ้าของต้องทำความเข้าใจกับสายพันธุ์ของสุนัขที่คุณเลี้ยงในระดับหนึ่งก่อน บทความนี้มีเคล็ดลับแบบเบี้ยงต้น วิธีทำให้สุนัขหายตัวเหม็น สุนัขมีกลิ่นตัว ต้องทำอย่างไร 1.วิธีทำให้สุนัขหายตัวเหม็น – นอกจากกลิ่นแล้วต้องสังเกตอย่างอื่นด้วย เจ้าของจะต้องดูด้วยว่านอกจากกลิ่นตัวของสุนัขแล้ว สุนัขของคุณนั้นมีปัญหาเรื่องโรคผิวหนังอย่างอื่นร่วมด้วยหรือเปล่า เช่น ตุ่มต่างๆ ผื่น ขนร่วง หากคุณพบว่าสุนัขของคุณมีปัญหาทางผิวหนังร่วมกับกลิ่นตัวด้วย คุณคงรรีบพาสุนัขของคุณไปพบแพทย์โดยด่วน ก่อนที่มันจะลามไปมากกว่าเดิม เพราะนั่นอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้สุนัขของคุณมีกลิ่นตัวแรงก็เป็นได้ 2.วิธีทำให้สุนัขหายตัวเหม็น – อย่าให้สุนัขของคุณเล่นน้ำบ่อยๆ แน่นอนว่าในช่วงเวลาที่อากาศร้อนๆ คุณก็อาจจะอยากให้สุนัขของคุณได้เล่นน้ำคลายร้อน ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติ แต่ว่าคุณไม่ควรปล่อยให้เขาเล่นน้ำมากจนเกินไป เพราะว่าจะทำให้สุนัขของคุณมีความชื้นและกลิ่นอับที่มากกว่าปกติ และยิ่งในช่วงหน้าฝนยิ่งแล้วใหญ่ เพราะความชื้นและกลิ่นอับเหล่านี้จะทำให้สุนัขของคุณมีปัญหาเรื่องกลิ่นตัวมากยิ่งขึ้น 3.วิธีทำให้สุนัขหายตัวเหม็น – อาบน้ำแล้วต้องเป่าขนให้แห้ง การอาบน้ำดูเป็นอะไรที่พื้นฐานมากที่สุดในการกำจัดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ของสุนัข แต่คุณรู้หรือไม่ว่ากลิ่นเหล่านั้นอาจจะไม่หายไป และกลับมามีกลิ่นทันทีหลังจากทีคุณอาบน้ำวันเดียวเลยก็เป็นได้ เพราะเจ้าของหลายๆคนมักจะละเลยและไม่ให้ความสำคัญกับการเป่าขน หลายๆคนอาจจะคิดว่าปล่อยไว้เดี๋ยวก็แห้งเอง คุณสามารถทำแบบนั้นได้บางสายพันธุ์เท่านั้น สายพันธุ์ที่มีขนยาวคุณไม่ควรปล่อยให้แห้งเองเด็ดขาด 4.วิธีทำให้สุนัขหายตัวเหม็น – ทำความสะอาดข้าวของสุนัข บางคนอาจจะสงสัยว่าเราก็ดูแลรักษาความสะอาดตัวสุนัขเป็นอย่างดีแล้วทำไมยังมีกลิ่นแรงตลอดเวลา คุณอาจจะมองข้ามเบาะนอน ผ้าปู เฟอร์นิเจอร์ที่สุนัขชอบไปคลุกคลี ผ้าห่ม ตุ๊กตาบางชนิดที่สุนัขของคุณชอบไปอยู่ด้วย สิ่งที่ก็เป็นอีกสิ่งที่จะทำให้ สุนัขมีกลิ่นตัวแรง ได้ […]
เคล็ดลับการเลี้ยงสุนัข รู้หรือไม่ 4 สาเหตุทำไมสุนัขถึงกินน้อยลง ?
สิ่งที่จะพาให้เจ้าของน้องหมาทั้งหลายกลุ้มใจไปตามๆกันเลยก็คืออาการ สุนัขเบื่ออาหาร สุนัขไม่ยอมกินอาหาร สาเหตุของอาการนี้มีอยู่หลายข้อเลยทีเดียว หากสุนัขบ้านไหน ไม่ยอมกินอาหาร หรือ กินน้อย ให้เจ้าของลองสังเกตอาการเหล่านี้ว่าอาการเบื่ออาหารน้องหมาเข้าข่ายมาจากสาเหตุต่างๆเหล่านี้หรือเปล่า 1.สุนัขไม่ยอมกินอาหาร – อยู่ในช่วงหลังผ่าตัด หากคุณมีสุนัขที่เพิ่งได้รับการผ่าตัดมาแล้วไม่ยอมทานอาหารหรืออาจจะทานได้น้อยลงในช่วงที่เขานั้นพักฟื้น ขอให้คุณรู้ไว้ว่าสุนัขของคุณอาจจะต้องจัดการกับเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน หรือว่าความเจ้บปวดจากการผ่าตัด และความเจ็บปวดเนี้ยแหละที่อาจจะเป็นตัวการทำให้เขาซึมลงและไม่อยากอาหาร และในบางครั้งสุนัขบางตัวที่ได้รับยาบางชนิดเมื่อไปผ่าตัด ก็จะสามารถกลับมาทานอาหารได้เอง ทางที่ดีคุณควรสังเกตในช่วงนี้ว่าเขาเป็นนานแค่ไหน หากนานเกินไปคุณควรไปพบแพทย์ 2.สุนัขไม่ยอมกินอาหาร – อาหารใหม่ หากสุนัขของคุณมีท่าทีไม่อยากอาหาร หรือกินอาหารได้น้อยลงหลังจากที่คุณได้มีการเปลี่ยนแปลงอาหารของเขา อาจจะด้วยเหตุผลจากอาการป่วยของเขา หรือจำกัดค่าจ่าย หรืออาจจะเป็นให้เขาลดน้ำหนักก็ตาม หากคุณเปลี่ยนอาหารไปโดยสิ้นเชิงเลย ส่วนมากสุนัขจะมีปัญหากับอาหารเหล่านั้น ทางที่ดีคือคุณควรจะผสมอาหารใหม่และอาหารเก่าในช่วงแรกเสียก่อน 3.สุนัขไม่ยอมกินอาหาร – สภาพจิตใจ รู้หรือไม่ว่าสภาพจิตใจของสุนัขมีผลต่อการกินอาหารของเขามากๆ แค่สภาพแวดล้อมรอบๆตัวของเขาเปลี่ยนไปก็อาจจะเป็นเหตุผลทำให้เขาซึมได้แล้ว จะเห็นได้จากกรณีที่มีการย้ายบ้านแล้วน้องหมายังไม่ชิน ก็จะเกิดอาการซึมและประหม่าจนไม่อยากอาหารก็เป็นได้ หรือในกรณีที่คุณนำสุนัขของคุณไปฝากเลี้ยงเอาไว้ สาเหตุนี้ต่อให้ทำอาหารแบบเดียวกันนสุนัขก็จะกินได้น้อยอยู่ดี 4.สุนัขไม่ยอมกินอาหาร – อาการป่วย แน่นอนว่าสาเหตุนี้เป็นสาเหตุที่จะทำให้สุนัขอยากอาหารน้อยลงอย่างแน่นอน โดยเฉพาะเมื่อเขามีปัญหาเกี่ยวกับฟัน เขาจะไม่รู้สึกสนุกแน่ถ้าเขาไม่สามารถเคี้ยวอาหารได้อย่างเต็มที่เพราะอาการเจ็บปวด และด้วยอาการเหล่านี้อาจจะไปก่อความเครียดในสุนัขก็เป็นได้ รวมไปถึงการทานอาหารน้อยลงนี้จะนำไปสู่โรคอื่นๆหรืออาการที่น่าเป็นห่วงได้อีกด้วย เพราะฉะนั้นแล้วหากคุณเจ้าของสังเกตว่าน้องหมามี อาการไม่อยากอาหารในสุนัข เป็นเวลานาน คุณควรพาเขาไปพบแพทย์น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด #สุนัขเบื่ออาหาร #หมาไม่ยอมกินอาหาร #เจ้าตูบ
เคล็ดลับการเลี้ยงสุนัข รู้หรือไม่ ผักชนิดไหนที่ควรหลีกเลี่ยง ผักที่เป็นอันตรายต่อน้องหมา
สำหรับประเด็นนี้ชอบมีเจ้าของหลายๆคนที่มักจะเข้าใจผิดว่า ผักอะไรก็สามารถให้หมารับประทานได้ เพราะเต็มไปด้วยคุณประโยชน์ต่างๆ แต่ขอบอกเลยว่าเป็นความเข้าใจที่ผิดอย่างรุนแรง เพราะใช่ว่าผักทุกอย่างจะสามารถให้สุนัขกินได้ บางอย่างควรหลีกเลี่ยงอย่างเด็ดขาด บทความนี้จะมาบอก ผักชนิดไหนที่สุนัขไม่สามารถกินได้ ของกินที่เป็นอันตรายต่อหมา ในหมวดหมู่ของผัก 1.ผักที่สุนัขควรหลีกเลี่ยง – ถั่วฝักยาว ถั่วฝักยาวเป็นหนึ่งในผักเคียงยอดฮิตของประเทศไทย แล้วด้วยลักษณะของมันที่ยาวๆถือได้ง่ายๆก็เหมาะเหลืออเกินกับการทำเป็นของกินเล่นให้กับบสุนัข แต่ควรหลีกเลี่ยงถั่วฝักยาว เพราะว่าถั่วฝักยาวนั้นเป็นพืชอวบน้ำ ที่สามารถทำให้น้องหมาท้องอืดได้ เพราะน้องหมาจะไม่สามารถย่อยได้นั่นเอง เพราะฉะนั้นเวลาที่คุณมีถั่วฝักยาวเหลือๆก็อย่าเผลอไปให้น้องหมาเชียวล่ะ 2.ผักที่สุนัขควรหลีกเลี่ยง – บร็อคโคลี่ ต้องบอกไว้ก่อนว่าผักชนิดนี้ใช่ว่าสุนัขจะไม่สามารถทานได้เลย สามารถทานได้เช่นเดียวกัน และมีคุณประโยชน์ต่อร่างกาย แค่ว่าถ้าน้องหมานั้นได้รับประทานเจ้าบร็อคโคลี่ไปในจำนวนที่มากเกินไปจากประโยชน์จะกลายเป็นโทษไปในทันที เจ้าผักตัวนี้จะกลายเป็นพิษต่อลำไส้ของน้องหมาเพราะว่าจะเกิดการระคายเคือง อย่าลืมว่าลำไว้ของคนเรากับลำไว้ของน้องนั้นไม่เหมือนกัน 3.ผักที่สุนัขควรหลีกเลี่ยง – มะเขือเทศ มะเขือเทศที่เป็นพิษในที่นี้ไม่ใช่มะเขือเทศสีแดงๆแต่อย่างไร แต่เป็นมะเขือเทศดิบๆที่มีสีเดียวเพราะว่าจะมีสารไกลโคแอลคาลอยด์ ซึ่งเจ้าสารนี้จะเป็นพิษกับน้องหมาของคุณ ถ้าเกิดได้ทานไปแล้วล่ะก็ น้องหมาอาจจะท้องเสีย อาเจียน กล้ามเนื้ออ่อนแรงและหายใจไม่สะดวกกันเลยทีเดียว และในบางกรณีอาจจะร้ายแรงถึงขั้นโคม่าได้เลยทีเดียว 4.ผักที่สุนัขควรหลีกเลี่ยง – หัวหอมและกระเทียม แน่นอนว่าคงไม่มีเจ้าของคนไหนที่จะโยนหัวหอมหรือกระเทียมทั้งลูกไปให้กับน้องหมากินอย่างแน่นอน แต่อย่าลืมไปว่าในบางบ้านที่มีการปรุงอาหารให้กับน้องหมากินนั้น ถ้าคุณใส่ส่วนผสมเหล่านี้ไปมันจะเป็นอันตรายต่อน้องหมามากๆในกรณีที่เกิดการสะสม ซึ่งจะส่งผลให้เกิดโลหิตจาง เหงือกซีด หายใจลำบาก ไตวายเฉียบพลันได้ ซึ่งร้ายแรงถึงขนาดต้องส่งโรงพยาบาลในบางกรณีเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นในการปรุงอาหารหรือการนำเอาอาหารให้สุนัขของคุณกินก็ควรหลีกเลี่ยง ผักที่สุนัขไม่สามารถกินได้ อย่างหัวหอมและกระเทียมพวกนี้ด้วย เพื่อสุขภาพของสัตว์ที่คุณรักจะได้อยู่กันไปนานๆ […]
เคล็ดลับการเลี้ยงสุนัข 4 ผลไม้สำหรับสุนัข ผลไม้ที่สุนัขทานได้ เสริมสร้างสุขภาพน้องหมาด้วยผลไม้ !
สำหรับเจ้าของบางคนที่อยากจะให้น้องหมาหรือสุนัขที่คุณเลี้ยงได้มีโอกาสรับวิตามินจากผลไม้โดยตรงบ้าง แต่ก็กังวลว่าจะเป็นพิษกับสุนัขหรือเปล่า บทความนี้มี ผลไม้สำหรับหมา ผลไม้ที่หมากินได้ ผลไม้ที่สุนัขทานได้ มาฝากกัน มาดูกันว่าผลไม้ชนิดไหนบ้างที่จะมาเสริมสร้างสุขภาพของสัตว์เลี้ยงของคุณให้มีสุขภาพร่างกายแข่งแรงจากคุณประโยชน์โดยตรงจากธรรมชาติเหล่านี้ 1.ผลไม้ที่สุนัขทานได้ – สตรอเบอร์รี่ ผลไม้รสเปรี้ยวของโปรดของมนุษย์อย่างเราๆชนิดนี้ก็สามารถเป็นอาหารให้กับน้องหมาของเราได้เช่นกัน แถมยังเป็นผลไม้ที่เหมาะสำหรับน้องหมาที่ต้องการลดน้ำหนักอยู่ด้วย เพราะฉะนั้นหากเจ้าของคนไหนอยากให้อาหารว่างสุนัขแต่ก็ไม่อยากเพิ่มน้ำหนักให้กับเขา ขอให้พิจารณาผลไม้ชนิดนี้ในการให้กับเขา เพราะว่าผลไม้ชนิดนี้ยังอุดมไปด้วยคุณประโยชน์และสารอาหารมากมาย เป็นหนึ่งในตัวเลือกสุดฮิตของผลไม้ที่ให้น้องหมารับประทานเลยทีเดียว 2.ผลไม้ที่สุนัขทานได้ – ทับทิม หลายๆคนอาจจะแปลกใจ แต่เจ้าทับทิมเนี้ยละอุดมไปด้วยคุณค่าของสารอาหารมากมาย จะเป็นตัวช่วยในการบรรเทาเรื่องโรคหัวใจให้กับน้องหมาของคุณ เท่านั้นยังไม่พอจะไปช่วนเคลือบฟันของน้องหมา สามารถป้องกันฟันผุและโรคเหงือกในสุนัขได้อีกด้วย ที่สำคัญเลยยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่จะไปดูแลและปกป้องลำไว้ของสุนัขไม่ให้เกิดโรคมะเร็งในลำไส้ของสุนัขได้อีกด้วย 3.ผลไม้ที่สุนัขทานได้ – กล้วย ผลไม้ชนิดนี้เป็นหนึ่งในผลไม้ที่หาทานง่ายมากที่สุดในบ้านเรา แถมน้องหมาก็สามารถทานได้อีกด้วย ในกล้วยจะมีทั้งวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อน้องหมาอยู่มาก มีโพแทสเซียมและวิตามินซี รับรองเลยว่าถ้าคุณให้น้องหมาของคุณทานผลไม้ชนิดนี้ สุขภาพและการขับถ่ายของน้องหมาคุณจะดีขึ้นอย่างแน่นอน เรียกได้ว่าสำหรับบ้านเรากล้วยนี่ก็ฮิตสุดๆในการเลี้ยงน้องหมา 4.ผลไม้ที่สุนัขทานได้ – แตงโม ผลไม้ชนิดนี้ขอแนะนำเลย เพราะว่าประเทศไทยบ้านเราเป็นประเทศเมืองร้อน เพราะฉะนั้นสุขภาพของน้องหมาที่อาจจะเกิดภาวะฮีทสโตรกก็มีอยู่สูงมาก แต่แตงโมก็เป็นอีกหนึ่งผลไม้ดับร้อนที่จะสามารถช่วยดับร้อนให้กับสัตว์เลี้ยงของคุณได้เป็นอย่างดี แถมยังราคาถูกอีกด้วย รับรองว่าถ้าแช่เย็นแล้สเอามาให้สุนัขทาน เขาจะต้องชอบมากแน่ๆ แต่ข้อควรระวังเลยก็คือควรปลอกเปลือกก่อน เพียงเท่านี้คุณก็สามารถให้ ผลไม้ที่สุนัขสามารถทานได้ กับเขาโดยไม่ต้องกังวลอีกต่อไป #ผลไม้สำหรับหมา #ผลไม้ที่หมากินได้ #เจ้าตูบ
เคล็ดลับการเลี้ยงสุนัข วิธีการลงโทษสุนัขอย่างถูกต้อง เมื่อน้องหมาดื้อ ทำอย่างไร ?
แน่นอนว่า สุนัข เป็นสิ่งมีชีวิตที่สามารถดื้อกับเราได้ ถึงแม้อาจจะไม่เมินเราเท่า แมว แต่สุนัขก็สามารถสร้างความกวนใจในบางพฤติกรรมของเขาให้กับเจ้าของได้เช่นกัน เพราะฉะนั้นแล้วเจ้าของสุนัขทั้งหลายจึงจำเป็นอย่างมากที่จะต้องรู้เคล็ดลับหรือ วิธีการลงโทษการลงโทษสุนัขที่ถูกต้อง เมื่อพวกเขามีพฤติกรรมที่ไม่น่ารัก 1.วิธีลงโทษสุนัขอย่างถูกต้อง – ไม่ตะคอกสุนัข หลายๆคนคิดว่าการขึ้นเสียงใส่สุนัขจนสุนัขตกใจและหวาดกลัวเป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถทำให้สุนัขของเราเชื่อฟังคำสั่งของเราได้ ส่วนหนึ่งก็ใช่ แต่วิธีนี้ก็ยังถือว่าเป็นวิธีที่ไม่ถูกต้องและไม่เหมาะสมอยู่ เพราะว่าการขึ้นเสียงหรือตะคอกสุนัขอาจจะทำลายความสัมพันธ์และความเชื่อใจระหว่างเรากับสุนัขลงได้ สุนัขอาจจะไม่ระเบิดพฤติกรรมก้าวร้าวออกมาในทันที แต่การตะคอกใส่เขาจะทำให้เขาเกิดความเครียดสะสมนั่นเอง 2.วิธีลงโทษสุนัขอย่างถูกต้อง – การตีไม่ใช่การแก้ปัญหา สำหรับวิธีนี้เป็นวิธีที่คนส่วนใหญ่มักจะนึกถึงกันมากที่สุด เพราะว่าต้องการให้สุนัขจำว่าไม่ควรทำพฤติกรรมแบบนี้ การตีจึงเป็นทางออก แต่ว่าการตีนั้นจะทำให้เกิดปัญหาก้าวร้าวตามมาทีหลังได้เช่นกัน การตีจะส่งผลเสียต่อสุขภาพจิตของสุนัขอีกด้วย แถมในบางครั้งเขาอาจจะมีอาการก้าวร้าวแสดงออกมาในทันที เพราะว่าสัญชาตญาณของเขาในการป้องกันตัวเอง ซึ่งในบางกรณีถ้าเขาตกใจจนสู้กลับ เจ้าของอาจจะได้รับบาดเจ็บก็เป็นไปได้ 3.วิธีลงโทษสุนัขอย่างถูกต้อง – ห้ามลงโทษย้อนหลังเด็ดขาด อาจจะดูไม่ค่อยเป็นไปได้เท่าไรสำหรับข้อนี้แต่ขอบอกว่า เจ้าของสุนัขบางคนอาจจะเป็น เพราะว่าในตอนที่เราเจอเขาทำพฤติกรรมที่ไม่ดีอยู่ในตอนนั้นเราอาจจะไม่ว่างมาดุเขา หรือลงโทษเขา เลยปล่อยไปก่อน แล้วกลับมาลงโทษทีหลัง ขอบอกเลยว่าวิธีนี้เป้นวิธีที่ไม่ควรอย่างยิ่ง เพราะสุนัขจะไม่สามารถจำได้ว่าเขาทำอะไรผิด แล้วทำไมตอนนั้นเขาถึงถูกลงโทษ การทำแบบนี้จะทำให้สุนัขสับสนแล้วก็ไม่ค่อยเกิดประโยชน์อะไรเลย 4.วิธีลงโทษสุนัขอย่างถูกต้อง – แสดงความเป็นจ่าฝูงให้ได้ สำหรับข้อนี้ หากสุนัขของคุณเคารพและเชื่อฟังคุณในฐานะที่คุณเป็นจ่าฝูง คุณแทบจะไม่ต้องพึ่งพาวิธีอื่นๆเลย เพราะว่าวิธีนี้จะเป็นการทำให้สุนัขของคุณจำนนต่อคุณแต่โดยดี การแสดงพลังให้เห็นควาเป็นจ่าฝูงมีวิธีและไม่ใช่ว่าทำได้ง่ายๆ แต่ก็ไม่ได้ทำยากจนเกินไป เชื่อหรือไม่ว่า สุนัขนั้นสามารถรับรู้อารมณ์ของมนุษย์ได้ คุณแค่ต้องนิ่งและแผ่รังสีอำนาจนั้นมาจากตัวคุณให้สุนัขของคุณรับรู้ให้ได้ […]
เทคนิคการเลี้ยงสุนัข รวม 4 กิจกรรมที่เอาไว้เล่นกับน้องหมาแก้เบื่อ
สุนัขก็เป็นสัตว์ที่สามารถเบื่อได้เหมือนกับมนุษย์เรา เพราะฉะนั้นหากคุณมีเวลาคุณก็คสรพาเขาออกไปเดินเล่นข้างนอกบ้าง แต่ถ้าหากคุณไม่สามารถพาเขาออกไปได้ล่ะ จะต้องทำอย่างไร ขอบอกเลยว่าเจ้าของสุนัขทั้งหลายไม่ต้องเป็นกังวลไป เพราะว่า บทความนี้จะแนะนำกิจกรรมที่คุณสามารถทำได้กับสุนัขโดยยที่ไม่ต้องออกไปข้างนอก เป็นวิธีแก้เบื่อง่ายๆที่ไม่ว่าใครก็นำไปใช้ได้ 1.วิธีแก้เบื่อสุนัข – ฝึกเก็บของเข้าตะกร้า กิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมที่จะทำให้คุณได้ใช้เวลากับน้องหมาของคุณมากยิ่งขึ้น แถมกิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมที่เมื่อฝึกเสร็จหรือสำเร็จแล้วก็จะเป็นประโยชน์แก่ตัวผู้เลี้ยงเองด้วย คุณอาจจะเริ่มฝึกจากการนำสิ่งของมาวางไว้อาจจะไม่ต้องเยอะมาก แล้วหาตะกร้ามาวางไว้แล้วค่อยๆฝึกให้เขาเก็บของเหล่านั้นลงตะกร้า เมื่อเขาทำสำเร็จคุณควรให้รางวัลเขาหรือว่ากล่าวชมเชยเขา วิธีการนี้สามารถนำไปฝึกกับการเก็บของเล่นของเขาเองได้ 2.วิธีแก้เบื่อสุนัข – เล่นซ่อนหา สำหรับกิจกรรมนี้เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมสุดฮิตที่ไม่ว่าใครก็สามารถเล่นได้ โดยที่คุณอาจจะไปซ่อนแล้วพยายามเรียกเข้าให้มาหาคุณ ซึ่งในตอนแรกคุณอาจจะต้องบอกให้น้องหมารอคุณอยู่ที่อีกห้องหนึ่งแล้วเมื่อคุณทำการซ่อนตัวเสร็จแล้วค่อยส่งสัญญาณเรียกเขาให้มาหาคุณ ทีนี้แลหะหากคุณซ่อนจนเนียนคุณก็จะได้เห็นท่าทีการตามหาเจ้านายของเขากัน 3.วิธีแก้เบื่อสุนัข – เขาวงกตฝึกไหวพริบ สำหรับกิจกรรมนี้เชื่อว่าเจ้าของหลายๆคนก็คงเห็นตามคลิปวีดีโอยูทูปกันมาบ้างแล้ว รู้หรือไม่ว่าเราก็สามารถฝึกสุนัขของเราได้ แต่โดยที่สิ่งทที่เราวางไว้เป็นเขาวงกตนั้นจะต้องมีน้ำหนักเสียหน่อย ไม่ใช่แค่เพียงขวดน้ำเปล่าๆที่สะกิดก็ล้ม คุณควรทำให้มันมีน้ำหนักเสียหน่อยเพื่อฝึกให้สุนัขหาทางแก้ไขปัญหาแล้วเดินไปตามทาง คุณสามารถเพิ่มความยากง่ายของด่านไปได้เรื่อยๆอีกด้วย 4.วิธีแก้เบื่อสุนัข – ต่อสู้เพิ่มความคึกคัก จริงๆแล้วข้อนี้เป็นกิจกรรมสุดเบสิคที่หลายๆบ้านอาจจะเล่นกับน้องหมาของตัวเองอยู่เป็นประจำแล้วก็ได้ เพราะว่ากิจกรรมนี้ไม่ใช่กิจกรรมที่ต้องอาศัยทักษะยากเย็นอะไร เพียงแค่คุณหาอาวุธที่จะต้องไม่ใช่วัตถุที่ก่อให้เกิดอันตรายหรือการบาดเจ็บต่อตัวน้องหมาในการมาเล่นต่อสู้กัน แต่ตัวคุณเองก็ต้องระวังรวมไปถึงคุณเองก็ต้องควบคุมว่าไม่ควรให้มันรุนแรงจนเกิดไปไม่ใช่นั้นคุณอาจจะได้รับบาดเจ็บจากการเล่นเสียเอง เพียงเท่านี้ก็เป็น กิจกรรมแก้เบื่อสำหรับสุนัข ที่คุณก็สามารถทำตามได้ง่ายๆในวันที่ไม่สามารถพาเขาออกไปเดินเล่นข้างนอกได้นั่นเอง #เทคนิคการเลี้ยงสุนัข #กิจกรรมเล่นกับน้องหมา #สัตว์โลกน่ารัก
เทคนิคการเลี้ยงสัตว์ เทคนิคการสร้างความมั่นใจ ก่อนพาสัตว์เลี้ยงไปหาหมอ
เจ้าของสัตว์เลี้ยงหลายๆคนต่างก็รู้กันดีว่าเวลาที่จะพา สัตว์เลี้ยงไปหาหมอ แต่ละทีนั้นมันยากแสนยากขนาดไหน เพราะเวลาที่จะไปทีไร น้องหมา น้องแมว ของเราต่างก็มีอาการหวาดระแวง สั่นเทา ตื่นตระหนก ทุกครั้งไป แต่อย่าได้กังวลไป บทความนี้มีเทคนิคการสร้างความมั่นใจให้กับสัตว์เลี้ยงของคุณ เพื่อที่เวลา พาสัตว์เลี้ยงไปหาหมอ ครั้งต่อไปเขาจะเป็นเด็กดีมากยิ่งขึ้น 1.เทคนิคพาสัตว์เลี้ยงไปพบหมอ – ต้องให้เขาคุ้นเคยกับการไปข้างนอกเสียก่อน เป็นธรรมดาของสัตว์เลี้ยงที่ไม่เคยออกไปไหน หรืออกไปทำความรู้จักกับบรรดาสัตว์อื่นๆ จะมีอาการตื่นตระหนกตกใจ เวลาที่คุณพาเขาไปหาหมอ เขาจะไม่คุ้นชินและรู้สึกว่าตัวเองไม่ปลอดภัย เขาเลยแสดงพฤติกรรมดังกล่าวนั้นออกมา สำหรับวิธีง่ายๆที่จะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับเขาเลยก็คือ การที่คุณพาเขาออกไปเดินเล่นสวนสาธารณะ พาไปข้างนอกให้เคยชินกับผู้คนหรือสัตว์อื่นๆบ้าง เพื่อลดอาการตื่นตระหนกเวลาที่เขาจะต้องไปพบกับหมอ วิธีนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งที่สามารถช่วยให้เขาผ่อนคลายได้เช่นเดียวกัน 2.เทคนิคพาสัตว์เลี้ยงไปพบหมอ – ต้องมั่นใจว่าเขาจะเคยชินกับสายจูงหรือกระเป๋าสัตว์เลี้ยง ข้อนี้ก็เป็นอีกข้อที่ดูจะเป็นเรื่องเล็ก แต่เป็นเรื่องที่เจ้าของสัตว์เลี้ยงทั้งหลายไม่อาจจะมองข้ามไปได้เลย เพราะว่าเวลาสัตว์เลี้ยงไปหาหมอ เขาจะมีอาการประหม่า หรือบางตัวอาจจะแสดงพฤติกรรมประหลาดๆหรือถึงขั้นก้างร้าวออกมาเลยก็เป็นได้ เพราะฉะนั้นทางที่ดีคุณจะต้องมั่นใจก่อนว่าคุณจะสามารถควบคุมเขาได้ระดับหนึ่ง โดยเฉพาะการฝึกให้พวกเขาคุ้นชินกับสายจูงหรือกระเป๋าสัตว์เลี้ยงเสียก่อน เพราะการลองให้พวกเขาใส่สายจูงและอยู่ในกระเป๋าสัตว์เลี้ยงครั้งแรกตอนที่ไปหาหมอเลยอาจจะเป็นความคิดที่ไม่ดีนัก 3.เทคนิคพาสัตว์เลี้ยงไปพบหมอ – สร้างขวัญกำลังใจและบรรยากาศที่ผ่อนคลาย ประสบการณ์การไปพบหมอของสัตว์เลี้ยงมีความสำคัญเป็นอย่างมากและไม่ควรที่จะมองข้าม เพราะว่าพวกเขานั้นจะจำประสบการณ์ที่ได้รับไปตลอด ทีนี้จะเปลี่ยนก็คงยาก ทางที่ดีคุณควรทำให้การไปพบหมอทุกครั้งเป็นไปด้วยความผ่อนคลาย อาจจะเป็นการสัมผัส การให้ขนมหรือของรางวัล รวมไปถึงการชมเชยสัตว์เลี้ยงของคุณทั้งก่อนและหลังพบแพทย์เพื่อให้เขารู้สึกผ่อนคลาย ไม่ประหม่า เป็นอีกหนึ่ง วิธีเพิ่มความมั่นใจให้กับสัตว์เลี้ยง ก่อน พาสัตว์เลี้ยงไปพบหมอ […]